ธนาคารออมสินผนึกกำลัง SMEs ไทย สู่การเติบโตที่ยั่งยืน

ภิรมย์ โพธิ์เจริญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สายงานลูกค้าธุรกิจ SMEs ได้ร่วมขึ้นเวทีในงาน Thailand SMART SME 2025 “Smart Solutions & Sustainable Growth” ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท เพื่อฉายภาพบทบาทของธนาคารออมสินในการสนับสนุนและพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ไทย โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจมีความผันผวนและความท้าทายรอบด้าน
 

นายภิรมย์เริ่มต้นด้วยการกล่าวถึงวิวัฒนาการของธนาคารออมสิน ซึ่งแม้จะเริ่มต้นในฐานะ Social Bank ที่เน้นการออมทรัพย์ แต่ปัจจุบันได้ขยายบทบาทเป็น Universal Bank ที่ให้บริการครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า ตั้งแต่รายย่อยไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในภาคธุรกิจ SMEs ซึ่งธนาคารเริ่มให้ความสำคัญมาตั้งแต่ปี 2550 และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่อง

ความท้าทายและ Pain Point ของ SMEs ไทยในมุมมองของธนาคาร
นายภิรมย์มองว่าผู้ประกอบการ SMEs กำลังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ซึ่งสอดคล้องกับภาพรวมที่หลายฝ่ายกำลังพูดถึง ได้แก่:

ขาดความรู้และทักษะ: ผู้ประกอบการจำนวนมากยังขาดทักษะในการบริหารจัดการ การตลาด และการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเฉพาะการตลาดออนไลน์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการแข่งขันยุคปัจจุบัน

การเข้าถึงแหล่งเงินทุน: ปัญหาสำคัญคือคุณสมบัติของผู้ประกอบการที่ไม่ตรงตามเงื่อนไขการขอสินเชื่อ โดยเฉพาะเรื่องประสบการณ์การทำธุรกิจที่ต้องไม่ต่ำกว่า 3 ปี ทำให้ผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ยาก

การบริหารจัดการด้านการเงิน: ผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยยังไม่มีการจัดทำบัญชีอย่างเป็นระบบ ทำให้การประเมินสถานะทางการเงินเป็นไปได้ยาก และบางส่วนยังกังวลเรื่องภาษี ซึ่งธนาคารแนะนำว่าการทำบัญชีที่โปร่งใสและถูกต้องจะช่วยให้การพิจารณาสินเชื่อราบรื่นยิ่งขึ้น

หลักประกัน: SMEs ส่วนใหญ่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันเพียงพอ ซึ่งธนาคารออมสินได้ร่วมมือกับภาครัฐ โดยเฉพาะบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เพื่อช่วยค้ำประกันสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการ

ภาวะเศรษฐกิจ: ปัจจัยภายนอก เช่น ภาวะสงคราม หรือนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ล้วนส่งผลกระทบต่อธุรกิจ SMEs โดยตรง ธนาคารจึงต้องเตรียมพร้อมและออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าอย่างทันท่วงที เช่น การลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบ

ธนาคารออมสินกับการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs
ภายใต้หลักคิด Blue Ocean Strategy หรือ Blue Ocean Mission ที่มุ่งเน้นการสร้างคุณค่าร่วมกันระหว่างเศรษฐกิจและสังคม ธนาคารออมสินจึงได้กำหนด 4 พันธกิจหลักในการขับเคลื่อนองค์กร ซึ่งครอบคลุมการสนับสนุนผู้ประกอบการอย่างรอบด้าน:

Financial Inclusion: การสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกระดับเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น รวมถึงการลดอัตราดอกเบี้ยในระบบเพื่อช่วยลดภาระ

บทบาทการพัฒนา: ธนาคารไม่ได้เพียงแต่ปล่อยสินเชื่อ แต่ยังมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการตั้งแต่เริ่มต้น ผ่านการบ่มเพาะและให้คำปรึกษา ซึ่งเป็นสิ่งที่ธนาคารทำมาอย่างต่อเนื่อง

การแก้ไขหนี้: ธนาคารมีนโยบายช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาด้านการเงิน โดยมีโครงการต่าง ๆ และมีนโยบายประนอมหนี้ในชั้นศาลเป็นหลัก เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง

สนับสนุนภาครัฐ: ธนาคารออมสินมีบทบาทสำคัญในการเป็นกลไกขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ทั้งในด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) เพื่อช่วยเหลือ SMEs โดยปัจจุบันธนาคารได้เตรียมวงเงิน Soft Loan ก้อนใหม่ถึง 100,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ธนาคารยังให้ความสำคัญกับเทรนด์การพัฒนาธุรกิจที่ยั่งยืนอย่าง ESG (Environmental, Social, and Governance) ซึ่งธนาคารได้นำคะแนน ESG มาใช้ในการพิจารณาสินเชื่อสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ และกำลังศึกษาแนวทางในการนำมาใช้กับธุรกิจ SMEs เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการปรับตัวสู่ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

ท้ายที่สุด นายภิรมย์ยังได้แนะนำผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อเพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และสินเชื่อ Soft Loan สำหรับผู้ประกอบการในภาคการท่องเที่ยวและภาคเกษตรแปรรูป ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นพิเศษ

ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ธนาคารออมสินไม่ได้มองเพียงแค่การเป็นสถาบันการเงินที่สร้างผลกำไร แต่ยังคงรักษาเจตนารมณ์ของการเป็น "Social Bank" ที่ยืนหยัดเคียงข้างสังคม และพร้อมเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ให้ก้าวผ่านความท้าทายและเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต