posttoday

ตร.เชียงรายเครียดงานชุกจ่อขมับดับ

27 มิถุนายน 2555

ตำรวจเชียงเครียดงานชุกเพื่อร่วมงานไม่ให้ความร่วมมือในการปฎิบัติหน้าใช้ปืนจ่อขมับลาโลก

ตำรวจเชียงเครียดงานชุกเพื่อร่วมงานไม่ให้ความร่วมมือในการปฎิบัติหน้าใช้ปืนจ่อขมับลาโลก

ร.ต.ต.ราชัน แก้วก๋า อายุ 40 ปี รอง สารวัตรอำนวยการ งานยุทธศาสตร์ตำรวจภูธร จ.เชียงราย ใช้อาวุธปืนโค้ลด์ขนาด .38 ซุปเปอร์ จ่อศรีษะยิงตัวตายภายใน  ห้องพัก เลขที่ 449/84 ซึ่งอยู่บริเวณชั้นที่ 4 แฟลตตำรวจที่ 12 เยื้อง สภ.เมือง  จ.เชียงราย เมื่อเวลา 08.20 น.วันที่ 27 มิ.ย.

สอบถามนางพนิดา แก้วก๋า อายุ 40 ปี เลขที่ 28/2 หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ผู้อยู่ในเหตุการณ์ให้การว่า เป็นภรรยาของผู้ตาย โดยปกติสามีตนจะอาศัยอยู่ที่แฟลตกับลูกชายเพียงลำพัง 2 คน ส่วนเธอทำงานอยู่ที่ เทศบาล ต.เชียงของ และเมื่อ 2 วันก่อนได้เดินทางเข้ามาอบรมที่ตัวเมืองเชียงราย ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้าย พรุ่งนี้เช้าก็จะเดินทางกลับไปทำงานที่ อ.เชียงของ ตามปกติ  ก่อนหน้านี้สามีรับราชการเป็น ตำรวจ.สังกัดที่ ตชด.32 จ.พะเยา แต่พอสอบเลื่อนตำแหน่งได้เป็น ตำรวจชั้นสัญญาบัตรจึง ได้ย้ายมาทำงานที่ ภ.จว.เชียงราย เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา ในตำแหน่งรอง สารวัตรอำนวยการงานยุทธศาสตร์ตำรวจภูธร จ.เชียงราย 

นางพนิดา กล่าวอีกว่า ในช่วงที่มาทำงานได้ยินสามีบ่นเป็นประจำว่างานเครียด ต้องคิดวางแผนอยู่ตลอด ขณะนี้ได้รับคำสั่งให้รับผิดชอบวางแผนดูแลเรื่องรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญอยู่ แต่ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือจากผู้ร่วมงานเท่าที่ควร ซึ่งตนคิดว่าเนื่องจากที่สามีเป็นคนค่อยข้างเก็บตัว ไม่ค่อยจะพูดกับใคร และคิดว่าไม่รู้จะทำอย่างไร จึงเกิดความเครียดติดต่อมานานหลายวัน เมื่อสักครู่สามีตนได้ไล่ให้ลูกชายรีบไปกินข้าวที่ข้างหลังก่อนไปโรงเรียน และในขณะที่ตนกำลังเข้าห้องน้ำอยู่ โดยสามีได้อยู่ในห้องเพียงลำพัง จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จึงรีบวิ่งออกมาดู พบว่าสามีใช้อาวุธปืนยิงตัวเองจนเสียชีวิตดังกล่าว

ด้านพ.ต.ท.สมคิด หมั่นงาน รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงราย แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์  เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน  ลงความเห็นว่าผู้ตายเพิ่งจะเสียชีวิต และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าทำการตรวจคราบเขม่าดินปืน และเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนส่งศพไปตรวจพิสูจน์ที่ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ อีกครั้งหนึ่ง หากญาติๆ ไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตก็จะมอบศพให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ต่อไป