posttoday

ถอดแนวคิด ธ.ก.ส. หนุน 'เกษตรสมัยใหม่' เข้าระบบตั้งเป้าปีละ 1 แสนคน

28 มิถุนายน 2568

ถอดแนวคิด ฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธ.ก.ส. เปลี่ยน 'เกษตรดั้งเดิม' สู่ 'เกษตรสมัยใหม่' ตั้งเป้าหนุนเข้าระบบปีละ 1 แสนราย!

ณ วันนี้ที่ประเทศไทยกำลังมองหา ‘เครื่องยนต์ขุมกำลังใหม่’ ที่จะผลักดันเศรษฐกิจไทย!

ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จึงได้มีการผลักดันโครงสร้างเศรษฐกิจสู่ ‘เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม-เทคโนโลยี’  หนึ่งในนั้นคือนโยบาย Smart Farming และ Precision Agriculture ยกระดับภาคเกษตรจากเกษตรเชิงปริมาณ ไปสู่เกษตรเชิงคุณภาพและมูลค่าสูง  ที่หลายส่วนได้ร่วมกันขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่อง

รวมไปถึง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ที่นอกจากจะรับหน้าที่เป็นทั้งแหล่งเงินทุนสำคัญแล้ว ยังมีบทบาทของการพัฒนาเกษตรกรไทยร่วมด้วย ..

 

อย่างไรก็ตาม การจะขับเคลื่อน ‘การเกษตร’ ไปสู่ ‘เกษตรสมัยใหม่’ ไม่ใช่เรื่องง่าย

และยังมีบททดสอบสำคัญรออยู่

 

 

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้สัมภาษณ์ในโอกาสที่ ธ.ก.ส.นำ ‘เกษตรกรหัวขบวน’ จากชุมชนที่ได้รับรางวัลดีเด่นดูงาน ‘เกษตรก้าวหน้า’ ณ เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ สาธารณรัฐประชาชนจีน

อีกหนึ่งตัวอย่างการพัฒนาการเกษตรในพื้นที่ซึ่งมีความท้าทายด้านภูมิอากาศ แต่สามารถเพิ่มผลิตผลทางการเกษตร และเปลี่ยนพื้นที่แห้งแล้งให้กลายเป็นพื้นที่เพาะปลูกสำคัญแห่งหนึ่งของจีน  โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกร ไว้อย่างน่าสนใจ

โดยชี้ถึง ‘ความท้าทาย’ สำคัญ ที่ไทยกำลังเผชิญอยู่ และต้องร่วมกันแก้ไข เพื่อที่จะผลักดันให้ ‘เกษตรกรไทย’ ยังคงอยู่รอดได้ ท่ามกลางการแข่งขันจากภายนอกที่เริ่มเข้ามาประชิดตัว!

 

เกษตรกรหัวขบวนดูเทคโนโลยีการผลิต ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน

 

  • สร้าง ‘เกษตรกรก้าวหน้า’ จาก ‘เกษตรกรหัวขบวน’

 

วันหนึ่งเราเคยไปซื้อมดที่ทำจากกะลา 4 ตัวราคาทั้งหมด 1,400 บาท เกษตรกรคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า ราคาเท่านี้เท่ากับที่เขาทำนา 5 ไร่ 1 ฤดูกาลเลย  เป็นประโยคที่ฟังแล้วจุกเหมือนกัน เพราะทำให้เห็นว่าภาคเกษตรดั้งเดิมได้รายได้ที่ต่ำมาก

 นายฉัตรชัย กล่าวถึงรายได้จากเกษตรแบบดั้งเดิมซึ่งควรที่จะได้รับการแก้ไข โดยมองว่า จีนเป็นตัวอย่างอันดีที่ทำให้เห็นว่า การนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาเกษตรให้ประสบความสำเร็จนั้น จะสามารถลดต้นทุน ลดการใช้แรงงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตได้

 

