posttoday

แจ้งจับกระเทยแสบหลอกตุ๋นกว่า 4 ล้าน

12 มิถุนายน 2555

ร้องกองปราบตามจับกระเทยสุราษฎร์แอบอ้างเบื้องสูงลวงลงทุนทองคำเชิดเงินกว่า 4 ล้าน

ร้องกองปราบตามจับกระเทยสุราษฎร์แอบอ้างเบื้องสูงลวงลงทุนทองคำเชิดเงินกว่า 4 ล้าน

ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) น.ส.อนุรัตน์ กัลปนายุทธ อายุ 42 ปี เจ้าของกิจการล้างรถ พร้อมด้วยพ่อค้าแม่ค้า และชาวบ้านในพื้นที่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี 10 ราย เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.วัชรพล ทองล้วน ผกก.5 บก.ป. เพื่อร้องทุกข์ขอให้ตำรวจ บก.ป.ติดตามจับกุม นายธนัท อินทร์งาม อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 511/585 ถ.จรัญสนิทวงศ์ แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดไชยา ที่ 64/2555 ลงวันที่ 19 พ.ค. 2555 ข้อหา ฉัอโกงประชาชน หลังชักชวนกลุ่มผู้เสียหายให้มาร่วมลงทุนซื้อขายทองคำ อ้างได้ผลตอบแทนดีแต่สุดท้ายหลอกลวงเอาเงินไป รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 4 ล้านบาท

แจ้งจับกระเทยแสบหลอกตุ๋นกว่า 4 ล้าน

น.ส.อนุรัตน์ เปิดเผยว่า นายธนัท หรืออาร์ท ผู้ต้องหารายนี้เป็นลูกหลานของคนในพื้นที่ที่รู้จักกันมานานซึ่งอ้างว่าเคยเปิดร้านสปาอยู่กรุงเทพฯ และเคยไปทำงานกับบริษัทค้าขายทองคำที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพิ่งกลับมาที่ อ.ท่าชนะ เมื่อปลายปี 2554 และมาชักชวนให้ลงทุนทองคำ โดยอ้างว่าร่วมหุ้นกับร้านทองในพื้นที่ และทำธุรกิจกับบริษัทค้าทองคำที่ดูไบ เมื่อครบกำหนดแล้วจะได้เงินปันผลกลับคืนถึง 100%

ด้วยความที่เป็นคนรู้จักกัน แต่งกายดี พูดจาน่าเชื่อถือ และมีการนำเพื่อนของเขาซึ่งก็เป็นคนในพื้นที่มายืนยันว่าได้รับเงินปันผลจริงจึงตกลงทำสัญญานำทองคำแท่งมาลงทุนเป็นเงิน 2.4 แสนบาทในระยะเวลา 7 เดือน โดยนายธนัทได้ทำหนังสือสัญญาและเขียนเช็คที่จะเป็นเงินปันผลให้ตนล่วงหน้า แต่เมื่อครบกำหนดก็ปิดโทรศัพท์หลบหนีออกจากพื้นที่

น.ส.อนุรัตน์ กล่าวต่อว่า นอกจากหลอกให้ลงทุนทองคำแล้วผู้ต้องหารายนี้ยังแอบอ้างเบื้องสูงว่ามีการระดมทุนนำเงินไปซื้อที่ดินที่ จ.ภูเก็ตเพื่อเก็งกำไรซึ่งไม่เป็นความจริงแต่ก็มีชาวบ้านในพื้นที่หลงเชื่อมอบเงินให้ด้วย ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความแล้ว 10 ราย พนักงานสอบสวน สภ.ท่าชนะได้รวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลแล้วแต่ยังติดตามจับกุมตัวไม่ได้จึงมาร้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจกองปราบปรามให้เร่งติดตามจับกุมก่อนจะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น

ด้านนายอรุณ ประสงค์จินดา เจ้าของร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ผู้ต้องหามาชักชวนให้ซื้อทองรูปพรรณในราคาบาทละ 2 หมื่นบาทเพราะอ้างว่าได้โควต้าจากร้านทองในพื้นที่มา เห็นว่าได้กำไรดีจึงวางเงินมัดจำ 2 หมื่นบาท ทำสัญญา และเขียนเช็คค้ำประกันเอาไว้ แต่เมื่อถึงกำหนดนัดรับทองคำที่ร้านทองนายธนัทก็หลบหนีไป และเช็คก็ไม่สามารถขึ้นเงินได้