แต่งตัวดีตีสนิท แก๊งลวงโลกหลอกเงิน

โดย...ธนก บังผล

ทุกวันนี้คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ ถือเป็นจุดอ่อนของสังคมไทยเป็นอย่างยิ่ง ด้วยสภาพวัฒนธรรมที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แต่ก็ได้กลายเป็นช่องเอื้อให้กับพวกมิจฉาชีพใช้หลอก

โดยเฉพาะการแต่งตัวดี ทำทีว่าเป็นคนมีฐานะ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการทำให้เหยื่อหลงตายใจ และเพื่อเป็นการพรางตัวจากสายตาคนทั่วไป ที่มักคิดว่าคนแต่งตัวดี น่าเชื่อถือ เป็นคนดี จนกระทั่งมีเหยื่อถูกหลอกมานักต่อนัก

แต่ที่ข่าวยังไม่ออกมาฮือฮา เพราะทางการพยายามรักษาภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ไม่ให้เสียมากไปกว่านี้นั่นเอง

เรื่องที่ยกมาถือเป็นอุทาหรณ์ได้เป็นอย่างดี มีเหตุการณ์ผู้เสียหายเป็นหญิงสาวหน้าตาดี ถูกโจรแต่งตัวดีหลอกสูญเงินไปกว่า 4 หมื่นบาท ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หลังจากคนร้ายเข้ามาตีสนิทอยู่ระยะหนึ่ง

เธอแชร์ประสบการณ์ว่า วันเกิดเหตุหลังเลิกงานเขาอ้างว่าจะพาไปส่ง ก็เห็นว่าดึกแล้วประกอบกับไม่ได้เอารถมา ก็เลยชวนเพื่อนอีกสองคนไปด้วย ส่วนเขาก็มีเพื่อนไปอีกหนึ่งคน ระหว่างนั้นเขาก็ชวนไปที่โรงแรม โดยบอกว่า เขามากันแค่สองคน ส่วนพวกหนูสามคน เขาไม่ทำอะไรหรอก เพราะความที่เขาทำให้เราไว้ใจมาตลอดก็เลยคิดว่าคงไม่มีอะไร

เมื่อไปที่โรงแรม ระหว่างเช็กอิน มันอ้างว่าไม่ได้เอาบัตรประชาชนลงมาจากรถ และขอให้ใช้บัตรประชาชนของเธอแทน ซึ่งเธอก็ไม่ได้ติดใจอะไร

เมื่อเข้าไปในห้องสักครู่หนึ่งก็ได้สั่งอาหาร เครื่องดื่ม จู่ๆ มีโทรศัพท์ดังเข้ามาที่เครื่องของคนร้าย มันทำทีท่ารำคาญและพูดเสียงดัง “เจ๊ทวงอยู่นั่นล่ะ มาเลยมาเอาเงินเลยที่โรงแรม แค่แสนเดียวทวงอยู่ได้”

เธอเล่าอีกว่า ไม่นานนัก “เจ๊” คนที่มันอ้างก็มาที่ห้อง โดยควักเงินสด 1 แสนบาทออกมาให้เหมือนเป็นการใช้หนี้อะไรบางอย่าง นั่งคุยไปมา เจ๊ก็ชวนเล่นพนันไพ่ป๊อกเด้ง ซึ่งเธอและเพื่อนก็ไม่ได้เล่นด้วย

“พวกหนูก็นั่งดูเฉยๆ เพราะไม่ได้มีเงินสดอะไรมากมายขนาดนั้น เล่นไพ่ป๊อกแล้วเขาบอกว่าไม่ทันใจ เจ๊คนนี้ก็ชวนเล่นเก้าเกเพราะจะได้เงินเร็วๆ ตอนนั้นก็เอาเงินสดให้พวกหนู 5,000 บาทเลย ชักชวนให้เล่น แบบเล่นๆ ไปเหอะดีกว่านั่งดูอยู่เปล่าๆ พี่จ่ายให้เองอะไรประมาณนี้”

