รัฐบาลเร่งปลูกหญ้าแฝก-ทำฝายฟื้นฟูอนุรักษ์ป่า

นายกรัฐมนตรี เวิร์กช็อปแผนฟื้นฟูการอนุรักษ์ป่า-ทำฝาย เร่งปลูกหญ้าแฝกช่วยอุ้ม-ชะลอน้ำ ดึงประชาชนมีส่วนร่วมดูแลป่าไม้เผยดินทรุดเกิดจากอุ้มน้ำจนอิ่มตัว-เตือนประชาชนอย่าอยู่ริมตลิ่งเกินไป

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการ พิจารณาแผนฟื้นฟูการอนุรักษ์ป่า และการทำฝาย ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ร่วมกับนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวในการประชุมว่า เป็นการหาแนวทางให้พื้นที่ต้นน้ำ สามารถอุ้มน้ำและชะลอน้ำให้มากที่สุด เพื่อลดภาระพื้นที่กลางน้ำ ซึ่งแผนเร่งด่วน จำเป็นต้องบริหารจัดการทำฝายถาวรและกึ่งถาวร รวมถึงปลูกหญ้าแฝก โดยจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน ส่วนแผนระยะยาว จะน้อมนำพระราชดำริในการปลูกป่าผสม ทั้งไม้เนื้อแข็งและไม้เนื้ออ่อน ให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม มีความรักและหวงแหนในการปลูกป่าและดูแลป่า

การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ ไม่ใช่การพิจารณาว่าจะปลูกป่าในพื้นที่ใดบ้าง แต่เป็นการสร้างความเข้าใจหลักการ การให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งนี้ หากประชาชนไม่มีส่วนร่วมในการดูแลป่าไม้อย่างทั่วถึง อาจทำให้ภาพการตัดไม้ทำลายป่ายังคงอยู่

จากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงถึงปัญหาดินทรุดบริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำที่ขยายวงกว้างออกไปหลายพื้นที่ว่า กรมทรัพยากรธรณีได้รายงานสาเหตุของปัญหาเกิดจากสภาพดินของพื้นที่บริเวณดังกล่าว อุ้มน้ำจนอิ่มตัว ซึ่งเป็นธรรมชาติของดินบริเวณริมฝั่งแม่น้ำทำให้มีการทรุดตัวของดิน โดยได้มีการประกาศให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงให้ขยับย้ายบ้านเรือนเข้าไปในที่ปลอดภัย พร้อมทั้งฝากเตือนให้ประชาชนที่ปลูกบ้านเรือนอยู่ติดกับตลิ่งให้ระมัดระวัง ถอยห่างออกไปจากตลิ่งเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เนื่องจากบริเวณพื้นที่ดินริมฝั่งแม่น้ำจะได้รับผลกระทบจากการกัดเซาะของน้ำทำให้ไม่แข็งแรง

สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหา เช่นบางประเทศต้องทำเขื่อนริมตลิ่งเพื่อความปลอดภัย อย่าอยู่ติดตลิ่งเกินไป ในประเทศไทยส่วนใหญ่ทำตามธรรมชาติไม่ได้มีเขื่อนริมตลิ่ง ทั้งนี้ ในอนาคตจะต้องดำเนินการสร้างเขื่อนริมตลิ่งเพื่อเสริมความแข็งแรง แต่ต้องดูเรื่องของงบประมาณ ในเบื้องต้นจะพิจารณาสร้างในจุดหลักๆ ก่อน เพราะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก จะต้องสำรวจเพิ่มเติมว่าบริเวณไหนที่เป็นจุดเสี่ยง น่าเป็นห่วง สำหรับพื้นที่เสี่ยงของแต่ละจังหวัดมอบหมายให้จังหวัดลงพื้นที่สำรวจ พร้อมทั้งหารือกับประชาชนถึงอันตราย เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ และนำเรื่องเสนอให้ส่วนกลางพิจารณาในการสนับสนุนงบประมาณ ทั้งนี้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหา ทั้งในเรื่องของมาตรการกำหนดขอบเขตพื้นที่สร้างบ้านเรือนไม่ให้ใกล้ริมตลิ่ง และการสำรวจสภาพความแข็งแรงของดินบริเวณริมตลิ่ง