“ไชยชนก” จ่อหารือเอกชน แก้ปัญหาแพลตฟอร์มรายใหญ่ผูกขาด กระทบ SME

หลังจากที่ นายอนุทิน ชาญวีระกูล นายกรัฐมนตรี ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 ที่ผ่านมานั้น กระทรวงดีอี ได้เตรียมดำเนินการขับเคลื่อนภารกิจที่สำคัญเร่งด่วนรองรับนโยบายรัฐบาลครอบคลุมทุกด้าน ได้แก่ 1. ภัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2. ภัยความมั่นคง  3. ภัยเศรษฐกิจ 4. ภัยสังคม และ 5. การบริหารภาครัฐ ตามแนวทาง  “Quick Win” โดยเน้นให้ความสำคัญกับความโปร่งใสในกระบวนการทำงานทุกขั้นตอน และสามารถตรวจสอบได้ นั้น 

ในฝั่งของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) นายไชยชนก ชิดชอบ ได้เปิดบ้านแถลงนโยบายกระทรวงดีอีเป็นครั้งแรก โดยเน้นย้ำนโยบายที่สำคัญเกี่ยวกับการลดต้นทุนและเพิ่มศักยภาพให้ผู้ประกอบการรายย่อย หรือ SME

นายไชยชนก กล่าวว่า กระทรวงต้องเร่งบูรณาการและหารือกับภาคเอกชนเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาการผูกขาดตลาดของแพลตฟอร์มรายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการผูกขาดให้ใช้ขนส่งพัสดุที่แพลตฟอร์มกำหนด ตลอดจนการแก้ปัญหาค่าธรรมเนียมการใช้งานที่สูง เพื่อลดต้นทุน เพิ่มทางเลือกให้ SME สามารถแข่งขันในตลาดได้ 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า กระทรวงดีอี อยู่ระหว่างการผลักดัน กฎหมายไปรษณีย์ใหม่อยู่ก็ตาม แต่ด้วยระยะเวลาการทำงาน 4 เดือน ดังนั้น ตนเองเชื่อว่า การหารือเพื่อขอความร่วมมือกัน น่าจะสามารถทำงานได้รวดเร็วกว่า ส่วนเรื่องกฎหมายตนยังเองยังไม่ได้ศึกษาอย่างละเอียด คงต้องขอเวลาดูก่อน หากสิ่งไหนดีอยู่แล้วก็ยินดีเดินหน้าต่อ ไม่ดึงให้เสียเวลาแน่นอน แม้ว่าจะเป็นงานที่รัฐบาลชุดเพื่อไทยดำเนินการมาก็ตาม 

อนึ่ง ก่อนหน้านั้น นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ได้ฝากการบ้านถึง รมว.ดีอีคนใหม่ โดยมีกฎหมายที่อยู่ระหว่างการผลักดัน ได้แก่ 1.ร่าง พ.ร.บ.ไปรษณีย์ ฉบับใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับปรุงรายละเอียดโดยปลัดกระทรวง และเตรียมเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะในเร็ว ๆ นี้ 2.ร่าง พ.ร.บ.อุตุนิยมวิทยา ที่ผ่านการพิจารณาของกระทรวงแล้ว และอยู่ระหว่างการเตรียมเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และ 3.ร่าง พ.ร.บ.เศรษฐกิจแพลตฟอร์มดิจิทัล พ.ศ. ... ซึ่งจัดทำโดย สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ. หรือ ETDA)