จับแก๊งแมวน้ำลักข้าวสารกลางน้ำเจ้าพระยา

ตำรวจอยุธยารวบ 13 แก๊งแมวน้ำก่อเหตุกลางเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักขณะโจรกรรมข้าวสารส่งออกนอก

ตำรวจสภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา จับกุมแก๊งคนร้ายจำนวน 13 คน แยกเป็นชาย 9 คนหญิง 3 คน และเด็กชายอีก 1 คน ตะเวนก่อเหตุโจรกรรมกลางแม่น้ำป่าสักในเขตตำบลบ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา จากเรือลำเลียงขนาดใหญ่ที่เป็นเลือกลากจูงของบริษัทเอกชนรายหนึ่งที่กำลังขนข้าวสารจากท่าเรือในเขตอ.นครหลวง ไปยังท่าเรือเกาะสีชังเพื่อส่งออกต่างประเทศ โดยแก๊งคนร้ายกลุ่มนี้ได้โจรกรรมข้าวสารต่อเนื่องจากแม่น้ำป่าสักจนมาถึงจุดบรรจบของแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักที่เกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา
และนัดหมายนำข้าวสารที่โจรกรรมได้มาขึ้นที่ท่าเรือชุมชนศาลเจ้าเจ้าพ่อปากน้ำแม่เบี้ย  ต.คลองสวนพลูอ.พระนครศรีอยุธยา
 
ทั้งนี้ ทำให้ตำรวจสามารถจับกุมได้ทั้งขบวนการพร้อมยึดของกลาง ประกอบด้วย เรือหางยาว ติดเครื่องยนต์อย่างดีจำนวน 2 ลำ ซึ่งได้บรรทุกข้าวสารเต็มลำ ลำๆละ 40 ถุง ๆ  รวม 80 ถุง ขนาดถุงละ 50กิโลกรัม ที่โจรกรรมาจากเรือบรรทุกสินค้าขณะกำลังลูกจูงส่งขึ้นเรือใหญ่ออกต่างประเทศ นอกจากนี้ยังยึดรถยนต์จำนวน 2 คันเป็นรถกระบะ 1 คัน และรถเก๋ง 1 คัน แต่พบว่าเรือหางยาว 2 ลำ อ้างว่ารับจ้างมาขนของเท่านั้นโดยเจ้าของเรือหางยาวที่รับจ้างขนสินค้า 2 คน ทราบชื่อนายสายชล กระจ่างโรจน์ อายุ 40 ปี  และนายเอกชัย ขันดง อายุ 17 ปี ทั้งคู่มีบ้านพักอยู่ที่ ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยาซึ่งถูกจับกุมรวมอยูในกลุ่มต้องหาในครั้งด้วยเช่นกัน
 
พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา  กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้หัวหน้าแก๊งคืออำนาจ ประสาท อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 14 หมู่ 4 ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีพฤติกรรมก่อเหตุลักษณะแก๊งแมวน้ำโจรกรรมสินค้าจากเรือลำเลียงบรรทุกสินค้าโดยเฉพาะสินค้าเกษตร เช่นข้าวสาร น้ำตาล ในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก ที่มีท่าเรือและเรือลำเลียงสินค้าจำนวนมาก และจากประวัติพบว่าเคยถูกตำรวจ ภ.จว.พระนครศรีอยุธยาจับกุมในคดีแบบเดียวกันเมื่อปี 2553 แต่สามารถสามารถต่อสู้คดีจนศาลยกฟ้องมาแล้ว 1 ครั้ง

จับแก๊งแมวน้ำลักข้าวสารกลางน้ำเจ้าพระยา

จับแก๊งแมวน้ำลักข้าวสารกลางน้ำเจ้าพระยา