posttoday

MizuMi แบรนด์ไทย 100% แต่ทำไมใช้ชื่อภาษาญี่ปุ่น ซีอีโอเฉลย

27 ตุลาคม 2568

ซีอีโอ MizuMi (มิซึมิ) เฉลยทำไมตั้งชื่อแบรนด์เป็นภาษาญี่ปุ่น ทั้งที่เป็นแบรนด์ของคนไทย 100% แม้แต่คนญี่ปุ่นก็ยังงง ว่าหมายถึงอะไร รวมถึงความหมายจุดสามจุด

MizuMi ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์สกินแคร์ดาวรุ่ง สัญชาติไทยที่มียอดขายแตะหลักพันล้านเป็นที่เรียบร้อย โดยสินค้าฮีโร่โปรดักส์ของแบรนด์คือครีมกันแดด ที่ 4 ผู้ร่วมก่อตั้งได้เห็นถึงช่องว่างในตลาดเมื่อ 10 ปีก่อน โดยใช้เวลาในการก่อร่างสร้างแบรนด์หลายปีกว่าจะติดตลาด ซึ่งภายใต้บริษัท มิซึฮาดะ กรุ๊ป จำกัด มีแบรนด์ที่อยู่ในเครือ 3 แบรนด์ นอกจาก MizuMi ก็ยังมีแบรนด์ Bomi และ Gentle Colors ที่อยู่ในหมวดผลิตภัณฑ์กลุ่มความงามและสุขภาพ

 

อย่างไรก็ตาม ชื่อของ MizuMi แม้ฟังดูคล้ายกับภาษาญี่ปุ่น แต่ถือว่าเป็นแบรนด์ไทย 100% ซึ่งมาจากความตั้งใจของผู้ก่อตั้ง ที่ใช้กลยุทธ์ตั้งชื่อแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ และมีความหมาย ตลอดจนสัญลักษณ์จุดสามจุดที่ปรากฏอยู่บนผลิตภัณฑ์ 

เครดิตภาพ : MizuMi

วริษฐา สืบพันธ์วงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท มิซึฮาดะ กรุ๊ป จำกัด ได้เปิดเผยในงาน Bitkub Summit2025 บนเวที Thai SMEs Reshape 2026 ทางรอด SMEs ไทย ว่า ชื่อและสินค้าของแบรนด์ MizuMi ในช่วงแรก เกิดจากความตั้งใจที่อยากให้เล่าเรื่องผลิตภัณฑ์ได้เข้าใจง่ายที่สุด

 

ตอนนั้นยังไม่มีเทรนด์ของการทำ CEO Branding หรือการสร้างตัวตนของผู้ก่อตั้ง จึงโฟกัสที่ตัวสินค้าเป็นหลัก ซึ่งสินค้าชิ้นแรกของ MizuMi  คือ ครีมกันแดดที่ใช้เทคโนโลยีจากญี่ปุ่น ทั้งในเรื่องของสารกันแดด บรรจุภัณฑ์ และการวิจัยพัฒนา (R&D) พอมีผลิตภัณฑ์เดียว เราก็อยากให้ชื่อแบรนด์สื่อสารไปในทิศทางเดียวกัน จึงเลือกชื่อว่า MizuMi ฟังดูเหมือนเป็นแบรนด์ญี่ปุ่น แต่ถ้าไปถามคนญี่ปุ่น เขาจะงงว่า MizuMi  คืออะไร? เพราะมันไม่ถูกหลักไวยากรณ์ของญี่ปุ่น แต่เราตั้งใจให้มันดูญี่ปุ่น เพื่อสะท้อนเทคโนโลยีและความประณีตแบบญี่ปุ่นในตัวสินค้า

 

ซึ่งชื่อ MizuMi มาจากการผสมคำว่า “Mizu” ที่แปลว่า “น้ำ” และ “Mi” ที่แปลว่า “ความงาม” เมื่อรวมกันจึงหมายถึง “ความงามที่มาจากน้ำ” ซึ่งสอดคล้องกับจุดยืนของแบรนด์ที่เน้นความอ่อนโยน ชุ่มชื้น และเหมาะกับผิวคนไทยในอากาศร้อนชื้น

 

ดังนั้น MizuMi  จึงไม่ใช่แบรนด์ญี่ปุ่น แต่คือแบรนด์ไทยที่ตั้งใจถ่ายทอด “ความงามแบบอ่อนโยน” 

 

