posttoday

ธุรกิจบิวตี้โตแรง BEAUTRIUM รีเทลความงามลุ้นแตะ 100 สาขาในปี 68

19 มิถุนายน 2568

ทำไม “บิวตี้” ถึงยังโต? ในวันที่เศรษฐกิจไม่สดใส BEAUTRIUM บิวตี้รีเทลสัญชาติไทย ปี 68 นี้ ลุ้นแตะ 100 สาขาทั่วประเทศ ชูจุดยืน “เครื่องสำอางไม่มีชนชั้น”

ในวันที่หลายอุตสาหกรรมยังสะดุดกับปัญหาเศรษฐกิจและการบริโภคหดตัว มีหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่ไม่เพียงรอด แต่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง คือ ธุรกิจความงาม

 

จากข้อมูลของ Euromonitor International คาดการณ์ว่าตลาดเครื่องสำอางในประเทศไทยปี 2567 จะมีมูลค่าถึง 2.81 แสนล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 10.4% จากปีก่อนหน้า และติดหนึ่งใน 5 อุตสาหกรรมที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนจีดีพีของประเทศ

 

คำถามคือ อะไรทำให้คนยังซื้อ “บิวตี้” แม้เศรษฐกิจจะไม่สดใส? และเหตุใดแบรนด์อย่าง BEAUTRIUM บิวตี้รีเทลสัญชาติไทย ถึงสามารถคว้ารางวัลระดับภูมิภาคอย่าง Cosmetics Retailer of the Year จากเวที Retail Asia Awards 2025 ได้สำเร็จ

 

สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปชัดเจนในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา คือมุมมองของคนต่อ “ความงาม” ที่ไม่ใช่เรื่องฟุ่มเฟือย หรือของคนบางกลุ่มอีกต่อไป
BEAUTRIUM เป็นหนึ่งในตัวอย่างธุรกิจที่เข้าใจการเปลี่ยนแปลงนี้ และเลือกจะไม่ขาย “ภาพฝัน” ของความงามในอุดมคติ แต่ยืนหยัดในฐานะ “Beauty Companion” เพื่อนของทุกความงาม ไม่ว่าลูกค้าจะมีรายได้ระดับใด หรือสไตล์แบบไหน
 

  • แกะกลยุทธ์ BEAUTRIUM เครื่องสำอางไม่มีชนชั้น

 

นายจิรวุฒิ โรจน์รัตนวลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวเทรี่ยม จำกัด กล่าวว่า รีเทลไม่ใช่แค่การขายของ แต่คือการสร้างพื้นที่ที่ทุกคนรู้สึกเป็นตัวเอง

 

แนวคิด “Cosmetic Equality” หรือเครื่องสำอางไม่มีชนชั้น ที่ BEAUTRIUM ยึดถือมานาน ช่วยให้สินค้าทุกชิ้นในร้าน ไม่ว่าจะเป็นเมคอัพ 100 บาท หรือเซรั่มราคาเป็นพัน ยืนอยู่เคียงข้างกันในชั้นวางเดียวกัน โดยสัดส่วนสินค้าทั้งหมดภายในร้าน BEAUTRIUM แบ่งออกได้เป็น สกินแคร์ 37%, เมคอัพ 35% และน้ำหอมและอื่น ๆ 8% โดยกลุ่ม “เมคอัพ” ยังคงเป็นหมวดสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

 

บิวตี้ไม่หยุด: เมื่อผู้บริโภคคือผู้นำเทรนด์

 

ในอดีต เทรนด์บิวตี้อาจถูกกำหนดโดยสื่อหรือแบรนด์ใหญ่ แต่ในยุคที่ TikTok ปั้นไอเทมไวรัลได้ในข้ามคืน ผู้บริโภคกลายเป็นผู้นำเทรนด์ตัวจริง BEAUTRIUM อ่านเกมนี้ออก และกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นไม่กี่รายที่ “รันวงการ” แทนที่จะตามกระแส

 

