เตือนแล้งปีนี้มาเร็ว

ระดับน้ำเจ้าพระยาลดฮวบต่ำกว่าตลิ่ง 7 เมตร สันดอนทรายโผล่กลางน้ำ สัญญาณแล้งมาเร็ว

ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท โดยปัจจุบันระดับน้ำลดลงมากจนมองเห็นท้องแม่น้ำและสันดอนทรายโผล่ขึ้นกลางแม่น้ำหลายจุด ซึ่งจากสถานการณ์ปัจจุบันที่ฤดูฝนสิ้นสุดลง แล้ว คาดการณ์ว่าในปีนี้ฤดูแล้งจะมาเร็วกว่าปกติ เกษตรกรและฟาร์มปศุสัตว์ ควรเตรียมแหล่งน้ำสำรองให้พร้อมเพื่อป้องกันการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรที่อาจจะสร้างความเสียหายได้

ทั้งนี้ ระดับน้ำที่วัดได้ล่าสุด เหนือเขื่อนเจ้าพระยาวัดได้ 14.70 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 3 เมตร ส่วนท้ายเขื่อนวัดได้ 5.56 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ต่ำกว่าตลิ่งถึง 7 เมตร ในขณะที่เขื่อนเจ้าพระยารับน้ำจากเหนือเขื่อนวัดได้ที่ จ.นครสวรรค์ ในอัตราเพียง 220 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที และระบายลงท้ายเขื่อนด้วยอัตรา 70 ลบ.ม./วินาที

ด้านสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ภาคใต้ ที่ จ.สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ระดับน้ำเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง คงมีแต่พื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ เชียรใหญ่ และปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ที่ยังมีน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะสวนส้มโอในพื้นที่ อ.ปากพนัง โดยกรมชลประทานได้เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ ที่ประตูระบายน้ำ ท่อระบายน้ำทุกแห่งลงแม่น้ำปากพนัง เร่งผลักดันน้ำออกจากพื้นที่ลงสู่ทะเล

นายกรณรมย์ วรรณกุล ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปากพนังตอนล่าง กล่าวว่า เมื่อสถานการณ์น้ำในแม่น้ำปากพนังและแม่น้ำสาขาปกติแล้ว จะเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ชุมชน พื้นที่การเกษตร ได้ส่งเครื่องสูบน้ำ 35 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 22 เครื่อง และขอเครื่องผลักดันน้ำจากส่วนกลางอีก 32 เครื่อง จะช่วยการระบายน้ำในพื้นที่ให้ดีขึ้น สำหรับพื้นที่ปลูกส้มโอทับทิมสยามกรมชลประทานได้ส่งรถขุดเข้าไปกำจัดวัชพืช เพื่อให้ระบายน้ำได้ดีขึ้น ช่วยให้น้ำลดลงได้วันละ 8-10 เซนติเมตร (ซม.) จะเข้าสู่ภาวะปกติได้ภายใน 2-3 วัน

ขณะเดียวกัน ภาวะน้ำทะเลหนุน ก็ส่งผลกระทบต่อการระบายน้ำในพื้นที่ทะเลสาบสงขลา เขต จ.สงขลา และพัทลุง ซึ่งยังมีน้ำท่วมขังประมาณ 50 ซม. อยู่ในพื้นที่ อ.เมือง ควนขนุน บางแก้ว ปากพะยูน และเขาชัยสน จ.พัทลุง คาดว่าภาวะ น้ำทะเลหนุนจะยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องช่วง 4-5 วันนี้

ภาพประกอบข่าว