posttoday

ตรวจดีเอ็นเอเลพังคาดอีก2อาทิตย์รู้สายพันธุ์ที่แท้จริง

08 กันยายน 2560

เจ้าหน้าที่ตรวจดีเอ็นเอ "จระเข้เลพัง"หาสายพันธุ์ที่แท้จริงต้องใช้เวลาตรวจสอบ 1-2 สัปดาห์ ก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ

เจ้าหน้าที่ตรวจดีเอ็นเอ "จระเข้เลพัง"หาสายพันธุ์ที่แท้จริงต้องใช้เวลาตรวจสอบ 1-2 สัปดาห์ ก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ

เมื่อวันที่8ก.ย.60 เวลา 10.30น.ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งภูเก็ตนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดี คณะประมง ม.เกษตรศาสตร์  นายไพบูลย์ บุญลิปตานนท์ ประมงจ.ภูเก็ต  เพื่อร่วมตรวจสุขภาพจระเข้เลพัง ที่จับมาได้จากขุมน้ำในพื้นที่บางเทา อ.ถลาง รวมถึงตรวจสายพันธุ์ เพศ และดีเอ็นเอ คาดว่าจะทราบผลตรวจภายใน 1-2 สัปดาห์

นายปิ่นสักก์ กล่าวว่า ถ้าเป็นจระเข้น้ำเค็มธรรมชาติแท้จริงต้องร่วมกันอนุรักษ์ แนวทางสำคัญต้องตรวจว่าสายพันธุ์แท้หรือกึ่งแท้จากนั้นทำให้มันอยู่ดีที่สุด ถ้าเป็นจระเข้น้ำเค็มต้องอยู่ในธรรมชาติที่เหมาะสมปลอดภัย ถ้าเป็นกึ่งไฮบริดจ์หรือลูกผสมต้องไปอยู่ในที่เหมาะสมต่อคน สัตว์ระบบนิเวศ

ด้าน ดร.ธรณ์ กล่าวว่ากรณีของ "เลพัง"อาจเป็นเลพังโมเดลที่ทำให้เราหันกลับมาสนใจจระเข้น้ำเค็มทำให้คนกลับมามองสัตว์ตามธรรมชาติที่มนุษย์เข้าอาศัยหรือตามพื้นที่อื่นๆหลงเหลืออยู่ในพื้นที่เดิมและมนุษย์เข้าไปให้รู้ว่าเขาไม่อยากทำร้ายมนุษย์เพียงแต่เขาอาจรู้สึกอันตรายป้องกันตัวเท่านั้นกรณีนี้แสดงว่าคนไทยห่วงสัตว์ธรรมชาติ และยังมีอีกหลายกรณีที่ทำต่อไปขอให้คนไทยรักสัตว์ธรรมชาติเข้าใจเขามาช่วยตัดสินใจจะเอาอย่างไรนั่นคือสิ่งที่เลพังมอบให้คนภูเก็ตทุกคน

"ตัวนี้เป็นตัวแรกที่มีการพบในธรรมชาติที่มีขั้นตอนว่าพบเราจับมาพิสูจน์กันให้ชัดเจนวางแผนเป็นขั้นตอนเป็นการเรียนรู้ของภาครัฐด้วยผู้คนสนใจกัน มากเป็นกรณีต้นแบบของต่อไปอีกหลายกรณี และแต่ละจังหวัดพื้นที่มีความแตกต่างกัน เป็นเรื่องคนในพื้นที่ร่วมกันตัดสินใจกับทางภาครัฐ หน่วยงานที่อยู่ในจังหวัดว่าจะปล่อยคืนหรือจะรับเพราะคนในพื้นที่ต้องอยู่กับเขาต่อไป ทางเรายังมีอุทยานหลายแห่งเกาะตะรุเจตาต่างๆเหล่านี้ ถ้าพบเป็นจระเจ้น้ำเค็มธรรมชาติต้องปล่อยคืนธรรมชาติในพื้นที่เหมาะสมต่อไป"ดร.ธรณ์ กล่าว

ตรวจดีเอ็นเอเลพังคาดอีก2อาทิตย์รู้สายพันธุ์ที่แท้จริง

ตรวจดีเอ็นเอเลพังคาดอีก2อาทิตย์รู้สายพันธุ์ที่แท้จริง