ผู้นำรุ่นใหม่ เสนอ 5 นวัตกรรม เพื่อสังคมสูงวัย เศรษฐกิจ แรงงาน

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เปิดเวทีสนามทดลองนโยบายให้ผู้นำรุ่นใหม่กว่า 80 คน จากหลากหลายวงการทั้งภาครัฐ -เอกชน-สื่อมวลชน นำเสนอนวัตกรรมเชิงนโยบายเพื่อแก้โจทย์อนาคตไทยใน 5 ประเด็นใหญ่ ได้แก่ สังคมสูงวัย การพัฒนาทักษะแรงงาน เศรษฐกิจท้องถิ่น ระบบสุขภาพ และเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) ในงานปิดหลักสูตร หลักสูตร Public and Private Chief Innovation Leadership (PPCIL) รุ่นที่ 7 

 

ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการ NIA กล่าวว่า โลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วไม่สามารถพึ่งพาวิธีการเดิมได้อีกต่อไป “นวัตกรรมเชิงนโยบาย” จึงเป็นเครื่องมือสำคัญให้ทั้งรัฐและเอกชนปรับตัว เดินหน้าอย่างยั่งยืน และสร้างระบบใหม่ที่ต่อยอดมูลค่าเชิงเศรษฐกิจและสังคม

 

ทั้งนี้ หลักสูตร PPCIL จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 มุ่งสร้าง “ผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Change Maker)” จากภาครัฐ เอกชน การเมือง ความมั่นคง และสื่อ ให้เข้าใจระบบนวัตกรรมในเชิงกลยุทธ์และปฏิบัติจริง โดยปีนี้จัดภายใต้หัวข้อ “Future of Thailand’s Competitiveness: Shaping a Sustainable Tomorrow”

ข้อเสนอที่เกิดจากการระดมสมองตลอดหลักสูตรได้แก่

1. พร้อม จ้าง สร้าง ได้ โมเดลยกระดับศักยภาพคนรุ่นใหญ่ให้กลับมามีบทบาทในเศรษฐกิจ ผ่านการจ้างงาน การฝึกทักษะใหม่ และการใช้ประสบการณ์เป็นทุนทางสังคม

 

ผู้นำรุ่นใหม่เสนอว่า เมื่อประเทศไทยก้าวเข้าสู่ สังคมสูงวัยสมบูรณ์ (ประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปเกิน 20%) หากไร้มาตรการรองรับ อาจเผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงาน กำลังการผลิตถดถอย รายได้ภาษีลดลง และภาระงบประมาณด้านสวัสดิการกับสุขภาพที่สูงขึ้นต่อเนื่อง

 

อย่างไรก็ตาม หากออกแบบนโยบายที่เหมาะสม ผู้สูงวัยสามารถเปลี่ยนจาก “ภาระ” เป็น ทุนมนุษย์ที่สร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคม โดยโมเดล “พร้อม–จ้าง–สร้าง” ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างระบบนิเวศใหม่ของตลาดแรงงานที่ซัพพลายและดีมานด์เดินไปด้วยกัน ดังนี้

• “พร้อม” เตรียมแรงงานอายุ 35 ปีขึ้นไปให้พร้อมเข้าสู่วัยสูงอายุ ผ่านการพัฒนาความรู้ สุขภาพ ทัศนคติ และการเงิน สนับสนุนด้วยศูนย์เตรียมความพร้อม ระบบ “พร้อมพอยท์” และแพลตฟอร์มกลางติดตามมาตรฐานเดียวกัน
• “จ้าง” เปิดโอกาสงานยืดหยุ่น รองรับทุกวัย โดยแรงงานที่ผ่านการประเมินจะเข้าสู่แพลตฟอร์มจ็อบแมตช์เชื่อมตรงกับนายจ้าง รัฐยังสนับสนุนสิทธิประโยชน์ทางภาษี สร้างตำแหน่งงานแบบพาร์ตไทม์ รีโมทเวิร์ก และการจ้างในภาครัฐ–รัฐวิสาหกิจ
• “สร้าง” ผลักดันผู้สูงวัยสู่การเป็นผู้ประกอบการ ผ่านทุนเริ่มต้น สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ การจับคู่กับนักลงทุน–สตาร์ตอัป พร้อมหลักสูตรบริหาร การตลาด และเทคโนโลยี รวมถึงการเปิดตลาดใหม่ทั้งในและต่างประเทศ

 

แนวทางนี้ไม่เพียงช่วยให้ผู้สูงวัยกลับเข้าสู่ตลาดแรงงาน แต่ยังทำให้กลายเป็น ผู้สร้างงานและมูลค่าใหม่ในระบบเศรษฐกิจไทย

 

2. Thai Skill Plus – Skill Log การปฏิรูประบบการรับรองฝีมือแรงงานไทยให้ทันสมัย มีฐานข้อมูลกลาง และรองรับการเคลื่อนย้ายแรงงานในอนาคต 

 

3. เกษียณสร้างชาติ การสร้าง Silver Economy ด้วยมาตรการส่งเสริมผู้สูงอายุให้มีบทบาทเชิงเศรษฐกิจ ทั้งในฐานะผู้ประกอบการ นักลงทุน และผู้สร้างมูลค่าเพิ่ม

 

4. Urban Me โครงการฟื้นฟูชุมชนและดึงคนรุ่นใหม่กลับถิ่นด้วยการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ดึงดูด รวมถึงการสนับสนุน MSME มีศักยภาพแข่งขันในระดับ Local และ Regional สร้างความหลากหลายของสินค้า เพิ่มมูลค่าท้องถิ่น (Local Value Added) และทำให้ชุมชนมีรายได้อย่างยั่งยืน

 

5. NCD Innovation Sandbox การสร้างพื้นที่ทดสอบนวัตกรรมด้านการจัดการโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเพื่อลดภาระและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการฟื้นฟูศักยภาพแรงงาน 

 

ดร.กริชผกา กล่าวว่า ข้อเสนอทั้งหมดจะถูกนำไปขับเคลื่อนต่อในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง อว. หน่วยงานท้องถิ่น กทม. รวมถึงการนำเสนอในเวทีนโยบายระดับชาติ โดยมีสมาชิกวุฒิสภา (สว.) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายภาคส่วนร่วมให้ความเห็น รวมถึงการผลักดันแซนด์บอกซ์ทดลองพื้นที่จริง 

 

“ความสำเร็จของรุ่นนี้ไม่ได้อยู่ที่ข้อเสนอเพียงอย่างเดียว แต่คือการสร้างคนและเครือข่ายผู้นำ ที่จะขับเคลื่อนนวัตกรรมเชิงนโยบายให้เกิดผลอย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์จาก PPCIL รุ่นที่ 7 จึงไม่ใช่การสิ้นสุดโครงการ แต่เป็นการเปิดบทใหม่ของการปฏิรูประบบนโยบาย ที่มีทั้งวิสัยทัศน์และความเป็นไปได้จริง เพื่อพาประเทศไทยก้าวสู่สังคมแห่งนวัตกรรมอย่างยั่งยืน"