  • ปี 2567 เพียงปีเดียว BEAUTRIUM ดึงแบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟเข้าร้านกว่า 41 แบรนด์
  • วางขายแบรนด์ใหม่ในไทยก่อนช่องทางอื่น และขยายไลน์ไปถึงกลุ่มสินค้าผู้ชาย, คลีนบิวตี้ และบิวตี้เอเชีย
  • มี SKU มากกว่า 100,000 รายการ ในทุกระดับราคา

 

  • เบื้องหลังร้านสวย: กลยุทธ์ที่ไม่ใช่แค่หน้าร้าน

 

เบื้องหลังความสำเร็จของ BEAUTRIUM ไม่ได้อยู่แค่การจัดร้านสวยหรือโปรโมชันแรง แต่มาจากการ เข้าใจข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคเชิงลึก และนำมาปรับใช้ในระดับพื้นที่

  • ใช้ Data-Driven Store Clustering แยกโมเดลร้านให้ตรงกับพื้นที่ เช่น สาขาเมืองเน้นไวรัลเทรนด์ สาขาต่างจังหวัดเน้นของใช้ง่าย ราคาดี ใช้งานได้จริง ราคาจับต้องได้ และมียอดหมุนเวียนเร็ว กลยุทธ์นี้สร้างความรู้สึก "เฉพาะตัว" ให้กับลูกค้ามากกว่าแนวทางแบบ One-Size-Fits-All
  • เครือข่ายร้านกว่า 72 สาขาทั่วประเทศ และตั้งเป้าแตะ 100 สาขาภายในปี 2568
  • ลงทุนใน Quick Commerce, Marketplace และแอปของตัวเอง ทำให้สินค้าถึงมือลูกค้าในเวลาเพียง 25 นาที


ในขณะเดียวกัน BEAUTRIUM ยังผลักดันระบบ Open Collaboration กับพาร์ตเนอร์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์, อินฟลูเอนเซอร์, ศูนย์การค้า หรือสื่อดิจิทัล ปี 2567 เพียงปีเดียว พวกเขาร่วมจัดกิจกรรมไปกว่า 800 ครั้ง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์

 

ธุรกิจบิวตี้โตแรง BEAUTRIUM รีเทลความงามลุ้นแตะ 100 สาขาในปี 68

  • การเติบโตของแบรนด์ไทยในร้านไทย

 

แม้ตลาดเครื่องสำอางนำเข้าจะยังคงมีอิทธิพล แต่จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ พบว่า 85% ของสินค้าบิวตี้ในไทยยังคงผลิตในประเทศ และ BEAUTRIUM เลือกสนับสนุนแบรนด์เหล่านี้อย่างจริงจัง

 

ปัจจุบัน BEAUTRIUM วางจำหน่ายแบรนด์ไทยกว่า 500 แบรนด์ และคิดเป็นกว่าครึ่งของยอดขายทั้งหมด

 

นายอติโรจน์ โรจน์รัตนวลี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท บิวเทรี่ยม จำกัด  กล่าวว่า เราวัดผลสำเร็จจากความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก ไม่ใช่แค่การขยายสาขา แต่คือการสร้างคุณค่าที่แท้จริงให้ทุกภาคส่วน ทั้งผู้บริโภค พันธมิตร และอุตสาหกรรมความงาม และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนชัดเจนผ่านตัวเลขที่เป็นรูปธรรม ฐานสมาชิกของบิวเทรี่ยมเติบโตเป็นกว่า 1 ล้านคนในปี 2567 มีอัตราการกลับมาใช้บริการถึง 40% ภายใน 5 เดือนแรกของปี 2568 และที่สำคัญคือมูลค่าการซื้อต่อครั้งเพิ่มขึ้น 5% อย่างต่อเนื่อง


การคว้ารางวัลระดับภูมิภาคในครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องของแบรนด์เดียว แต่สะท้อนถึง การเติบโตอย่างมีทิศทางของทั้งอุตสาหกรรม ในโลกที่บิวตี้ไม่ใช่เรื่องของ “ความหรูหรา” แต่คือ “ความกล้าเป็นตัวเอง”  

ข่าวล่าสุด

KBANK ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% เงินฝาก 0.05-0.10%