posttoday

นัดพิพากษาสุรชัยหมิ่นสถาบัน28ก.พ.

24 มกราคม 2555

ศาลนัดชี้ชะตา"สุรชัย แซ่ด่าน”หมิ่นสถาบันฯ28ก.พ.หลังรับสารภาพกำชับพระกี้ร์ห้ามขึ้นเวทีปราศรัย

ศาลนัดชี้ชะตา"สุรชัย แซ่ด่าน”หมิ่นสถาบันฯ28ก.พ.หลังรับสารภาพ กำชับพระกี้ร์ห้ามขึ้นเวทีปราศรัย

ที่ห้องพิจารณา 801 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เวลา 09.30  น. วันที่ 24 ม.ค.55 ศาลนัดสืบพยานโจทก์คดีหมายเลขดำ อ.1620/2554 ที่พนักงานอัยการ ฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสุรชัย แซ่ด่าน หรือด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำกลุ่มแดงสยาม เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา 112 กรณีเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 53 เวลาประมาณ 18.30 น. - 21.00 น. จำเลยได้พูดปราศรัยท่ามกลางประชาชนที่มาเข้าฟังประมาณ 1,000 คน ในงาน “เสวนาตาสว่างครั้งที่ 2 โดย 4 ส.” ที่ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ ชั้น 6 ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว กทม.ซึ่งได้พาดพิงพระมหากษัตริย์  พระราชินี  รัชทายาท ทำนองว่ามีส่วนบงการหรืออยู่เบื้องหลังทางการเมือง  และเป็นเหตุให้เกิดวิกฤติการณ์ทางการเมืองอย่างรุนแรง โดยจำเลยมีเจตนาที่จะทำให้ประชาชนทั่วไปเสื่อมศรัทธา  ไม่เคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์               

โดยวันนี้ศาลได้เบิกตัวจำเลยจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพเพื่อร่วมพิจารณาคดี แต่จำเลยและทนายจำเลยแถลงต่อศาลขอให้การรับสารภาพ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยให้การปฏิเสธไว้ โดยทนายจำเลยจะขอยื่นคำให้การประกอบคำรับสารภาพด้วย

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยขอให้การรับสารภาพ ซึ่งอัยการโจทก์และทนายจำเลยไม่ติดใจสืบพยาน ศาลจึงมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติไปสืบเสาะประวัติของจำเลย เพื่อจะนำมาประกอบการพิจารณาส่งศาลภายใน 30 วัน โดยศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 28 ก.พ.นี้ เวลา 09.00 น.

ภายหลังนายคารม พลพรกลาง ทนายความของนายสุรชัย เปิดเผยว่า การรับสารภาพครั้งนี้เป็นการรับสารภาพใน 2 สำนวน ซึ่งรวมถึงคดีปราศรัยที่สนามกีฬาเทศบาลตำบลดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ด้วย โดยจะอ่านคำพิพากษาวันที่ 28 ก.พ.นี้พร้อมกัน ซึ่งสาเหตุที่กลับคำให้การ จากที่เคยให้การปฏิเสธเป็นการรับสารภาพนั้น เนื่องจากเห็นว่าหากมีการต่อสู้คดีอาจมีปัญหาเรื่องของการยื่นประกันตัว ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อคดีถึงชั้นอุทธรณ์และฎีกาแล้วจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาการยื่นประกันตัวก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก  ขณะเดียวกันนายสุรชัยก็มีปัญหาด้านสุขภาพ อย่างไรก็ดี หากศาลมีคำพิพากษาแล้วก็จะยื่นเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษต่อไป โดยขณะนี้ตนได้ร่างคำร้องเพื่อขอให้มีการพิจารณาย้ายนายสุรชัยที่ตกเป็นจำเลยคดีหมิ่นเบื้องสูง ให้ไปอยู่สถานที่คุมขังเดียวกับนักโทษการเมือง และจะยื่นคำร้องในเร็วๆ นี้ ซึ่งตนกำลังพิจารณาว่าจะยื่นคำร้องต่อรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม หรืออธิบดีกรมราชทัณฑ์ หรือคณะกรรมการอิสระฯ ชุดใด อย่างไรก็ตามสำหรับ นายสุรชัย ยังถูกกล่าวหาว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอีก 1 สำนวนซึ่งอยู่ในพื้นที่พนักงานสอบสวนของสน.ชนะสงคราม โดยนายสุรชัยก็ให้การปฏิเสธไว้ จึงต้องต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไป

ขณะเดียวกันศาลยังเรียก พระฐิตะมันโต หรือ พระกี้ร์ หรือนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง จำเลยในคดีก่อการร้าย มาสอบถามถึงความเคลื่อนไหวหลังได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากมีคนพบเห็นขึ้นเวทีปราศรัยที่จังหวัดนครราชสีมาเมื่อปลายเดือนธ.ค.ปี 2554 ในทำนองว่า อำนาจนิติบัญญัติไม่ใช่ของประชาชนอย่างแท้จริง พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงการได้รับการประกันตัว ซึ่งพระอริสมันต์ได้แถลงต่อศาลว่า งานดังกล่าวเป็นงานปีใหม่ที่นายสุพร อัตถาวงศ์ จำเลยคดีก่อการร้าย จัดขึ้น และตนขึ้นไปร้องเพลงเพียง 2 เพลง ไม่ได้มีการปราศรัยตามที่ถูกกล่าวหา อย่างไรก็ดี ศาลได้กำชับและตักเตือนให้ทำตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์อย่างเคร่งครัด หากกระทำการใดๆ ในลักษณะนี้อีก ศาลจะพิจารณาโดยจะเรียกมาไต่สวนอย่างละเอียด ซึ่งจะมีผลต่อการพิจารณาเรื่องการปล่อยตัวชั่วคราว โดยไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่จากดีเอสไอหรือผู้ใดร้องเรียน