ระเบิดกำแพงคุกสุราษฎร์หวังช่วยนักโทษหนี
อุกอาจ! 2 คนร้ายระเบิดกำแพงเรือนจำกลางสุราษฎร์ ช่วยนักโทษคดีอุกฉกรรจ์หนีแต่ไม่สำเร็จ
อุกอาจ! 2 คนร้ายระเบิดกำแพงเรือนจำกลางสุราษฎร์ ช่วยนักโทษคดีอุกฉกรรจ์หนีแต่ไม่สำเร็จ
เมื่อเวลา 14.30 น.ร.ต.อ.ศิริพงศ์ จะรา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดข้างกำแพงเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี ถ.ดอนนก เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและพร้อมนายเชิดศักดิ์ ชูศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี , นายศิริพัฒน์ พัฒนกุล ปลัดจังหวัดสุราษฎร์ธานี , พ.ต.อ.พรศักดิ์ นวนหนู รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี , พ.ต.ท.คณธัช เรืองอรุณ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี , เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตชด.417 , เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 และกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณริมกำแพงเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี ฝั่งทิศตะวันออกด้านซ้ายมือติดรั้วโรงเรียนสุราษฎร์ธานี ห่างจากศูนย์ราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประมาณ 200 เมตร พบรอยระเบิดทำลายพื้นดินเป็นหลุมลึกประมาณ 30 เซนติเมตรรอบข้างพบชิ้นส่วนสะเก็ดระเบิดกระจายอยู่ทั่ว ส่วนที่ผนังกำแพงเรือนจำได้รับความเสียหายเป็นรอยแตกเล็กน้อย ห่างจากจุดระเบิด 5 เมตรพบสายไฟใช้จุดชนวนและกระเป๋าเป้ 1 ใบวางอยู่ และพบสวิทซ์ไฟใช้กดระเบิดทำงาน หรือแม็กนิโต ตกอยู่บริเวณด้านนอก โดยแรงระเบิดส่งผลให้รถยนต์เจ้าหน้าที่เรือนจำที่จอดอยู่ได้รับความเสียหาย 2 คัน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 ได้รวบรวมเก็บชิ้นส่วนต่างๆทั้งหมดไว้เป็นหลักฐานประกอบการตรวจสอบอย่างละเอียด เบื้องต้นการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดพบเป็นระเบิดชนิดสังหารบุคคลแบบสำเร็จรูป หรือ เคโมเอ็ม 18 เอ 1 ใช้สวิทซ์จุดชนวนมีระยะหวังผล 30-50 เมตร โดยคาดว่าคนร้ายได้นำระเบิดไปวางไว้บริเวณข้างริมกำแพงหวังผลให้ระเบิดทำลายกำแพงพังเสียหาย แต่อนุภาพระเบิดไม่แรงพอทำให้กำแพงได้รับความเสียหายเล็กน้อย
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า บริเวณจุดที่คนร้ายวางระเบิดหวังผลให้กำแพงเรือนจำทะลุอยู่ตรงกับกำแพงของแดนควบคุมผู้ต้องขังคดีโทษสูงและคดีอุกฉกรรจ์ โดยคนร้ายประสงค์ให้กำแพงพังและให้นักโทษหนีออกมาได้ เนื่องจากช่วงเวลาที่เกิดเหตุตรงกับกำหนดเวลาที่เรือนจำให้ผู้ต้องขังออกมาอาบน้ำและทำภารกิจส่วนตัวประจำวัน
“ หากการก่อเหตุวางระเบิดกำแพงประสบความสำเร็จจะทำให้นักโทษหลบหนีออกมาได้ อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้เร่งตรวจสอบบัญชีรายชื่อนักโทษที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยที่อาจจะวางแผนหลบหนีด้วย ” นายเชิดศักดิ์ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.พรศักดิ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ในโรงเรียนสุราษฎร์ธานี พบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุเป็นชาย 2 คน สวมหมวกนิรภัยปิดบังใบหน้า ใช้รถจักรยานยนต์แบบออโตเมติกขับเข้าไปที่บริเวณสนามฟุตบอลของโรงเรียนที่คาดว่าใช้เป็นจุดกดชนวนระเบิด โดยสอดคล้องกับคำให้การของพยานใกล้ที่เกิดเหตุได้เห็นบุคคลชาย 2 คนมีลักษณะดังกล่าวนำกระเป๋าไปวางไว้บริเวณข้างกำแพง แต่ไม่มีใครสงสัยต่อมามีเสียงระเบิดดังขึ้น
ข่าวแจ้งว่า เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี ปัจจุบันมีผู้ต้องขังรวม 2,573 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องขังคดียาเสพติด และมีผู้ต้องหาคดีอุจฉกรรจ์ รวมทั้งโทษสูงที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล โดยล่าสุดได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาคดีค้าอาวุธสงครามและยาเสพติดรายสำคัญที่ตำรวจจับกุมได้และอยู่ระหว่างฝากขังของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งกำลังเร่งสืบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดครั้งนี้หรือไม่
