posttoday

ตามรอย “ไร่ชาญี่ปุ่น” อายุ 150 ปี ต้นแบบเกษตรอัจฉริยะ ส่งต่อทายาทรุ่น 6

02 ตุลาคม 2568

150 ปี ไร่ชาญี่ปุ่น สู่ มัทฉะสุดฮิตในเมืองไทย ตามรอยต้นแบบ SME เกษตรอัจฉริยะ ส่งต่อธุรกิจรุ่นสู่รุ่น ส่งออก 30 ประเทศทั่วโลก ที่หลายคนเคยกินแต่ "ไม่รู้"

KEY

POINTS

  • เผยที่มามัทฉะสุดฮิตในไทย จากไร่ชาญี่ปุ่น 150 ปี ที่หลายคนเคยกินแต่ไม่เคยรู้
  • ถอดรหัสความสำเร็จ SME เกษตรอัจฉริยะ ส่งต่อธุรกิจทายาทรุ่น 6 บุก 30 ประเทศทั่วโลก

ชาเชียวมัทฉะ ที่คนไทย “ฮิต” รู้หรือไม่ว่า คนญี่ปุ่น ไม่ได้นิยมกินกัน “ทุกวัน” หรือเป็นกระแสไวรัลแบบ “คนไทย” เพราะการชงชา คือธรรมเนียมปฏิบัติเมื่อมีงานสำคัญ เท่านั้น และรู้หรือไม่ว่า “มัทฉะ” ที่กำลังอินเทรนด์จนแบรนด์ใหญ่หลายแบรนด์นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยนั้น มาจากไร่ชา “ยามามะ มัตซึดะ เอ็น” ที่มีอายุถึง 150 ปี

ล่าสุดทายาทรุ่นที่ 5 “สึโยมิ มัตสึดะ” ในวัย 72 ปี กำลังส่งต่อธุรกิจนี้ให้ทายาทรุ่นที่ 6 ซึ่งเป็นลูกสาวของเขาในการนำธุรกิจเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียมากขึ้น

แน่นอนว่า การเป็นเกษตรกรของชาวญี่ปุ่นในยุคปัจจุบันมีการนำเครื่องจักรเข้ามาใช้งานในรูปแบบ “เกษตรอัจฉริยะ” ซึ่ง “สึโยมิ มัตสึดะ” สืบทอดมาเป็นรุ่นที่ 5 นั้น มีการนำเครื่องจักรในการเก็บเกี่ยวยอดใบชามาใช้เพื่อให้รองรับกับการส่งออก 20 ประเทศทั่วโลก กำลังการผลิตปีละ 100 ตัน หากผลผลิตไม่เพียงพอก็จะมีการติดต่อเครือข่ายไร่ชาด้วยกัน ทำให้ไม่เกิดปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบ

ตามรอย “ไร่ชาญี่ปุ่น” อายุ 150 ปี ต้นแบบเกษตรอัจฉริยะ ส่งต่อทายาทรุ่น 6

“สึโยมิ มัตสึดะ”วัย 72 ปี ทายาทรุ่นที่ 5 แห่ง ไร่ชา “ยามามะ มัตซึดะ เอ็น”

ย้อนไปเมื่อ 150 ปีก่อน “ยามามะ มัตซึดะ เอ็น” เป็นโรงงานชาเก่าแก่ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1870 (พ.ศ. 2413/สมัยเมจิที่ 3) ที่เมือง โอมะเอซากิ จังหวัดชิซุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ด้วยการผลิตชาแบบ ครบวงจร (One-stop production) ตั้งแต่ปลูก เก็บเกี่ยว แปรรูป จนถึงบรรจุและจำหน่ายเองทั้งหมด จึงสามารถควบคุมคุณภาพได้อย่างดีเยี่ยม และได้รับรางวัลต่างๆมากมาย จนกลายเป็น 1 ใน 3 ของไร่ชาที่ใหญ่ที่สุดญี่ปุ่น 

ตามรอย “ไร่ชาญี่ปุ่น” อายุ 150 ปี ต้นแบบเกษตรอัจฉริยะ ส่งต่อทายาทรุ่น 6

สำหรับ ไร่ชาในบริเวณโอมะเอซากิ ถือเป็นแปลง Koizumihara ที่เริ่มการเพาะปลูกโดย Maruo Bunroku เมื่อประมาณศตวรรษที่ 19 ซึ่งปัจจุบันยังคงถูกจัดการและปลูกโดยไร่ชายามามะ มัตซึดะ เอ็น สืบต่อกันมา หลายชั่วอายุคน

ไม่เพียงแค่การปลูกชาและจำหน่ายเท่านั้น แต่“ยามามะ มัตซึดะ เอ็น” ไร่ช่าแห่งนี้ยังเปิดให้รับชมและเรียนรู้การเพาะปลูกชา  และมีโครงการ “chatto!” – ปลูกชาแบบรุ่นสู่รุ่น หรือ เล่น เรียนรู้ ปลูก ซึ่งเป็นกิจกรรมเชิงประสบการณ์ภายในไร่ ในการชวนนักท่องเที่ยวมาร่วมปลูกต้นชา ดูแลแปลง และเก็บเกี่ยวเบื้องต้นแบบเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ไร่บุกเบิก เปิดพื้นที่กว่า 1.1 เฮกตาร์ (เทียบเท่าฟุตบอล 1.5 สนาม) เพื่อปลูกชาสายพันธุ์ “tsuyuhikari” และจัดกิจกรรม ให้ผู้เข้าร่วมได้มีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ปลูกจนถึงเก็บใบ โดยมีจัดกิจกรรมหลากหลาย เช่น ปลูกชา เดินในไร่ เก็บใบชา ฯลฯ สร้างประสบการณ์แบบ immersive ที่ไม่เหมือนใคร

