ม้าเหล็กชนกระบะชุมพรดับ1ราย
รถไฟสปรินเตอร์ ชนกระบะ พ่อค้ารับซื้อมะพร้าวชุมพรดับคาที่
รถไฟสปรินเตอร์ ชนกระบะ พ่อค้ารับซื้อมะพร้าวชุมพรดับคาที่
เวลา 12.30 น. ร.ต.อ.ระนอง ชุมพินิจ ร้อยเวร.สภ.บ้านวิสัยเหนือ จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุรถไฟชนรถยนต์กระบะ มีผู้เสียชีวิตติดอยู่ในซากรถ ที่บริเวณหมู่ที่ 5 ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วนำกำลังสอบสวนไปที่เกิเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสายชลชุมพร และแพทย์เวร รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
ที่เกิดเหตุเป็นสะพานเหล็กที่รางรถไฟพาดผ่าน อยู่ห่างจากสถานีรถไฟทุ่งคาประมาณ 1 กม. พบรถไฟด่วนพิเศษ(สปรินท์เตอร์) ขบานที่ 40 ซึ่งวิ่งจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีปลายทางกรุงเทพมหานคร ขบวนดังกกล่าวมีตู้ผู้โดยสาร จำนวน 2 ตู้ ด้านหน้าขบวนพบรถยนต์กระบะ โตโยต้าตอนเดียว รุ่น ดีโฟร์ดี สีบรอนซ์ ทะเบียน บณ 5002 ชุมพร สภาพพังยับเยินเป็นเศษเหล็ก เหลือห้องผู้โดยสารเพียงเล็กน้อย ภายในซากรถพบร่างผู้เสียชีวิตติดอยู่ 1 ราย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสายชลชุมพร ต้องใช้เครื่องมือตัดถ่างแยกชิ้นส่วนรถออก ซึ่งการทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากขบวนรถไฟติดอยู่คอสะพาน ต้องใช้เวลานานร่วม 3 ชม.ก่อนจะนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้ ในสภาพกระโหลกศีรษะแตก มันสมองกระจายแขนขาและลำตัวหักหลายท่อน ทราบชื่อต่อมาคือนายสุรพล ไสสุวรรณ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 10 ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร
จากการสอบสวนทราบว่า นายสุรพล ผู้ตายมีอาชีพเป็นพ่อค้ารับซื้อมะพร้าวรายใหญ่ในเขตตำบลทุ่งคาและละแวกใกล้เคียง มีฐานะดี ก่อนเกิดเหตุนายสุรพล ได้ออกจากบ้านตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อตระเวนรับซื้อมะพร้าวตามสวนของชาวบ้านในหมู่บ้าน หลังจากนั้นได้บรรทุกมะพร้าวมาเต็มคันเพื่อกลับบ้าน ระหว่างทางได้ขับรถยนต์ตัดผ่านข้ามรางรถไฟบริเวณทางข้ามด้านทิศเหนือ ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟทุ่งคา ประมาณ 400 เมตร เป็นจังหวะเดียวกันกับ รถไฟขบวนด่วนพิเศษ สุราษฎร์-กรุงเทพ ที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงพุ่งชนอย่างจังเข้ากลางคันของรถยนต์กระบะ แล้วรถไฟขบวนดังกล่าว ลากติดไปกับขบวนรถเป็นระยะทางยาวประมาณ 600 เมตร ก่อนรถไฟจะหยุดนิ่งเนื่องจากตัวรถกระบะอัดติดกับคอสะพานเหล็ก เป็นเหตุให้นายสุรพล เสียชีวิตติดอยู่ในซากรถ
ด้าน ร.ต.อ.ระนอง ชุมพินิจ ร้อยเวรเจ้าของคดีเปิดเผยว่า รถไฟขบวนดังกล่าวเป็นรถไฟขบวนด่วนพิเศษ ที่วิ่งจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี มุ่งหน้าสู่ปลายทางกรุงเทพมหานคร โดยมีนายสมเจต ทองสาและนายสุทธิพร วรกิจ เป็น พขร. เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีรถยนต์กระบะขับตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด เป็นเหตุให้ พขร.ทั้ง 2 คน ไม่สามารถหยุดรถได้ทันท่วงที จึงพุ่งชนรถกระบะและเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งจะได้สืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง ในการดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้ขบวนรถไฟสายใต้หลายขบวนต้องเสียเวลาไปนานกว่า 5 ชม. เนื่องจากเป็นการยากที่จะลากเอาซากรถยนต์กระบะซึ่งกีดขวางทางรถไฟออก เพราะเป็นบริเวณคอสะพานเหล็กมีพื้นที่จำกัด ยากต่อการนำเครื่องมือหนักเข้าไปทำการขนย้ายซากรถยนต์กระบะออกมา