posttoday

พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เริ่ม 8 พ.ย. เอกชนลุ้นกฏหมายลูก

08 พฤศจิกายน 2568

เริ่มวันนี้ 8 พ.ย. พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ภาคเอกชน-ผู้ประกอบการ ลุ้นกฎหมายลูก ทั้งในเรื่องโฆษณา เวลาขาย และการควบคุมโซนนิ่งพื้นที่จำหน่ายชัดเจน

KEY

POINTS

  • พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฉบับใหม่ เริ่มมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. 2568 โดยเป็นการปรับปรุงกฎหมายในรอบ 15 ปี
  • ผู้ประกอบการยังกังวล เนื่องจาก "กฎหมายลูก" ที่จะกำหนดรายละเอียดและแนวทางปฏิบัติยังไม่ถูกประกาศใช้
  • ยังไม่ชัดเจนเรื่องเวลาจำหน่าย โซนนิ่ง และเส้นแบ่งระหว่าง "การโฆษณา" กับ "การประชาสัมพันธ์"

เริ่มมีผลบังคับใช้แล้ววันนี้ (8 พฤศจิกายน 2568) สำหรับ พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฉบับใหม่ หรือที่เรียกว่า “พ.ร.บ. แอลกอฮอล์ฉบับที่ 2” ซึ่งถือเป็นการปรับปรุงกฎหมายครั้งใหญ่ในรอบกว่า 15 ปี นับตั้งแต่ฉบับแรกประกาศใช้เมื่อปี 2551 โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้กฎหมายสอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคและรูปแบบการจำหน่ายในยุคดิจิทัล ทั้งในด้านการค้า การโฆษณาออนไลน์ และการเข้าถึงของเยาวชน

 

สาระสำคัญของกฎหมายฉบับใหม่นี้ ยังคงเน้นการจำกัด “การเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” และ “การสื่อสารทางการตลาด” ที่อาจมีอิทธิพลต่อกลุ่มวัยรุ่น โดยเพิ่มมาตรการใหม่หลายประการ เช่น

  • ขยายความหมายของคำว่า “โฆษณา” ให้ครอบคลุมถึงสื่อดิจิทัลและแพลตฟอร์มออนไลน์
  • เพิ่มโทษสำหรับผู้จำหน่ายที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดเรื่องโซนนิ่งหรือช่วงเวลาห้ามขาย
  • รวมถึงการกำหนดให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ สาธารณสุข และผู้แทนจากภาคธุรกิจ เพื่อร่วมพิจารณาออกกฎหมายลูกในแต่ละประเด็น 

 

ทั้งนี้ แม้เจตนารมณ์ของ พ.ร.บ. จะเพื่อควบคุมและสร้างสมดุลระหว่างสุขภาพสังคมกับเศรษฐกิจ แต่ในทางปฏิบัติ ผู้ประกอบการกลับยังกังวลถึง “ความไม่พร้อมของกฎหมายลูก” ที่ยังไม่แล้วเสร็จและอาจกระทบต่อการดำเนินธุรกิจโดยตรง

 

เอกชนกังวลกฎหมายลูกยังไม่มา

นางสาวประภาวี เหมทัศน์ เลขาธิการสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจคราฟท์เบียร์ ได้เปิดเผยผ่านฐานเศรษฐกิจว่า สิ่งที่ทุกฝ่ายในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังคงกังวลมากที่สุดคือ “กฎหมายลูกยังไม่ออก” ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้กฎหมายหลักสามารถนำไปใช้ได้จริงในเชิงปฏิบัติ ทั้งในเรื่องโฆษณา เวลาขาย และการควบคุมโซนนิ่งพื้นที่จำหน่าย

 

“กฎหมายหลักประกาศใช้แล้ว แต่กฎหมายลูกที่ควรออกมาควบคู่กันกลับยังไม่เสร็จ จึงไม่รู้แน่ชัดว่าเรื่อง ‘เวลาจำหน่าย’ หรือ ‘โซนนิ่ง’ จะมีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ เพราะประกาศล่าสุดยังคงให้ใช้ตามเดิม ส่วนกรณีการห้ามขายช่วงบ่ายสองถึงห้าโมง ก็ยังไม่มีเอกสารยืนยันอย่างเป็นทางการ”

 

ทั้งนี้นางสาวประภาวี กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่กำลังอยู่ในภาวะ “กลืนไม่เข้าคายไม่ออก” แม้มีความตั้งใจจะปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง แต่กลับไม่มีแนวทางที่ชัดเจนให้ยึดถือ โดยเฉพาะในส่วนของ การทำตลาดและการสื่อสารกับผู้บริโภค ซึ่งหากตีความข้อกฎหมายคลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อย ก็อาจถูกดำเนินคดีได้ทันที

 

กฎหมายใหม่กำหนดให้มี “ตัวแทนจากภาคผู้ประกอบการและนักวิชาการด้านการผลิต” เข้าไปนั่งในคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อร่วมให้ความเห็นในการออกอนุบัญญัติ แต่ก่อนหน้านี้ภาคผู้ประกอบการไม่เคยมีที่นั่งในคณะกรรมการชุดใหญ่เลย แต่ตอนนี้ พ.ร.บ. ใหม่ระบุให้ต้องมีตัวแทนธุรกิจเข้าไปเป็นอนุกรรมการร่วม ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะคนในอุตสาหกรรมย่อมเข้าใจปัญหาจริงในภาคสนามมากที่สุด

 

ในประเด็นเรื่อง “โฆษณา” ถือเป็นสิ่งที่ภาคเอกชนเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งออก “กฎหมายลูกว่าด้วยการโฆษณาและประชาสัมพันธ์” โดยเร็วที่สุด เพราะถือเป็นหัวใจสำคัญของการสื่อสารทางการตลาดในยุคดิจิทัล

ภายใต้ พ.ร.บ. ฉบับใหม่ แม้จะ “เปิดช่องให้สามารถประชาสัมพันธ์ได้” แต่ยังคง “ห้ามโฆษณา” ซึ่งแม้สองคำนี้จะฟังใกล้เคียงกัน ทว่ามีผลทางกฎหมายแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

 

“เส้นแบ่งระหว่างคำว่า ‘ประชาสัมพันธ์’ กับ ‘โฆษณา’ ยังไม่ชัดเจน ถ้าไม่มีกฎหมายลูกออกมากำหนดแนวทางไว้ เจ้าหน้าที่แต่ละพื้นที่อาจตีความต่างกัน สุดท้ายผู้ประกอบการก็จะเป็นฝ่ายเสียหาย”

 

นางสาวประภาวี กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา กฎหมายเดิมมีความเข้มงวดอย่างมาก ถึงขั้น ห้ามแสดงภาพสินค้าหรือขวดเบียร์ในสื่อสังคมออนไลน์ ส่งผลให้ผู้ผลิตรายย่อยจำนวนมากไม่กล้าสื่อสารหรือทำการตลาดใด ๆ การมีระเบียบลูกที่ชัดเจนจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้ภายใต้กรอบกฎหมายที่โปร่งใสและเป็นธรรม

 

ข่าวล่าสุด

“โคเวอร์แมท” เติบโตจาก “ศูนย์” สู่ New S Curve โตอีก 10X