พื้นที่ของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ซึ่งทาง ธ.ก.ส. ได้พาเกษตรกรหัวขบวนของไทยไปดูงาน ได้โชว์ให้เห็นศักยภาพการผลิตในโรงเรือนที่ทันสมัย โดยใช้พื้นที่ขนาดราว 1 หมื่นตารางเมตร หรือราว 6 ไร่ แต่ใช้คนงานเพียง 10 คนดูการผลิตทั้งหมด มีการควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมเพื่อสู้กับสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

รวมไปถึงยังแสดงศักยภาพของการวิจัยผลิตผลพันธุ์ใหม่ๆ เช่น มะเขือเทศโบตั๋นดำ ซึ่งเป็นมะเขือเทศสายพันธุ์วิจัยใหม่ เพิ่มสารแอนโธไซยานิน มีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ ฯลฯ ที่สามารถทำให้มะเขือเทศพันธุ์ดังกล่าวของซินเจียงนั้นสามารถเพิ่มมูลค่าให้แก่เกษตรกรในพื้นที่มากขึ้นกว่า  20 เท่า จากกิโลกรัมละ 9 บาทเป็นกิโลกรัมละ 180 บาททันที!

 

ทั้งนี้ ผู้จัดการธ.ก.ส. ยังชี้ให้เห็นว่า ‘เกษตรก้าวหน้า’ จะเกิดขึ้นได้จะต้องมี ‘เกษตรหัวขบวน’ หรือผู้นำเป็นสิ่งที่สำคัญ

 

มะเขือเทศโบตั๋นดำ

 

“ผมว่าการทำเกษตรต้องไม่ทำคนเดียว ต้องมีเครือข่าย การลงพื้นที่ของ ธ.ก.ส. ในอนาคตหรือตัวเกษตรกรหัวขบวนเอง เมื่อเทียบกับการลงทุนซื้อที่ร้อยไร่ในการผลิต แต่ถ้าเราสามารถรวบรวมเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งมีคนละ 20 ไร่ เพียง 5 คน ก็สามารถรวมกันเป็นแปลงใหญ่ได้แล้ว

แต่เกษตรกรบ้านเรายังไม่มีหัวขบวน ดังนั้น ธ.ก.ส.จึงมุ่งที่จะสร้างเกษตรกรหัวขบวนที่มีองค์ความรู้จากในเมือง เพื่อไปยกระดับคุณภาพการผลิตในภาคการเกษตร”

 

โดยเฉพาะทุกวันนี้ที่เกษตรกรต้องเผชิญกับสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ประเทศไทยจำเป็นต้องสร้างเกษตรกรที่รอบรู้ในการใช้วิทยาการสมัยใหม่ผนวกกับ 'แนวคิดคนเมือง' ที่รู้จักวิธีการป้องกัน ยกระดับคุณภาพ วิธีการทำตลาด และสามารถใช้สื่อโซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์

 

“ 3 ปีที่ผ่านมาหลังจากที่เราส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน และสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ต่างๆ เราเริ่มเห็นว่ากลุ่มเหล่านั้นแข็งแรงขึ้น และสามารถแปรรูปผลผลิตได้ ทางธ.ก.ส. จึงเข้าไปช่วยสร้างแบรนด์และทำตลาดให้ รวมถึงการออกแบบแพ็คเกจต่างๆ เพื่อยกระดับผลิตผลทางการเกษตร เป็นของฝากสำหรับกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง ..  แทนที่จะซื้อขนม เปลี่ยนเป็นการซื้อของฝาก ซึ่งทำให้ได้ปริมาณที่ไม่จำกัด”

 

ทั้งนี้  นายฉัตรชัยมองว่า การสร้างรายได้ของเกษตรไทย จำเป็นต้องมีหลากหลายรูปแบบมากขึ้น ทั้งรายได้ที่มาจากภาคการเกษตรโดยตรง ผลิตภัณฑ์ที่มีการแปรรูปแล้ว และเกษตรท่องเที่ยว ซึ่งสามารถดึงเงินจากกระเป๋าคนเมืองที่โหยหาการกลับไปอยู่กับธรรมชาติมากขึ้น

 