แน่นอนว่าเมื่อถึงตอนนี้ก็เริ่มเข้าแผนโจร เพราะแรกๆ พวกเธอก็เล่นได้เงิน ได้มากกว่าเสียจนตายใจ จากที่เล่นแบบสนุกขำๆ ก็กลายเป็นลุ้นทุกตา จนกระทั่งเจ๊คนนั้นเอ่ยปากออกมาว่า ดึกแล้วอยากจะเล่นเป็นตาสุดท้ายก่อนกลับบ้าน

“คือตอนนั้นหนูเล่นได้มากอยู่เหมือนกัน เจ๊แทงหนักมาก แล้วผู้ชายคนนี้ก็บอกว่าเดี๋ยวถ้าเสียจะจ่ายให้เอง ยุให้เราเล่นแบบหมดตัวไปเลย ได้ก็ได้เยอะแล้ว ก็เลยหลงเชื่อ หนูกับเพื่อนเอาสร้อยทอง โทรศัพท์ อะไรวางกัน รวมแล้ว 4 หมื่นบาท ปรากฏว่าเจ๊ได้เงิน พวกหนูหมดตัว คราวนี้ก็มีปัญหาว่า ผู้ชายคนนี้จะเอาเงินไหนมาจ่าย”

คนร้ายเลยทำทีว่าจะขับรถกลับไปเอาเงินที่บ้านให้ โดยให้เราทั้งสามคนไปด้วย ซึ่งยิ่งทำให้พวกเธอหลงไว้ใจว่า จะไม่ถูกทิ้ง ระหว่างขับรถก็คุยกันไปตามปกติ

“โจรบอกว่าเดี๋ยวจะจอดให้เราลงที่ปั๊ม เพราะว่าถ้าเมียเห็นจะเป็นเรื่องเดี๋ยวไม่ได้เงินมาให้ บ้านอยู่ตรงซอยนี้เองเข้าไปแป๊บเดียว พวกหนูก็ลง ก็เห็นขับรถเข้าไปในซอย เราก็คิดว่า เออ..เฮ้ย เขาก็แฟร์ๆ นะ ค่าโรงแรม อาหารเครื่องดื่มก็ออกให้ เล่นไพ่ก็ยังให้เงินมาตลอด เขาคงไม่หนีหรอก แฟร์ๆ ดีด้วย ให้เราทั้งสามคนติดรถมาเผื่อจะไม่ไว้ใจกลัวว่าจะหนี”

แต่แล้วก็หนีจริงๆ หลังจากที่พวกเธอรอ 10 นาทีก็แล้ว 30 นาทีก็แล้ว แรกๆ ก็คิดว่า คงจะเคลียร์กับเมียอยู่ แต่พอผ่านไป 1 ชั่วโมงก็ถึงบางอ้อ ...ถูกหลอกแน่แล้ว

เมื่อชัดเจนแจ่มแจ้ง เธอพร้อมกับเพื่อนนั่งรถแท็กซี่กลับไปที่โรงแรมก็พบว่ามีการเช็กเอาท์ไปแล้ว หายไปทั้งเจ๊ ทั้งคนร้าย ต้องเสียเงินค่ารถไปแจ้งความอีกต่อหนึ่ง

“มีอยู่วันหนึ่ง หนูก็ไปที่ร้านอาหารกับเพื่อน ปรากฏว่าไปเจอแก๊งนี้ คงจำหนูไม่ได้เพราะเรื่องนานมาแล้ว แต่หนูจำได้แม่น ก็เลยลองถามเด็กเสิร์ฟว่าคนนั้นเป็นใคร ถึงรู้ว่าเป็นหุ้นส่วนที่ร้าน หนูได้ยินมาอีกหลายรายว่า ก็เคยโดนคนนี้หลอก เพราะแต่งตัวดี ทำให้คนอื่นไว้ใจ”

นี่จึงนับเป็นอุทาหรณ์ที่สอนคนได้เป็นอย่างดีไม่ว่าผู้หญิงผู้ชาย คนแต่งตัวดี พูดจาดี ไม่ได้หมายความว่า จะเป็นคนดีเสมอไป คนเหล่านี้มักใช้ภาพภายนอกมาหลอกคนทั้งสิ้น ดังนั้น ถ้าเราใช้สติคิดให้มากกว่าใช้ความไว้ใจ ก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อ