เมื่อเวลา 14.30 น.ร.ต.อ.ศิริพงศ์ จะรา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดข้างกำแพงเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี ถ.ดอนนก เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและพร้อมนายเชิดศักดิ์ ชูศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี , นายศิริพัฒน์ พัฒนกุล ปลัดจังหวัดสุราษฎร์ธานี , พ.ต.อ.พรศักดิ์ นวนหนู รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี , พ.ต.ท.คณธัช เรืองอรุณ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี , เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตชด.417 , เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 และกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณริมกำแพงเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี ฝั่งทิศตะวันออกด้านซ้ายมือติดรั้วโรงเรียนสุราษฎร์ธานี ห่างจากศูนย์ราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประมาณ 200 เมตร พบรอยระเบิดทำลายพื้นดินเป็นหลุมลึกประมาณ 30 เซนติเมตรรอบข้างพบชิ้นส่วนสะเก็ดระเบิดกระจายอยู่ทั่ว ส่วนที่ผนังกำแพงเรือนจำได้รับความเสียหายเป็นรอยแตกเล็กน้อย ห่างจากจุดระเบิด 5 เมตรพบสายไฟใช้จุดชนวนและกระเป๋าเป้ 1 ใบวางอยู่ และพบสวิทซ์ไฟใช้กดระเบิดทำงาน หรือแม็กนิโต ตกอยู่บริเวณด้านนอก โดยแรงระเบิดส่งผลให้รถยนต์เจ้าหน้าที่เรือนจำที่จอดอยู่ได้รับความเสียหาย 2 คัน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 ได้รวบรวมเก็บชิ้นส่วนต่างๆทั้งหมดไว้เป็นหลักฐานประกอบการตรวจสอบอย่างละเอียด เบื้องต้นการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดพบเป็นระเบิดชนิดสังหารบุคคลแบบสำเร็จรูป หรือ เคโมเอ็ม 18 เอ 1 ใช้สวิทซ์จุดชนวนมีระยะหวังผล 30-50 เมตร โดยคาดว่าคนร้ายได้นำระเบิดไปวางไว้บริเวณข้างริมกำแพงหวังผลให้ระเบิดทำลายกำแพงพังเสียหาย แต่อนุภาพระเบิดไม่แรงพอทำให้กำแพงได้รับความเสียหายเล็กน้อย
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า บริเวณจุดที่คนร้ายวางระเบิดหวังผลให้กำแพงเรือนจำทะลุอยู่ตรงกับกำแพงของแดนควบคุมผู้ต้องขังคดีโทษสูงและคดีอุกฉกรรจ์ โดยคนร้ายประสงค์ให้กำแพงพังและให้นักโทษหนีออกมาได้ เนื่องจากช่วงเวลาที่เกิดเหตุตรงกับกำหนดเวลาที่เรือนจำให้ผู้ต้องขังออกมาอาบน้ำและทำภารกิจส่วนตัวประจำวัน
“ หากการก่อเหตุวางระเบิดกำแพงประสบความสำเร็จจะทำให้นักโทษหลบหนีออกมาได้ อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้เร่งตรวจสอบบัญชีรายชื่อนักโทษที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยที่อาจจะวางแผนหลบหนีด้วย ” นายเชิดศักดิ์ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.พรศักดิ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ในโรงเรียนสุราษฎร์ธานี พบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุเป็นชาย 2 คน สวมหมวกนิรภัยปิดบังใบหน้า ใช้รถจักรยานยนต์แบบออโตเมติกขับเข้าไปที่บริเวณสนามฟุตบอลของโรงเรียนที่คาดว่าใช้เป็นจุดกดชนวนระเบิด โดยสอดคล้องกับคำให้การของพยานใกล้ที่เกิดเหตุได้เห็นบุคคลชาย 2 คนมีลักษณะดังกล่าวนำกระเป๋าไปวางไว้บริเวณข้างกำแพง แต่ไม่มีใครสงสัยต่อมามีเสียงระเบิดดังขึ้น
ข่าวแจ้งว่า เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี ปัจจุบันมีผู้ต้องขังรวม 2,573 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องขังคดียาเสพติด และมีผู้ต้องหาคดีอุจฉกรรจ์ รวมทั้งโทษสูงที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล โดยล่าสุดได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาคดีค้าอาวุธสงครามและยาเสพติดรายสำคัญที่ตำรวจจับกุมได้และอยู่ระหว่างฝากขังของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งกำลังเร่งสืบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดครั้งนี้หรือไม่