ผมคิดว่ามันถึงเวลาที่จะต้องสร้างคนกลุ่มนี้เข้ามา ส่วนของ ธ.ก.ส. ก็ริเริ่มที่จะสร้างคนเหล่านี้แล้ว ตั้งเป้าหนึ่งปีให้ได้ 1 แสนคน 4 ปีก็จะถึงสี่แสนคน  เป็นเกษตรกรรายใหม่เข้ามาในภาคการเกษตร และเป็นรายใหม่ที่ไม่ใช่การเกษตรกรดั้งเดิมอีกต่อไป แต่เป็นการเกษตรสมัยใหม่

 

ถอดแนวคิด ธ.ก.ส. หนุน 'เกษตรสมัยใหม่' เข้าระบบตั้งเป้าปีละ 1 แสนคน

 

  • แผนรับมือ ‘สังคมสูงวัย’ ความท้าทายภาคการเกษตรไทย

 

นอกจากจะอนุมัติสินเชื่อที่สนับสนุนให้เรื่องการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในภาคการเกษตร โดยให้ดอกเบี้ยต่ำแล้ว สิ่งหนึ่งที่ ธ.ก.ส.ทำและสะท้อนออกมาจากบทสัมภาษณ์ คือ ความสำคัญเรื่องแรงงานภาคการเกษตรของไทย

 

“ เราเตรียมที่จะเปลี่ยนจากโครงการเกษตรอาหารกลางวัน เป็น เกษตรการค้า โดยให้นักเรียนตั้งแต่ชั้น ม.4 สามารถที่จะใช้ความรู้และเงินทุนของ ธ.ก.ส. เริ่มที่จะทำปศุสัตว์ในโรงเรียน หรือว่าปลูกผักในโรงเรียน ”

 

กลยุทธ์สร้าง ‘แรงงานภาคเกษตร’ ของ ธ.ก.ส. มุ่งเน้นไปที่ประชาชน 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ กลุ่มนักเรียน เนื่องจากภาคเกษตรของไทยมีความท้าทายอย่างใหญ่หลวงในเรื่องของ ‘สังคมสูงวัย’ และปัญหาจากการที่ลูกหลานของเกษตรกรไม่ได้กลับมาอยู่ในภาคการเกษตร

 

“ ผมมองว่าเราเริ่มตั้งแต่ ม.4 จนกระทั่ง ม.6 สี่ปีนี้จะทำให้ความรู้ด้านการเกษตรของเขาแข็งแรงและมีประสบการณ์ .. แม้ว่าระบบการศึกษาของไทยจะมุ่งเน้นให้เรียนจบปริญญาตรี แต่จบแล้วเงินเดือนแค่ 15,000 - 20,000 บาท ปีหนึ่งก็เพียง 240,000 บาท

แต่ถ้าเขาสามารถทำการเกษตรที่บ้านเกิดได้ ปีหนึ่ง 3 ครั้ง ครั้งหนึ่งได้กำไรทีละ 80,000 บาทก็เป็นรายได้ที่เท่ากัน แต่การใช้จ่ายที่ต่างจังหวัดแน่นอนว่าถูกกว่า และมีเวลาอยู่กับครอบครัว  ทำไมเด็กไทยจะต้องจบออกมาทำอาชีพในเมืองเท่านั้น หรือว่ามาอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรม"

 

ทั้งนี้ สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เคยจัดทำสถิติแรงงานภาคการเกษตรเมื่อปี 2566 พบว่า ประเทศไทยมีประชากรวัยแรงงานหรือ แรงงานอายุ 15 ปีขึ้นไป 58.59 ล้านคน เป็นผู้ที่อยู่ในกําลังแรงงานและมีงานทํา 39.68 ล้านคน โดยเป็น แรงงานภาคเกษตร 11.63 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 29.31 ของจํานวนแรงงานทั้งหมด

อย่างไรก็ตามกลับสวนทางกับ GDP ของภาคการเกษตรที่คิดเป็นสัดส่วนแค่เพียง 8.81 ของGDP หรือราว 1,531.12 พันล้านบาท

อีกทั้ง ในช่วงปี 2564 – 2566 แรงงานภาคการเกษตรมีแนวโน้มลดลง จากในปี 2564 มีจํานวน 12.68 ล้านคน หรือร้อยละ 33.63 ของจํานวนแรงงานทั้งหมด เหลือ 11.63 ล้านคน หรือ ร้อยละ 29.31 ของจํานวนแรงงานทั้งหมด  และพบว่าอายุเฉลี่ยของแรงงานในภาคเกษตรอยู่ที่ 58.46 ปี!