ตามรอย “ไร่ชาญี่ปุ่น” อายุ 150 ปี ต้นแบบเกษตรอัจฉริยะ ส่งต่อทายาทรุ่น 6

“สึโยมิ มัตสึดะ” เล่าว่า การบริหารงานในรุ่นของเขา เริ่มใช้เครื่องจักรในการเก็บเกี่ยวโดยการเก็บใบชานั้นจะเก็บ 4 ครั้ง คือ 

การเก็บใบชาครั้งที่ 1 (Ichibancha หรือ Shincha)
-ใบชาจะถูกเก็บในช่วงปลาย เดือนเมษายน - กลางเดือนพฤษภาคม

การเก็บใบชาครั้งที่ 2 (Nibancha)
-จะอยู่ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน - ต้นเดือนกรกฎาคม ห่างจากครั้งแรก 45 -50 วัน

การเก็บใบชาครั้งที่ 3 (Sanbancha)
-จะอยู่ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม - ต้นเดือนสิงหาคม

การเก็บใบชาครั้งที่ 4 (Yonbancha)
-จะเก็บในช่วงปลายเดือนกันยายน - ต้นเดือนตุลาคม

ตามรอย “ไร่ชาญี่ปุ่น” อายุ 150 ปี ต้นแบบเกษตรอัจฉริยะ ส่งต่อทายาทรุ่น 6

คุกกี้ชาเขียว “สึยุฮิคาริ”

นอกจากชาแล้ว “สึโยมิ มัตสึดะ” เล่าว่า ที่ไร่ชายังมีช้อปสำหรับจำหน่ายสินค้าอื่นๆด้วย คือ ของขวัญและเซ็ตพรีเมียม เช่น ชากล่องไม้ เหมาะสำหรับมอบเป็นของฝากหรือของขวัญพิเศษรวมถึงสินค้าแปรรูปชาเขียว อย่าง คุกกี้ชาเขียว “สึยุฮิคาริ” ขนม “โยกังชาเขียว และ น้ำอัดลม “ชาเขียวซาเดอร์” ซึ่งตอนนี้ลูกสาวของเขาเป็นทายาทรุ่นที่ 6 เริ่มเข้ามาสืบทอดกิจการแล้ว โดยต่อยอดธุรกิจด้วยการนำเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียเข้ามาพัฒนาธุรกิจก้าวสู่ยุคใหม่

จับคู่ชาญี่ปุ่นผสมสินค้า SME ไทย 

การเดินทางของไร่ชา “ยามามะ มัตซึดะ เอ็น” ไปสู่ 30 ประเทศทั่วโลก ซึ่ง 1 ในนั้น ก็คือ ประเทศไทย และแบรนด์ดังอย่าง “อินทนิล” ก็เป็น 1 ในเอกชนรายใหญ่ที่นำเข้าชาญี่ปุ่นแบรนด์นี้มาจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่ง ณิภาภรณ์ จักรพิทักษ์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด เล่าว่า การรับซื้อชาจาก ไร่ชา “ยามามะ มัตซึดะ เอ็น” นั้น จะคัดสรรเฉพาะเกรดพรีเมียมเท่านั้นปีละ 5 ตัน ซึ่งไร่ชา “ยามามะ มัตซึดะ เอ็น” มีชาหลายเกรดที่จำหน่ายทั่วโลก

ตามรอย “ไร่ชาญี่ปุ่น” อายุ 150 ปี ต้นแบบเกษตรอัจฉริยะ ส่งต่อทายาทรุ่น 6

เมื่อ อินทนิล ได้รับวัตุดิบมา ไม่เพียงแค่จำหน่ายเพียวมัจฉะเท่านั้น แต่ยังมีการนำมาผสมผสานกับผลผลิตของเกษตรกรไทยเพื่อเป็นการส่งเสริมธุรกิจ SME ของไทย ได้แก่ มัทฉะมะพร้าวสด , มัทฉะน้ำอ้อยสด รวมถึงมีการผสมผสานกับน้ำผลไม้ อย่าง มัทฉะน้ำส้มสด,มัทฉะน้ำผึ้งบ๊วยสด,มัทฉะน้ำผึ้งมะนาวสด

ตามรอย “ไร่ชาญี่ปุ่น” อายุ 150 ปี ต้นแบบเกษตรอัจฉริยะ ส่งต่อทายาทรุ่น 6  

ณิภาภรณ์ จักรพิทักษ์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด

ทำให้ปัจจุบันชาเขียวมีสัดส่วน 30 % ของยอดขายทั้งหมดในร้านอินทนิล ขณะที่ภาพรวมในตลาดอินทนิลเป็นอันดับ 2 ในตลาด มียอดขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 100 แก้ว ยอดขาย 2,000 ล้านบาท ตั้งเป้าภายใน 3 ปี หรือใน ปี 2571 ยอดขายเพิ่มเป็น 6,000 ล้านบาท มีจำนวนสาขา 1,800 สาขาและมีจำนวนแก้ว ต่อวัน ต่อสาขาอยู่ที่ 200 แก้ว

ความสำเร็จของไร่ชา “ยามามะ มัตซึดะ เอ็น” ที่สะสมประสบการณ์มายาวนาน 150 ปี กับการทำเกษตรสมัยใหม่ที่มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง คือเรื่องราวที่ SME ไทยสามารถนำมาเป็นต้นแบบในการต่อยอดธุรกิจเกษตร หากมุ่งมั่นในการส่งต่อธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่นและหาความพรีเมียมในตัวให้เจอ

ข่าวล่าสุด

BUZZEBEES สร้างประวัติการณ์! กวาดฐานผู้ใช้งานทะลุ 200 ล้านบัญชี