ผลตรวจไม่พบมลพิษเหตุไฟไหม้คลังบางจาก

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษเผยผลตรวจสิ่งแวดล้อมยังไม่พบมลพิษปนเปื้อนจากเหตุคลังน้ำมันบางจากไฟไหม้

นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า การตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้หอแยกน้ำมันก๊าด ในหน่วยกลั่นน้ำมันดิบที่ 3 ซึ่งมีกำลังการผลิต 8หมื่น บาร์เรลต่อวัน ของบริษัทบางจาก ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ย่าน สุขุมวิท 64 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และบริเวณใกล้เคียง รวมถึงเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อหาน้ำมันปนเปื้อนในแหล่งน้ำสาธารณะในพื้นที่ รวบรวมข้อมูลการตรวจสอบจากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบถาวรในเขตพื้นที่ กทม. โดยยังไม่พบสารปนเปื้อนใดๆ เกิดขึ้น

ทั้งนี้ คพ. ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่จากสำนักจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักจัดการคุณภาพน้ำ และทีมกู้ภัยฉุกเฉินลงพื้นที่โรงกลั่นน้ำมันบางจากแล้ว พร้อมทั้งส่งรถโมบายตรวจวัดคุณภาพอากาศเคลื่อนที่ไปตรวจเก็บอากาศเพื่อหามลพิษทางอากาศ และเก็บตัวอย่างน้ำ รวมถึงได้  โดยจะลงพื้นที่ตรวจสอบสารปนเปื้อนอย่างต่อเนื่องต่อไป เนื่องจากเป็นห่วงกลุ่มสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศ (วีโอซี) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในคน โดยเฉพาะเบนซีนที่จะปนเปื้อนจากท่อกลั่นน้ำมัน และสารมลพิษจากการเผาไหม้

นายวรศาสน์ อภัยพงษ์ รองอธิบดี คพ. กล่าวว่า การใช้รถตรวจเคลื่อนที่มาประจำอยู่ในบางจากนั้น ต้องใช้เวลา 24 ชั่วโมง ในการตรวจสอบ จึงต้องมีการออกไปตรวจสอบบริเวณโดยรอบก่อน โดยพบก๊าซไนโตรเจนในอากาศ อยู่ที่ระดับ 30 พีพีเอ็มหรือระดับการปนเปื้อน จากค่าที่กำหนดไม่เกิน 160 พีพีเอ็ม ก๊าซซัลเฟอร์ อยู่ที่ระดับ 8 พีพีเอ็มจากค่าที่กำหนดไม่เกิน 300 พีพีเอ็ม ประชาชนในบริเวณดังกล่าว จึงยังมั่นใจในความปลอดภัยได้ 

ด้าน นายวสันต์  มีวงษ์ โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ภายหลังที่สามารถควบคุมเพลิงไหม้ได้แล้ว ทางสำนักอนามัย กทม.ได้เข้าไปตรวจสภาพอากาศในบริเวณโดยรอบโรงกลั่น พบว่ามีปริมาณฝุ่นละอองอยู่ที่ 0.7 ไมโครกรัม ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับปกติที่ไม่เป็นอันตรายต่อประชาชน โดยปริมาณฝุ่นละอองที่จะกระทบต่อสุขภาพของประชาชนจะต้องอยู่ในระดับ 1 ไมโครกรัมขึ้นไป