สลดพายุพัดตู้คอนเทนเนอร์ล้มทับแม่-ลูกดับ

ลมพายุพัดตู้คอนเทนเนอร์บริษัทในเมืองอยุธยาล้มทับแม่-ลูกดับคาที่ ขณะที่ลูกอีกคนรอดหวุดหวิดในอ้อมกอดแม่

เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ร.ต.อ.ศิริชัย โสมอินทร์พนักงานสอบสวน สภ.ท่าช้าง  อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดเหตุลมพายุฤดูร้อนพัดสำนักงานซึ่งทำจากตู้คอนเทนเนอร์ ของบริษัท เอพีอาร์ โลจิสติกส์ ตั้งอยู่ที่ ต.ท่าช้าง  อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา หล่นทับคนงานเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายรายจึงเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกดัดแปลงเป็นสำนักงานพร้อมโครงหลังสูง 10 เมตร ถูกลมพายุพัดจนล้มลงมาทัย ร่างของนางคำผิว หมื่นลือ อายุ 45  ปี คนงานเสียชีวิต โดยนางคำผิวได้กำลัง ด.ช.กัสมา หมื่นลือ บุตรชายอายุ 8 ปีเอาไว้ด้วย ซึ่งด.ช.กัสมาได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนร้องอย่าทรมาน โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้อุปกรณ์ไฮโดรลิกยกตู้คอนเทนเนอร์เป้นเวลากว่า 30 นาทีจึงสามารถนำร่างของด.ช.กัสมา ออกมาเพื่อส่งโรงพยาบาลได้

นอกจากนี้ยังพบศพ ด.ช.กานต์ หมื่นลือ อายุ 12 ปี บุตรชายอีกคนของนางคำผิว ถูกตู้คอนเทนเนอร์ทับอัดติดกับรถยนต์กระบะอีซูซุ โดยตู้คอนเทนเนอร์ยังทับรถยนต์อีกหลายคนและมีคนงานได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งรพ.

นายเตา หมื่นลือ อายุ 45 ปี กล่าวทั้งน้ำตาว่าก่อนเกิดเหตุตนและภรรยากับลูกๆ ได้เข้ามาเช็ครถที่บริษัทก่อนจะเดินทางไปส่งแร่ โดยขณะกำลังรอตรวจเช็คอยู่ ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก นางคำผิว จึงพาบุตรชายทั้งสองไป หลบฝนใกล้กับตู้คอนเทนเนอร์ จังหวะนั้นได้เกิดพายุพัดอย่างแรงจนตู้คอนเทนเนอร์ล้มลงมาทับร่างภรรยาและลูกเสียชีวิต

ด้าน นายมนูญ พ่อค้า อายุ 28 ปี เสมียนบริษัท กล่าวว่า  สาเหตุที่ตู้เทนเนอร์เหล็กขนาดใหญ่น้ำหนักหลายตันถูกแรงลมพัดโค่นได้เนื่องมาจากตู้เทนเนอร์ทั้งสองใบถูกดัดแปลงติดตั้งโครงเหล็กยึดมุงหลังคาสังกะสี เมื่อถูกพายุพัดตีเข้ากับหลังคาสังกะสีได้หอบตู้คอนเทนเนอร์ที่ตั้งไว้โดยไม่มีการยึดโค่นลงมา

ขณะที่ ร.ต.อ. ศิริชัย   กล่าวว่าเบื้องต้นต้องประสานวิศวกรมาตรวจสอบว่าตัวอาคารมีความมั่นคงมากน้อยแค่ไหนมีการขออนุญาตการก่อสร้างอย่างถูกต้องหรือไม่และจะเรียกเจ้าของบริษัทมาสอบสวนอีกครั้งเพื่อให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

เบื้องต้นจากการตรวจสอบที่ฐานตู้คอนเทนเนอร์พบว่าน็อตที่ยึดตัวเสาอาคารและตู้คอนเทรนเนอร์หลุดออกเนื่องจากตัวอาคารสูง10เมตรต้านแรงลมไม่ไหว