วริษฐา เผยอีกว่า ทุกอย่างมีที่มาที่ไป แม้กระทั่งสัญลักษณ์ “จุดสามจุด” ของ MizuMi ที่ปรากฏบนผลิตภัณฑ์  ไม่ได้เป็นเพียงดีไซน์ตกแต่งโลโก้ แต่คือ สามคำมั่นสัญญา (3 Commitments) ที่แบรนด์ตั้งใจมอบให้กับลูกค้าตั้งแต่วันแรก

เครดิตภาพ : MizuMi

จุดแรก คือ Quality คือคุณภาพต้องมาก่อนราคาเสมอ เราคิดอยู่ตลอดว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้ารู้สึกว่าสิ่งที่ได้คุ้มเกินราคาที่จ่าย ทุกผลิตภัณฑ์ของ MizuMi จึงผ่านการคัดสรรและพัฒนาอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้คุณภาพเหนือความคาดหวัง

 

จุดที่สอง Accessibility ความเข้าถึงได้ เป็นอีกหัวใจสำคัญของแบรนด์ ซึ่งมีสองมิติคือ ราคา และ ช่องทางจัดจำหน่าย เราไม่อยากเป็นแบรนด์ที่ดีแต่หายาก จึงตั้งใจให้ MizuMi เป็นแบรนด์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ ทั้งในแง่ราคาที่สมเหตุสมผล และสามารถหาซื้อได้ง่ายในทุกช่องทาง

 

จุดที่สาม Dermatologically Tested เพราะเราโฟกัสที่กลุ่มผิวแพ้ง่าย ความปลอดภัยจึงเป็นเรื่องใหญ่ ทุกผลิตภัณฑ์ของ MizuMi แม้กระทั่งลิปบาล์ม ก็ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนัง เพื่อให้มั่นใจว่าอ่อนโยนจริงต่อทุกสภาพผิว

 

สามจุดนี้เป็น “สัญลักษณ์ของความตั้งใจ” ที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ตั้งแต่วันแรก

 

อย่างไรก็ตาม ซีอีโอ MizuMi กล่าวว่า แบรนด์เริ่มจากศูนย์ไม่มีใครรู้จัก และไม่ได้มีทุนเยอะ เราเลยเลือกที่จะเสี่ยงอย่างมีการคำนวณ ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงให้มากที่สุด และค่อย ๆ เดินไปทีละสเต็ป ถึงวันนี้ Mizumi เติบโตขึ้นด้วยความกล้า ความรอบคอบ และประสบการณ์ที่สอนให้รู้ว่า

 

“ความสำเร็จไม่ได้มาจากการรีบเร่ง แต่มาจากการกล้าลองอย่างมีเหตุผลและไม่หยุดพัฒนา”

 

ผู้ก่อตั้ง MizuMi ทั้ง 4 คน เริ่มต้นจาก “ความกลัว” เหมือนกัน กลัวว่าจะไม่รู้วิธีขายของ, กลัวว่าจะทำการตลาดไม่เป็น, กลัวว่าจะคุยกับลูกค้าไม่ถูก หรือแม้แต่โพสต์โซเชียลยังไม่มั่นใจ แต่เพราะไม่อยากให้ความกลัวนั้นหยุดจึงเลือกที่จะลงมือทำเองทุกอย่าง

 

“ตอนนั้นนอนน้อยไม่เป็นไร ขอแค่ได้ทำเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่การยืนขายของหน้าร้าน คุยกับ R&D พัฒนาเนื้อผลิตภัณฑ์ ตอบแชทลูกค้า ไปจนถึงถ่ายรูปและเขียนโพสต์ลงโซเชียล ทุกอย่างผ่านมือทีมผู้ก่อตั้งมาหมดแล้ว และสิ่งที่ได้จากการเริ่มต้นแบบ ลงแรงจริงทุกจุด 

 

และเมื่อพูดถึง Personal Branding สิ่งที่ Mizumi ทำตั้งแต่วันแรกโดยไม่รู้ตัวก็คือ “การสร้างตัวตนผ่านการลงมือทำจริง”เพราะภาพของแบรนด์ไม่ได้เกิดจากแค่คำพูดสวย ๆ แต่จากความจริงใจที่ส่งผ่านจากผู้ก่อตั้งถึงลูกค้าโดยตรง ทุกโพสต์ ทุกคำตอบ ทุกขวดครีมที่ออกจากโรงงาน ล้วนมี “ตัวตนของคนทำ” อยู่ในนั้น

 

 

ข่าวล่าสุด

กัมพูชาเปิดฉากยิงช่องอานม้า ฝ่ายไทยสูญเสีย ยังปะทะเดือด