posttoday

ความเชื่อมั่นอุตฯฟื้น

23 กรกฎาคม 2553

เอกชนคลายกังวลการเมืองนายกฯฟุ้งปีนี้ศก.โตแน่6%ความเชื่อมั่นอุตฯ เดือน มิ.ย. ฟื้นตัวครั้งแรกรอบ 5 เดือน นายกฯ ได้ทีย้ำเศรษฐกิจปีนี้โตแน่ 6% นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทย เดือน มิ.ย. พบว่าอยู่ที่ 103.3 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ค. ที่ระดับ 94.7 เป็นผลจากการปรับเพิ่มขึ้นของยอดคำสั่งซื้อ ยอดขาย การผลิต และผลประกอบการ ดัชนีเพิ่มขึ้นครั้งแรกรอบ 5 เดือน ตั้งแต่เดือน ก.พ. เนื่องจากปัญหาการเมืองคลี่คลาย การเดินหน้าแผนปรองดองของรัฐ และส่งออกโตมาก ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า เพิ่มจากระดับ 105.0 ในเดือนพ.ค. มาอยู่ที่ 105.7 ในเดือน มิ.ย. เนื่องจากคาดการณ์ว่า คำสั่งซื้อ ยอดขาย การผลิต และผลประกอบการ จะปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่ไม่มากนัก เพราะขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลกทั้งนี้ ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 100 มี 17 กลุ่ม คือ สิ่งทอ เหล็ก ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ อาหาร ปิโตรเคมี พลาสติก เป็นต้น ส่วนกลุ่มที่ค่าดัชนีต่ำกว่า 100 ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ เยื่อกระดาษ และซอฟต์แวร์ สรุปปัจจัยเสี่ยงที่เอกชนยังกังวลเป็นเรื่องการเ

เอกชนคลายกังวลการเมืองนายกฯฟุ้งปีนี้ศก.โตแน่6%

ความเชื่อมั่นอุตฯ เดือน มิ.ย. ฟื้นตัวครั้งแรกรอบ 5 เดือน นายกฯ ได้ทีย้ำเศรษฐกิจปีนี้โตแน่ 6%

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทย เดือน มิ.ย. พบว่าอยู่ที่ 103.3 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ค. ที่ระดับ 94.7 เป็นผลจากการปรับเพิ่มขึ้นของยอดคำสั่งซื้อ ยอดขาย การผลิต และผลประกอบการ

ดัชนีเพิ่มขึ้นครั้งแรกรอบ 5 เดือน ตั้งแต่เดือน ก.พ. เนื่องจากปัญหาการเมืองคลี่คลาย การเดินหน้าแผนปรองดองของรัฐ และส่งออกโตมาก

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า เพิ่มจากระดับ 105.0 ในเดือนพ.ค. มาอยู่ที่ 105.7 ในเดือน มิ.ย. เนื่องจากคาดการณ์ว่า คำสั่งซื้อ ยอดขาย การผลิต และผลประกอบการ จะปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่ไม่มากนัก เพราะขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลก

ทั้งนี้ ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 100 มี 17 กลุ่ม คือ สิ่งทอ เหล็ก ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ อาหาร ปิโตรเคมี พลาสติก เป็นต้น ส่วนกลุ่มที่ค่าดัชนีต่ำกว่า 100 ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ เยื่อกระดาษ และซอฟต์แวร์

สรุปปัจจัยเสี่ยงที่เอกชนยังกังวลเป็นเรื่องการเมือง ราคาน้ำมัน ดอกเบี้ย และเศรษฐกิจโลก จึงต้องการเรียกร้องให้รัฐต้องสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงทางการเมือง ดูแลอัตราแลกเปลี่ยน และแก้ปัญหามาบตาพุด เนื่องจากจะกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคตอีก 34 ปีข้างหน้าได้

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้เชื่อว่าจะโต 6% แต่ต้องประคับประคองไม่ให้มีปัจจัยเสี่ยงมากระทบ คือ เศรษฐกิจยุโรป และการเมืองไทย
สอดคล้องกับที่สถาบันและองค์กรต่างประเทศต่างปรับคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจไทยล่าสุดจะโต 5.57% ซึ่งหากไม่ประสบวิกฤตทางการเมืองจะโตได้ถึง 89%

ด้านการลงทุนก็มีการขอรับส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% เนื่องจากไทยได้รับการยอมรับในเรื่องขีดความสามารถ ศักยภาพในการเป็นแหล่งดึงดูดการลงทุนของโลก เป็นผลจากการที่ไทยมีสัญญาณการฟื้นตัวด้านส่งออกและท่องเที่ยวชัดเจน