RedSun ร้านหม้อไฟเกาหลีเจ้าดัง โบกมือลาต้นปี 69 หลังเปิดมา 11 ปี
สมรภูมิร้านอาหาร ธุรกิจปราบเซียน เมื่อความฮิตไม่การันตีการอยู่รอด กรณีศึกษา RedSun ร้านหม้อไฟเกาหลีที่ถึงจุดปิดตำนานในไทย
ตลาดร้านอาหารถูกขนานนามว่าเป็น “ธุรกิจปราบเซียน” จากคนที่อยู่ในแวดวง และยิ่งชัดเจนขึ้นในยุคที่ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากเกินกว่าจะจดจำใครได้ยาวนาน โดยเฉพาะร้านอาหารเกาหลีที่วันนี้มีอยู่แทบทุกมุมเมือง ตั้งแต่ร้านปิ้งย่าง หม้อไฟ ไปจนถึงคาเฟ่สไตล์ K-Culture แข่งขันกันอย่างดุเดือดทั้งด้านราคา ประสบการณ์ และความแปลกใหม่
ล่าสุด RedSun ร้านหม้อไฟเกาหลีชื่อดัง ที่เคยเป็นหนึ่งในแบรนด์ขวัญใจคนไทย ออกมาประกาศเตรียม ปิดบริการในประเทศไทย โดยจะเปิดให้บริการถึง วันที่ 11 มกราคม 2569 เป็นวันสุดท้าย หลังเข้ามาทำตลาดตั้งแต่ปี 2557 รวมเวลากว่า 11 ปี ตามที่เพจ RedSun Thailand Tokpokki แจ้งไว้
จากร้านฮิตยุคกระแสเกาหลี สู่แบรนด์ที่หลายคนมีภาพจำร่วมกัน
RedSun เคยถูกพูดถึงอย่างมากในช่วงที่กระแสเกาหลีพีค โดยมีเมนูซิกเนเจอร์อย่าง ต็อกบกกีหม้อไฟ และ ข้าวผัด RedSun หลายหน้า หลายท้อปปิ้ง ที่มีรสชาติเข้มข้นและรูปแบบแตกต่างจากร้านเกาหลีทั่วไป ทำให้แบรนด์สามารถขยายสาขาได้หลายแห่งในห้างใหญ่ทั่วกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด กลายเป็นหนึ่งในร้านอาหารเกาหลีที่ผู้บริโภคหลายคนที่เป็นสาวกอาหารเกาหลีต้องเคยกิน
ซึ่งต้นกำเนิดของ RedSun มาจากร้านเล็ก ๆ ในเกาหลีใต้ของ ฮาจินฮา (Ha Jin-ha) และโด่งดังจากการชนะรายการอาหารทีวีด้วยเมนู ต๊อกบกกีและข้าวผัด ทำให้ร้าน RedSun เป็นที่รู้จักและขยายสาขาไปทั่วโลก รวมถึงในไทย
สำหรับตลาดไทย แบรนด์ถูกนำเข้ามาในปี 2557 โดย นพวินท์ รอดริน ก่อนจะเกิดจุดเปลี่ยนสำคัญในปี 2562 เมื่อ Food Passion เจ้าของ Bar B Q Plaza เห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจ ได้เข้าซื้อหุ้น 74% เพื่อผลักดันการเติบโต ขณะที่ผู้ถือหุ้นเดิมถืออยู่ 26%
ตัวเลขธุรกิจขาดทุน
แต่อย่างไรก็ตามแม้มีแบรนด์แข็งแรงและพันธมิตรใหญ่ แต่ตัวเลขธุรกิจกลับสะท้อนความท้าทาย เมื่อดูผลประกอบการของ บริษัท ฟู้ดซัน จำกัด ในช่วง 3 ปีหลัง รายได้ลดลงต่อเนื่องจาก
- ปี 2565 รายได้ 175 ล้านบาท ขาดทุน 57 ล้านบาท
- ปี 2566 ลดเหลือ 113 ล้านบาท ขาดทุน 65 ล้านบาท
- ปี 2567 เหลือเพียง 43 ล้านบาท ขาดทุน 13 ล้านบาท
จากตัวเลขดังกล่าว สะท้อนการแข่งขันที่รุนแรง ปัจจุบัน RedSun เหลือสาขาที่เปิดให้บริการเพียงแห่งเดียวคือ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ชั้น G หลังจากสาขาอื่นทยอยปิดตัวลงก่อนหน้านี้ทั้งหมด พร้อมจัดโปรโมชันส่งท้ายแบรนด์ ลดราคาหลายเมนู ตั้งแต่โปร 1 แถม 1 ไปจนถึงชุดพิเศษ “ขอบคุณ” สำหรับลูกค้าที่อยากมาลาแบรนด์เป็นครั้งสุดท้าย ระหว่างวันที่ 22 ธ.ค. 2568 – 11 ม.ค. 2569
อย่างไรก็ตาม กรณีของ RedSun ไม่ได้มีการระบุสาเหตุการปิดบริการอย่างเป็นทางการ
ธุรกิจร้านอาหารยุคนี้ผู้ประกอบการหลายรายต่างก็บอกว่าวงจรสั้น แม้จะเคยประสบความสำเร็จ มีแบรนด์เป็นที่จดจำ และเกาะกระแสได้ถูกจังหวะ แต่ในสมรภูมิที่คู่แข่งเพิ่มขึ้นทุกปี ความฮิตในอดีตไม่สามารถการันตีการอยู่รอดในระยะยาวได้
ยิ่งผู้บริโภคมีตัวเลือกมากมาย และมองหาความคุ้มค่าอยู่เสมอ ผู้ประกอบการจึงไม่อาจพึ่งเพียงสูตรเดิม โมเดลเดิม หรือชื่อเสียงเดิม การปรับโมเดลธุรกิจ คุมต้นทุน สร้างความแตกต่าง และหาจุดยืนใหม่ ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค คือโจทย์ใหญ่ของธุรกิจร้านอาหารยุคนี้
เครดิตภาพ : RedSun Thailand Tokpokki