posttoday

พาณิชย์เร่ง FTA เปิดตลาดใหม่ ดึงลงทุนต่างชาติ เชื่อมไทยสู่ห่วงโซ่โลก

27 สิงหาคม 2568

รมช.พาณิชย์ ชี้สินค้าและบริการไทยต้องสร้างเอกลักษณ์ ปรับตัวสู่มาตรฐานสากล เร่งเจรจา FTA ขยายตลาด ส่งเสริมลงทุนเทคโนโลยีใหม่ ผนวกไทยเข้าห่วงโซ่การผลิตโลก

นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในงาน อนาคตเศรษฐกิจโลก-เศรษฐกิจสีเขียว จัดโดย สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (ITD) ว่า ปัจจุบันการค้าระหว่างประเทศ ถือเป็นนโยบายที่ภาครัฐ ให้ความสำคัญมากขึ้น ซึ่งตอนนี้สิ่งที่ต้องทำเร่งด่วนคือการปรับตัวของทุกภาคส่วน  เราต้องหาว่าอันไหนเป็นสินค้าและบริการที่เราผลิตแล้วเป็นที่ต้องการของตลาดโลก มีเอกลักษณ์ และสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งหมายความว่า สามารถสร้างงานสร้างรายได้ให้กับคนไทย เช่น ขายของ 100 บาท คนไทยได้กี่บาท ตอนนี้ก็มีหลายไอเดียใหม่ ๆ เช่น สินค้าเกษตรนวัตกรรม ที่เป็นที่ต้องการในตลาด

 

ขณะเดียวกัน ก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เราสามารถปรับตัว และทำได้เพิ่มเติม เช่น ดาต้าเซ็นเตอร์ การลงทุนด้าน AI การลงทุนในสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงที่เรากำลังจัดทำกลยุทธ์นโยบายยุทธศาสตร์การค้าชาติ ซึ่งน่าจะมีผลเห็นเร็ว ๆ นี้ เราก็จะวางกลยุทธ์กันว่าสินค้าอะไร เป็นสินค้าที่ขายได้ มูลค่าเพิ่มสูง 

 

ต่อมาคือเรื่องมาตรฐานต้องยอมรับว่า ถ้าหากจะนำสินค้าที่ต้องการเข้าไปขายในตลาดคุณภาพ เช่น สหภาพยุโรป หรือเกาหลีใต้ เราต้องปรับมาตรฐาน เช่นมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม มาตรฐานด้านแรงงาน แล้วก็มาตรฐานด้านการตรวจสอบวัตถุดิบ แหล่งที่มา เราต้องรู้ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำเลยว่าสินค้าเหล่านี้ มันมีที่มาที่ไปอย่างไร และก็ต้องเร่งปรับตัวหากเราจะมีที่ยืนอย่างแข็งแกร่งในโลก 

 

ไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัวตั้งแต่วันนี้ โดยรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ได้เริ่มดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว และเห็นว่าเศรษฐกิจไทยต้องยกระดับให้เติบโตอย่างมีคุณภาพมากขึ้น พร้อมทั้งลดความเหลื่อมล้ำในสังคม การเปลี่ยนแปลงของระบบการค้าสหรัฐฯ ถือเป็นแรงกดดันสำคัญที่ผลักดันให้ไทยต้องปรับตัวเร็วขึ้น ขณะที่ภาครัฐพร้อมทำงานร่วมกับภาคธุรกิจและภาควิชาการ เพื่อช่วยกันเติมเต็มจุดอ่อนและแก้ปัญหาที่เป็นอุปสรรคในการแข่งขัน

 

รมช.พาณิชย์ ระบุว่า ปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์มีนโยบายลดการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่งมากเกินไป โดยพยายามเปิดตลาดใหม่ ๆ ให้ผู้ประกอบการ เช่น การเจรจากับสหภาพยุโรป (EU) เพื่อขยายช่องทางการส่งออกของไทย พร้อมทั้งดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศในสาขาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AI และศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งประเทศพัฒนาแล้วมีความพร้อมสูงกว่า เพื่อให้คนไทยได้รับประโยชน์มากขึ้น

 

นอกจากนี้ การเร่งเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) จะช่วยให้ไทยผนวกเข้ากับห่วงโซ่การผลิตโลกได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากปัจจุบันการผลิตเชื่อมโยงกันทั่วโลก บางประเทศเน้นคิดค้นนวัตกรรม บางประเทศเป็นผู้ผลิต ขณะที่บางประเทศสามารถทำได้ทั้งสองอย่าง ไทยจึงต้องหาจุดเชื่อมต่อที่เหมาะสม โดยเริ่มต้นจากการเจรจาการค้า ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการเปิดโอกาสให้ธุรกิจไทยเข้าร่วมในระบบเศรษฐกิจโลกอย่างแท้จริง

 

ข่าวล่าสุด

นาวิกโยธิน บุกยึดคืนพื้นที่บ้านสามหลัง จ.ตราด ปักธงไทยสำเร็จ