เปิดเมนูอาหาร–เครื่องดื่มยอดฮิต คนไทยสั่งจากแอปฯ เดลิเวอรี่

ฐากูร ชาติสุทธิผล ผู้ร่วมก่อตั้ง Food Story และหัวหน้าฝ่ายนวัตกรรม POS, LINE MAN Wongnai เปิดเผยข้อมูลแนวโน้มหมวดอาหารและเครื่องดื่มในปีนี้ พบว่าแม้จะมีเมนูใหม่ ๆ เกิดขึ้น แต่ “ไก่ทอด (Fried Chicken)” ยังคงครองตำแหน่งอันดับ 1 และเติบโตอย่างต่อเนื่อง แซงหน้าหลายเมนูที่เคยมาแรงก่อนหน้า

 

อาหารยอดนิยมลำดับยังยึดตำแหน่งเดิม ได้แก่ 

1. ไก่ทอด
2. ส้มตำปูปลาร้า
3. ข้าวผัด 
4. ข้าวมันไก่
5. เมนูข้าวกะเพราหมูกรอบ/กะเพราหมูกรอบ 
6. ข้าวกระเพราหมูสับ/ กะเพราหมูสับ 
7. ลาบหมู
8. ส้มตำไทย 
9. น้ำตก/น้ำตกคอหมูย่าง 
10. สุกี้

 

ทั้งนี้ “สุกี้” ถือเป็นน้องใหม่อันดับ 10 เติบโตแรงถึง 30% โดยมีหลายแบรนด์ช่วยผลักดัน เช่น สุกี้พรศิริ ที่เปิดขายเป็นรอบเพราะทำไม่ทัน, สุกี้ช้างเผือก จากเชียงใหม่ที่บุกกรุงเทพฯ ครั้งแรกย่านบรรทัดทอง, และ MK สุกี้ ที่ปล่อยเมนูฮิต “สุกี้ผัดแห้งในหม้อแดง” สร้างกระแสไม่แพ้สุกี้บุฟเฟต์

 

เทรนด์เครื่องดื่ม ชาแรงแซงกาแฟ

 

หากปีก่อน “กาแฟดำ” มาแรง ปีนี้หมวด “ชา” กลับมาทวงบัลลังก์ โดย ชาเขียวนม ขึ้นเป็นอันดับ 1 ตามด้วย Espresso, Black Coffee และชานมในลำดับ 2–4 ขณะที่ ชาไทยไต่ขึ้นสู่อันดับ 5 โตเกือบ 13% อันดับ 6–9 ได้แก่ คาปูชิโน่, อเมริกาโน่, น้ำผึ้ง และโกโก้ ส่วนมัทฉะลาเต้ ติดอันดับ 10 เป็นเมนูใหม่ที่เติบโตแรงกว่า 200%

 

กระแส Matcha Fever ยอดสั่งทะลุ 5 ล้านแก้ว 

 

ทั้งนี้กระแส “Matcha Fever” ยอดสั่งครึ่งปีแรก 2025  ทะลุ 5 ล้านแก้ว เทียบเท่ายอดขายทั้งปี 2024 และมีแนวโน้มแตะ 10 ล้านแก้วภายในสิ้นปี

 

เมนูมัทฉะที่ถูกค้นหามากที่สุดบน Food Delivery ช่วงเดือนมกราคม - สิงหาคม 2568 ได้แก่ เพียวมัทฉะ (45,000 ครั้ง), มัทฉะลาเต้ (25,000 ครั้ง), มัทฉะมะพร้าว/น้ำมะพร้าว (20,000 ครั้ง) และมัทฉะเย็น (10,000 ครั้ง) โดยพื้นที่ขายหลักคือ กรุงเทพฯ, นนทบุรี, ชลบุรี, สมุทรปราการ และปทุมธานี

 

“ชานมเผือกโมจิ” ไวรัลมาแรง

 

อีกหนึ่งเทรนด์ที่มาแรงไม่แพ้มัทฉะคือ ชานมเผือกโมจิ มียอดค้นหาเติบโตถึง 530% และยอดขายในไตรมาส 3 เพียงอย่างเดียวพุ่งเกิน 150,000 แก้ว หลังจากที่ยอดขายแทบไม่ขยับมาทั้งปี โดยมีแบรนด์ใหญ่ยัง Nose Tea ,Bearhouse และ Cafe Amazon ช่วยโปรโมตจนติดกระแสไวรัล

 

ทั้งนี้ ฐากูร เน้นย้ำว่า ผู้ประกอบการควรติดตามพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างใกล้ชิด พร้อมปรับเมนูเพื่อ “จับกระแสให้ทัน” และต้อง “เข้าเร็ว ออกเร็ว” เพื่อไม่พลาดโอกาสในตลาดที่เปลี่ยนแปลงเร็ว