SME D BANK เร่งเครื่องไตรมาส 4 ปล่อยสินเชื่อแตะ 7.5 หมื่นลบ. คุม NPL ต่ำ 8.7%

นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ SME D BANK เปิดเผยว่า ธนาคารเดินหน้าขับเคลื่อนเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อในไตรมาส 4/2568 อย่างเต็มกำลัง โดยตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเพิ่มอีกกว่า 20,000 ล้านบาท เพื่อผลักดันแหล่งทุนรวมทั้งปีให้ได้  75,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้

“9 เดือนแรกของปีนี้ เราปล่อยสินเชื่อไปแล้วกว่า 50,000 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนว่าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีความต้องการเงินทุนสูงขึ้น และธนาคารก็พร้อมสนับสนุนให้เข้าถึงทุนได้อย่างทั่วถึง โดยไตรมาส 4 จะเร่งอัดฉีดสินเชื่ออีกกว่า 2 หมื่นล้านบาท เพื่อให้เป้าหมายทั้งปีบรรลุแน่นอน” นายพิชิต กล่าว

นายพิชิตระบุว่า การปล่อยสินเชื่อรวมทั้งปีที่คาดว่าจะถึง 75,000 ล้านบาท จะก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 343,500 ล้านบาท ช่วยรักษาการจ้างงานกว่า 164,800 รายทั่วประเทศ โดยสนับสนุนผู้ประกอบการให้เข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษ 3% คงที่ 3 ปีแรก เพื่อเสริมสภาพคล่องและต่อยอดธุรกิจ 

ในช่วง ไตรมาส 3/2568 ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) เดินหน้าสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้กว่า 57,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 35.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สร้างเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 262,600 ล้านบาท

ธนาคารยังดำเนินการพัฒนาเอสเอ็มอีแบบครบวงจร ควบคู่กับการปล่อยสินเชื่อ โดยมุ่งเพิ่มรายได้ ขยายช่องทางการตลาด ลดต้นทุน และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการปรับตัวเข้าสู่ระบบบัญชีภาษีที่ถูกต้อง รวมถึงยกระดับธุรกิจสู่ยุคดิจิทัล ผ่านกิจกรรมออนไซต์ควบคู่กับช่องทางออนไลน์ โดยใช้แพลตฟอร์ม DX by SME D Bank ที่เปิดให้บริการได้สะดวก ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะเดียวกัน ธนาคารยังให้ความช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบางอย่างต่อเนื่อง ช่วยพลิกฟื้นและปรับปรุงกิจการให้กลับมาดำเนินธุรกิจได้กว่า 16,000 ราย รวมวงเงินกว่า 33,590 ล้านบาท ส่งผลให้ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2568 สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลดลงเหลือเพียง 8.7% และธนาคารมั่นใจว่าจะสามารถรักษาระดับนี้ไว้ได้ต่อเนื่องตลอดปี ด้วยระบบเตือนภัยล่วงหน้า ที่ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าถึงและให้ความช่วยเหลือลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด

“เรามีทีมงานลงพื้นที่ใกล้ชิดลูกค้า เพื่อเข้าใจปัญหาและหาทางออกให้ตรงจุด พร้อมช่วยให้ลูกค้าสามารถชำระหนี้ได้ตามศักยภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ NPL ของธนาคารอยู่ในระดับต่ำ โดยคาดว่าจะสามารถรักษาระดับ NPL ต่ำกว่า 8.7% ได้อย่างต่อเนื่อง” นายพิชิต กล่าว

ทั้งนี้ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2568 ธนาคารเดินหน้าขับเคลื่อนการตลาดเชิงรุกผ่าน 99 สาขาทั่วประเทศ เพื่อเข้าถึงผู้ประกอบการในทุกพื้นที่ โดยประสานงานกับลูกค้าเป้าหมายอย่างใกล้ชิด พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สินเชื่อ “ปลุกพลัง SME” สำหรับต่อยอดกิจการ , “Beyond ติดปีก SME” เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน
และ “SME een Productivity” สำหรับธุรกิจปรับตัวสู่เศรษฐกิจสีเขียว

อย่างไรก็ตาม ธนาคารเตรียมมาตรการพิเศษวงปลายปี เพื่อให้ผู้ประกอบการใช้โอกาสทางเศรษฐกิจขยายธุรกิจได้ทันที โดยจะมีการเตรียมนำเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.) แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ เชื่อว่าภายใต้นโยบายสนับสนุนจากรัฐบาล เอสเอ็มอีแบงก์จะสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุนได้รวดเร็วและทั่วถึงมากขึ้น 

นายพิชิตกล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ธนาคารจะใช้แรงส่งจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เช่น มาตรการท่องเที่ยว การใช้จ่ายในประเทศ และการสนับสนุนธุรกิจชุมชน เพื่อช่วยให้เอสเอ็มอีสามารถขยายตลาดและเพิ่มยอดขายได้

“เชื่อว่าปัจจัยบวกจากนโยบายรัฐและการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ จะช่วยให้เอสเอ็มอีไทยฟื้นตัวอย่างแข็งแรง และทำให้เอสเอ็มอีแบงก์บรรลุเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อทั้งปีแน่นอน” นายพิชิต กล่าว