posttoday

คานศาลาวัดถล่มทับคนงานดับ1สาหัส2

06 กรกฎาคม 2555

คานจั่วศาลาวัดตาปะขาวหายเมืองพิษณุโลกพังถล่มทับคนงานเสียชีวิต 1 และเจ็บสาหัส 2 ราย

คานจั่วศาลาวัดตาปะขาวหายเมืองพิษณุโลกพังถล่มทับคนงานเสียชีวิต 1 และเจ็บสาหัส 2 ราย

พ.ต.ท.รักชาติ เรืองเจริญ สารวัตรเวร สภ.เมืองพิษณุโลก  ได้รับแจ้งเหตุตัวอาคารศาลาการเปรียญหลังใหม่ที่กำลังก่อสร้างของวัดตาประขาวหาย หมู่ 8 ต.หัวรอ  อ.เมือง จ.พิษณุโลก  พังถล่มลงมาทับคนงานได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย และมีคนงานถูกแผ่นปูนซีเมนต์ทับร่างอยู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงได้ประสานหน่วยกู้ภัยประสาทบุญสถาน นำอุปกรณ์เครื่องมือตัดถ่างรุดไปให้ความช่วยเหลือ  พร้อมรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ เดินทางไปทำการสอบสวน พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธรรมนูญ เพชรบุรีกุล ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พ.ต.อ.เดชชาติ วัฒนพนม ผกก.เมืองพิษณุโลก จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุภายในวัดตาประขาวหาย ใกล้กับซุ้มประตูทางเข้าตลาดสดหัวรอ พบเป็นสถานที่ก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ จำนวน 3 ชั้น  จุดเกิดเหตุอยู่ตรงซุ้มประตูทางด้านทิศเหนือ มีรถเครนขนาดใหญ่จอดติดเครื่องเอาไว้ตลอดเวลา สภาพถูกโครงสร้างของปูนซีเมนต์ร่วงมาใส่กระจกหลังคาแตกทะลุ กระจกด้านหน้าแตก และยังมีโครงสร้างทั้งคานปูนซีเมนต์ขนาดใหญ่ แผ่นพื้นปูนขนาดใหญ่ ซากเศษปูนเศษหิน และเศษเหล็กหล่นตกลงมากองกับพื้นดินด้านล่าง  พบมีคนงานเป็นชายถูกแผ่นปูนและคานปูนซีเมนต์ทับร่างกายท่อนล่างตั้งแต่เอวลงไป ไม่สามารถนำตัวออกมาได้ ทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้เข้าไปตัดไฟ เนื่องจากจุดเกิดเหตุติดกับหม้อแปลงฟ้าถูกคานปูนซีเมนต์ร่วงมาใส่พังเสียหาย ทำให้สายไฟฟ้าขาดทั้งหมด เพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า

คานศาลาวัดถล่มทับคนงานดับ1สาหัส2


 
นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้พยายามใช้เครื่องมืออุปกรณ์ตัดถ่างตัดเหล็กให้ขาด เพื่อเข้าไปให้การช่วยเหลือ  นายพงพนา วรรณาโส  อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70/3 ต.นายาง  อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ คนงานซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บรายสุดท้ายที่ถูกคานแผ่นปูนซีเมนต์ทับร่างอยู่    โดยใช้รถเครน 6 ล้อไปยกคานซีเมนต์กับแผ่นปูนขนาดใหญ่ออก แต่ปรากฏว่ายกขึ้นไม่ไหว  ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงต้องใช้เครื่องมือตัดเส้นเหล็กของคานปูนซีเมนต์ทีละเส้น ส่วนคนเจ็บยังนอนในสภาพเดิมและรู้สึกตัวดี เจ้าหน้าที่ได้ให้ดมออกซิเจน เพื่อให้การหายใจสะดวกขึ้น พร้อมกับเข้าไปประคองศีรษะช่วยเอาไว้ ตลอดเวลาเจ้าหน้าที่พยายามหาทางที่จะตัดเส้นเหล็กและยกคานปูนและแผ่นปูนที่ทับร่างคนงานออกให้ได้ แต่ไม่สามารถยกขึ้นได้เพราะมีน้ำหนักมากเกิน ต่อมาได้ประสานขอรถเครน 6 ล้อของเอกชนมาช่วยอีกคัน จนสามารถยกคานปูนซีเมนต์และแผ่นปูนขึ้นมา ก่อนจะนำร่างผู้บาดเจ็บออกมาได้ในเวลา 13.00 น. ซึ่งต้องใช้เวลานานร่วม 3 ชั่วโมง รีบนำส่งโรงพยาบาลพุทธชินราชทันที 
 
 จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุมีการก่อสร้างศาลาการเปรียญ โดยมีนายจำลอง ฝักผอง คนขับรถเครนขนาดใหญ่มายกอุปกรณ์การก่อสร้างขึ้นไปชั้นที่ 3 ระหว่างดึงเครนออกมา  ปรากฏว่าปลายเครนไปเกี่ยวกับคานรับน้ำหนักของจั่วชั้นที่ 3  ทำให้คานเกิดพังถล่มลงมาใส่คนงานคนที่นั่งร้านอยู่ชั้น 2 พังตามลงมาทั้งหมด จนเป็นเหตุให้มีคนงานถูกคานปูนซีเมนต์และแผ่นปูนหน้าจั่วร่วงลงมาทับร่างคนงานได้รับบาดเจ็บ จำนวนหลายราย ส่วนที่ได้รับบาดเจ็บ สาหัส มีนายธเนศ มุสิกสูท อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160/3 หมู่ 5  ต.มะตูม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ส่งโรงพยาบาลรัตนเวช และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนนายทิวา สุขแสง อายุ 23 ปี ไม่ทราบที่อยู่  ส่งโรงพยาบาลพุทธชินราช ส่วนผู้บาดเจ็บแพทย์ได้ทำการรักษา และอีกคนชื่อนายพงพนา วรรณาโส  อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70/3 ต.นายาง  อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บรายสุดท้ายที่ถูกคานแผ่นปูนซีเมนต์ทับร่างอยู่ จนเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือออกมาได้ ในเวลาต่อมา  ส่วนคนงานคนอื่นได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากเศษปูนเศษเหล็กกระเด็นใส่