ก้าวสำคัญธุรกิจมวยไทย หลังสโมสรในสวีเดนได้รับรองมาตรฐาน SMG เป็นแห่งแรก

เมื่อเร็ว ๆ นี้ สโมสรค่ายมวยไทย ธ.ธุระแพง สวีเดน (Ta.ThuraphaengMuaythai) ในเมืองฟาลุน (Falun) เขต Dalarna ได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นค่ายมวยไทยแห่งแรกในสวีเดนที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน SMG (Standard Muaythai Gym) จากการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งนับเป็นเครื่องหมายคุณภาพระดับนานาชาติที่ยืนยันว่า สโมสรมีมาตรฐานการฝึกซ้อมมวยไทยเทียบเท่ากับประเทศไทย ทั้งในด้านความปลอดภัย เทคนิค การสอน และการเข้าใจวัฒนธรรมมวยไทยอย่างถูกต้อง

การได้รับใบรับรองนี้นับเป็นก้าวสำคัญของวงการมวยไทยในสวีเดน และกลุ่มประเทศนอร์ดิก เพราะ 

ไม่เพียงช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของค่ายมวย Ta.ThuraphaengMuaythai ให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลกเท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริมบทบาทของเขต Dalarna ให้โดดเด่นบนแผนที่มวยไทยนานาชาติด้วย

ปิยพงษ์ ธุระแพง ผู้ฝึกสอนและผู้ก่อตั้งสโมสร กล่าวว่า นี่คือความภาคภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับสโมสรเล็กๆ แห่งนี้ที่สามารถสร้างชื่อเสียงระดับโลกได้ การได้รับการรับรอง SMG ยังเปิดโอกาสให้ค่ายมวยได้เดินทางไปฝึกซ้อม และเรียนรู้มวยไทยแบบดั้งเดิมในประเทศไทยบ่อยขึ้น ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการสืบสานและเผยแพร่วัฒนธรรมมวยไทยอย่างแท้จริง

ทั้งนี้การรับรอง SMG เป็นโครงการริเริ่มของประเทศไทยที่มีเป้าหมายเพื่อรักษามาตรฐานและความเป็นเอกลักษณ์ของมวยไทยทั่วโลก โดยกำหนดให้สโมสรต่างประเทศต้องผ่านการอบรมและประเมินคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าการฝึกซ้อมมวยไทยนอกประเทศยังคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณและรูปแบบดั้งเดิมของศิลปะแห่งการต่อสู้นี้อย่างแท้จริงการได้รับการรับรองมาตรฐาน SMG ของสโมสร Ta.ThuraphaengMuaythai ในสวีเดนถือเป็นพัฒนาการสำคัญที่ช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของมวยไทยในภูมิภาคนอร์ดิก สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพและความเป็นมืออาชีพของการฝึกมวยไทยแบบไทยแท้ ซึ่งส่งผลเชิงบวกโดยตรงต่อโอกาสการขยายตัวของสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับมวยไทยในภูมิภาคนี้ ทั้งในด้านอุปกรณ์กีฬา เสื้อผ้า น้ำมันมวย ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ตลอดจนบริการฝึกสอนและการท่องเที่ยวเชิงกีฬา

มวยไทยได้รับความนิยมสูงในทุกประเทศนอร์ดิก 

ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศระบุว่า ปัจจุบันมวยไทยได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกประเทศนอร์ดิก โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและผู้หญิง มีสโมสรกว่า 425 แห่ง ครูฝึกกว่า 1,200 ราย และผู้ฝึกซ้อมเกือบ 20,000 คน ซึ่งแสดงถึงฐานตลาดที่เติบโตมั่นคงและมีศักยภาพสูงสำหรับสินค้าไทย 

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันด้านราคาและมาตรฐานเป็นปัจจัยสำคัญ ผู้บริโภคมักเลือกสินค้าราคาถูกจากประเทศต้นทุนต่ำ แต่กลุ่มผู้เล่นระดับกลางถึงมืออาชีพยังคงนิยมสินค้าคุณภาพจากประเทศไทย เนื่องจากเชื่อมั่นในมาตรฐานและความเป็นของแท้

ผู้ประกอบการไทยอาจใช้จุดแข็งด้าน “ความเป็นต้นตำรับ” ของสินค้ามวยไทยเป็นเครื่องมือสร้างความแตกต่าง พร้อมปรับสูตรผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของสหภาพยุโรป (EU) เช่น น้ำมันมวย หรือผลิตภัณฑ์สมุนไพร และใช้บรรจุภัณฑ์ที่สื่อถึงความเป็นไทยอย่างมีระดับ เพื่อเพิ่มภาพลักษณ์พรีเมียม

นอกจากนี้ การพัฒนาแนวทางส่งเสริมบริการเชิงประสบการณ์ เช่น การจัดค่ายฝึกมวยไทยระยะสั้น (Muay Thai Camp) หรือเวิร์กช็อปร่วมกับสโมสรในประเทศนอร์ดิก รวมถึงการเชิญนักมวย หรือครูฝึกจากไทยไปสอน เพื่อสร้างเครือข่าย ความเชื่อมั่น และความผูกพันกับผู้บริโภค