posttoday

ศาลอุทธรณ์ลดโทษฆาตกรต่อเนื่อง

27 ธันวาคม 2554

ศาลอุทธรณ์ ลดโทษ “สมคิด พุ่มพวง” แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ เมืองไทย ฆ่าหมอนวดแผนโบราณ จ.ลำปาง ให้จำคุกตลอดชีวิตจากโทษประหาร ศาลชี้ รับสารภาพชั้นจับกุม

ศาลอุทธรณ์ ลดโทษ “สมคิด พุ่มพวง” แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ เมืองไทย ฆ่าหมอนวดแผนโบราณ จ.ลำปาง ให้จำคุกตลอดชีวิตจากโทษประหาร ศาลชี้ รับสารภาพชั้นจับกุม

ที่ห้องพิจารณา909 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก  เวลา 10.00 น. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีหมายเลขดำ ด.3184 /2548 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสมคิด พุ่มพวง หรือนายชูชาติ ชาญชัย หรือนายชูชาติ กิ่งแก้ว หรือนายวินัย พรหมพันธ์ อายุ46 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ฉายา “ แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ เมืองไทย ” ฆาตกรต่อเนื่องซึ่งก่อเหตุฆ่าหมอนวดและนักร้อง 5 คดี เป็นจำเลยในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ ลักทรัพย์ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91, 92, 93, 288, 334

โดยอัยการโจทก์ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 48 ระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.48 เวลากลางคืน จำเลยได้ใช้กำลังประทุษร้ายใช้สายรัดที่นอนรัดคอ น.ส.ผ่องพรรณ ทรัพย์ชัย หมอนวดแผนโบราณ จนถึงแก่ความตาย ภายในห้องพัก เลขที่ 604 โรงแรมเวียงละคอน ต.สวนดอก อ.เมือง จ.ลำปาง แล้วลักเอาทรัพย์สินหลายรายการของผู้ตาย อาทิ แหวน ต่างหู โทรศัพท์มือถือ มูลค่ากว่า 5,000 บาท หลบหนี ไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับจบกุมจำเลยได้ ชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพ แต่ปฏิเสธต่อสู้ในชั้นศาล อ้างว่า ถูกตำรวจกลั่นแกล้งจับกุม

คดีนี้ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 2 มี.ค.53 เห็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา288,334 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษฐานฆ่าผู้อื่น ฯ ให้ประหารชีวิต และฐานลักทรัพย์ ให้จำคุก 1 ปี แต่เมื่อพิจารณาพฤติการณ์ของจำเลยที่ได้กระทำต่อเนื่องในลักษณะเช่นนี้รวมคดีอื่นด้วยถึง5 คดี ในระยะเวลา 5 เดือน หากไม่ถูกจับคงกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันนี้อีก โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง เมื่อถูกจับกุมก็ไม่สำนึกในการกระทำ ทั้งพฤติการณ์เยี่ยงจำเลยก่อให้เกิดผลร้ายและความสูญเสียต่อสังคมส่วนรวมมาหลายครั้งแล้ว จึงไม่ลดโทษให้ โดยจำเลยให้คืนทรัพย์จำนวน 5,000 บาทแก่ญาติผู้ตายด้วย
 
ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาล พิพากษายกฟ้อง โดยอ้างสถานที่อยู่
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันโดยละเอียดรอบคอบแล้ว เห็นว่า คดีนี้แม้โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานแต่มีพยานแวดล้อมแน่นหนารับฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนร้ายฆ่าผู้ตายจริง ประกอบกับจำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมว่า ใช้สายรัดที่นอนรัดคอผู้ตายเนื่องจากไม่พอใจที่ผู้ตายทวงถามค่าบริการและจำเลยยังนำชี้ที่เกิดเหตุโดยละเอียด ทั้งโจทก์ยังมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นลายนิ้วมือของจำเลยที่กระป๋องน้ำอัดลมและใบเสร็จค่าอาหาร ที่จำเลยอุทธรณ์อ้างถิ่นที่อยู่แบบเลื่อนลอยนั้นฟังไม่ขึ้น แต่คดีนี้จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมถือเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้าง ที่ศาลชั้นต้นลงโทษประหารชีวิตจำเลยนั้นศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วยเห็นควรให้ลดโทษจำเลย1ใน 3 คงจำคุกจำเลยไว้ตลอดชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายสมคิด ปัจจุบันยังคงถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำโดยไม่ได้รับการประกันตัว ซึ่งคดีนี้เป็นสำนวนที่ 3 ที่นายสมคิด ได้ก่อเหตุ โดยมีคดีฆ่ารัดคอและลักทรัพย์หมอนวดแผนโบราณ และนักร้องสาว ที่ศาลอาญามีคำพิพากษาไปแล้ว 4 คดี คือ คดีที่ก่อเหตุฆ่า น.ส.วารุณี พิมพะบุตร อายุ 25 ปี นักร้องสาว “ แสงตะวันคาเฟ่ ” ในห้องพักโรงแรมพลอยพาเลซ จ.มุกดาหารเมื่อวันที่30-31 ม.ค.48 , คดีฆ่า น.ส.สมปอง พิมพรภิรมย์ อายุ 25 ปี หมอนวดแผนโบราณ ที่โรงแรมปิยะแมนชั่น จ. บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 20-21 มิ.ย.48 , คดีฆ่านางพัชรีย์ อมตนิรันดร์ นักร้องคาเฟ่ ที่ จ.ตรัง เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.48 และก่อเหตุฆ่า น.ส.พรตะวัน ปังคะบุตร หมอนวดแผนโบราณ ที่โรงแรมศรีเจริญ แกรนด์ รอยัล จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 18-19 มิ.ย.48 ซึ่งทั้ง 4 คดี ศาลอาญาให้ประหารชีวิต แต่คำให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้าง ศาลจึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต