posttoday

10เม.ย.ออกหมายจับโกง‘ซูโด’

04 เมษายน 2555

“ดีเอสไอ” กร้าว 10 เม.ย. ออกหมายจับทุจริตยาหวัดได้แน่

“ดีเอสไอ” กร้าว 10 เม.ย. ออกหมายจับทุจริตยาหวัดได้แน่

พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 เม.ย.นี้ จะออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำยาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดรีนออกนอกระบบได้

นายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ดีเอสไอได้ประสานสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจให้ร่วมตรวจสอบยาเม็ดที่ยึดมาได้ โดยจะตรวจสอบลายนิ้วมือ ดีเอ็นเอ รวมถึงนับจำนวนฟอยล์ยา เพื่อให้ทราบถึงตัวผู้ต้องสงสัยและจำนวนยาที่สูญหายที่แท้จริง

ด้านนายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณ สุข (สธ.) กล่าวว่า ได้ลงนามในประกาศ สธ.เพื่อยกระดับสารซูโดอีเฟดรีนและยาทุกสูตรที่มีส่วนผสมให้เป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 มีผลบังคับในวันที่ 4 เม.ย.นี้

นายวิทยา กล่าวอีกว่า ภายใน 30 วัน หลังจากประกาศบังคับใช้ สถานพยาบาลที่ไม่มีใบอนุญาตครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 รวมถึงร้านขายยาทุกชนิด ต้องส่งยาตำรับที่มีส่วนผสมของสารซูโดอีเฟดรีนกลับคืนให้กับผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า

นอกจากนี้ นายวิทยายังได้ลงนามในประกาศ สธ. กำหนดปริมาณครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 และ 2 กำหนดให้มีซูโดอีเฟดรีนในครอบครองได้ 5 กรัม

นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ทันทีที่ประกาศบังคับใช้ ร้านขายยาต้องส่งคืนยาที่มีส่วนผสมซูโดอีเฟดรีนทุกชนิดคืนกลับผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า รวมถึงยาสูตรผสมพาราเซตามอลด้วย สำหรับยาแก้หวัดที่บริษัทผู้ผลิตกว่า 60 ล้านเม็ด ให้ระงับการซื้อขาย ส่วนยาที่ค้างอยู่ในโรงพยาบาล 20 ล้านเม็ด ให้สั่งจ่ายโดยแพทย์และจัดทำบัญชีผู้ป่วยอย่างเข้มงวด

นพ.สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า การสั่งซื้อยาของโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 ไม่ผิดปกติ ส่วนโรงพยาบาลนวมินทร์ 1 ซึ่งมียอดสั่งซื้อ 922,500 เม็ดนั้น ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นการแอบอ้างชื่อโรงพยาบาลเพื่อซื้อยา ซึ่งทราบแล้วว่าเป็นใคร