 

(ซ้ายมือภาพ) นายฉัตรชัย ศิริไล

 

นอกจากกลุ่มนักเรียนที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ ‘แรงงานหน้าใหม่’ อีกกลุ่มที่ ธ.ก.ส. มองว่าสำคัญคือ กลุ่มที่มีอายุ 50 ปี เนื่องจากกำลังเตรียมตัวที่จะเกษียณอายุในโครงการ ‘เกษตรวิวัฒน์’

 

“ ธ.ก.ส.เพิ่งเริ่มต้นโครงการนี้ แต่ว่าตอนนี้มีคนเริ่มสนใจมากขึ้น เนื่องจากมีคำถามว่าภายใต้สังคมสูงวัย ถ้าทุกคนอายุ 60 แล้วจะอยู่ในเมืองได้หรือไม่ ทุกคนก็พูดตรงกันว่าการอยู่ในเมืองมีค่าใช้จ่ายที่สูง อยากกลับไปอยู่ต่างจังหวัด หากที่สักแปลงหนึ่งและทำการเกษตร

แต่ว่าการทำเกษตรตอนอายุ 60 แล้วคิดจะประสบความสำเร็จนั้นเป็นไปได้ยาก เพราะต้องสั่งสมประสบการณ์ก่อน การเริ่มต้นที่อายุ 50 ปีและทำเป็นอาชีพคู่ขนานจึงเป็นส่วนสำคัญ”

 

อย่างไรก็ตาม นายฉัตรชัยมองว่า โครงการนี้ไม่ได้ผลักดันให้ทุกคนจะต้องได้รายได้จากการทำเกษตรหลังเกษียณอายุ แต่เป็น ‘การลดค่าใช้จ่าย’ โดยเฉพาะในเรื่องของการบริโภคลง และลดการใช้เงินที่ออมไว้

 

“ในส่วนนี้เราทำเป็นสินเชื่อครับ สามารถเข้ามาคุยกับ ธ.ก.ส. ได้ว่าอยากทำการเกษตรแบบไหน และเราจะแนะนำให้ภายใต้ประสบการณ์กว่า 60 ปีของเรา”

 

สำหรับสินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ เป็นสินเชื่อสำหรับคนอายุ 50+ ที่ทำงานในเมือง และต้องการเตรียมตัวเข้าสู่อาชีพเกษตรกร เพื่อให้มีรายได้ ลดค่าใช้จ่ายยามเกษียน สามารถกู้เพื่อซื้อที่ดินทางการเกษตรสูงสุด 8 ล้านบาท ดอกเบี้ยต่ำ และยังกู้เพิ่มเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อทำเกษตรได้

 

เกษตรก้าวหน้า อนาคตของประเทศไทย

 

ทั้งนี้ การยกระดับภาคการเกษตรทั้งระบบ จาก ‘เกษตรดั้งเดิม’ สู่ ‘เกษตรสมัยใหม่’ เป็นความท้าทายแต่เป็น ‘สิ่งที่ต้องทำ’ และต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นประชาชน เกษตรกรที่ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันในระบบการผลิตของโลก  นโยบายของรัฐ และนโยบายจากฝั่งทุน ที่มองเห็นทิศทางการพัฒนาร่วมกัน

เพราะไม่ว่ายังไง ‘เกษตรกร’ ยังคงเป็น ‘พื้นฐานของประเทศ’

และยังคงเป็นอาชีพของคนไทยอีกกว่า 12 ล้านคน!

 

ผมว่าเกษตรสมัยใหม่เนี่ยจะเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งนะครับ ในการที่จะแปลงร่าง หรือว่ายกระดับตัวเศรษฐกิจพื้นฐานของประเทศ

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวทิ้งท้าย.

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์-FWD คว้า 3 รางวัล Adman Awards 2025 ตอกย้ำเข้าถึงลูกค้าทุก Gen ด้วย "ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย"