คุกตลอดชีวิตอดีตรองผกก.ค้ายาบ้า

ศาลอุทธรณ์แก้โทษอดีตรองผกก.อภิวุฒิสมคบค้ายาบ้ากว่าล้านเม็ดจากประหารเหลือจำคุกตลอดชีวิต

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์คดีหมายเลขดำ อย.4063/2550 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.อภิวุฒิ งามสมบัติ หรือนายเพชร นนทะภา อดีตนายตำรวจ เป็นจำเลย ในความผิดฐานสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และเป็นข้าราชการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 102

โจทก์ ยื่นฟ้องระบุว่า เมื่อเดือน พ.ค.41  ถึงวันที่ 14 มี.ค.42 ต่อเนื่องกัน ขณะเกิดเหตุจำเลยเป็นข้าราชการตำรวจ ระดับ รอง ผกก. แห่งหนึ่งใน บช.น. กับพวกอีกคนหนึ่งที่หลบหนี ร่วมกันจำหน่ายและมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เมทแอมเฟตามีนให้แก่ลูกค้า  โดยวันที่ 14 มี.ค.42 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติด 2 ราย ได้ของกลางยาบ้ารวม 1,016, 400 เม็ด จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนขยายผล ทราบว่าจำเลยมีส่วนร่วมกับกลุ่มค้ายาเสพติดดังกล่าว จึงไปจับกุมจำเลยได้ที่ ห้องเลขที่ 811 อาคารไนซ์แมนชั่น 2 ถนนประชาอุทิศ แขวงและเขตห้วยขวาง กทม.

คดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 24 ก.พ.53 ให้ประหารชีวิตจำเลย ตามความผิด พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ฯ ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่า พยานหลักฐานของจำเลยไม่อาจหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ แต่คำให้การของจำเลยมีประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง เห็นสมควรลดโทษให้ 1 ใน 3  จึงพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และเป็นข้าราชการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ให้จำคุกตลอดชีวิต และให้นับโทษจำเลยต่อจาก คดีหมายเลขแดง อย.3876/2549 ที่ศาลอาญา พิพากษาจำคุกจำเลย 3 ปี 6 เดือน ฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และปรับ 200,000 บาท และคดีหมายเลขแดง อ.2411/2552 ที่ศาลอาญา พิพากษาจำคุกจำเลย 1 ปี ฐานร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จและร่วมกันใช้หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน