LA GLACE แบรนด์วัยรุ่น ขวัญใจ Gen Z ปักธงใหญ่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
LA GLACE แบรนด์วัยรุ่นขวัญใจ Gen Z เตรียมขยายสู่ตลาดต่างประเทศในปี 2571 ตั้งเป้าหมายยอดขายสู่ 2 พันล้าน ปักธงใหญ่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ด้วยฝันของวัยรุ่นอายุ 19 เมื่อ 8 ปีก่อนสู่แบรนด์ความงามยอดขายหลายร้อยล้าน “ไอติม-เอมลินทร์ ธีรธนากิตติพงษ์” ซีอีโอหญิงแกร่งผู้ก่อตั้งและเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอาง LA GLACE (ลา-กลาส) ร่วมกับ "ทิวาทัพพ์ ธรารักษ์อนันต์" (เฟรนฟราย) ไม่เพียงสร้างแบรนด์ขึ้นจากศูนย์ แต่ยังผ่านบทเรียนราคาแพง ทั้งการถูกโกง และปัญหาการผลิต จนเป็นหนี้สะสมกว่า 20 ล้านบาท
เอมลินทร์ กล่าวว่า ในช่วง 3 ปีแรกของการทำแบรนด์ กระแสตอบรับดีมาก จนทำให้มั่นใจในตัวเองมากเกินไป หรือที่เรียกว่า "อีโก้" ทำให้พลาดพลั้งไปหลายครั้ง โดยเฉพาะการโดนโกงจากทางฝั่งจีนในการซื้อสินค้า และปัญหาการผลิตจากโรงงานใหม่ขาดประสบการณ์ ซึ่งทำให้แบรนด์ต้องเจอปัญหาหนี้สินหนักถึง 20 ล้านบาท
- ล้มแล้วลุก เรียนรู้และรุกต่อ
หลังเจอมรสุมหนัก เอมลินทร์เลือก “ปรับจากภายใน” โดยเริ่มใส่ใจเรื่องบริการหลังการขาย สร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า และใช้พลังของคอมมูนิตี้ออนไลน์ บอกต่อใน TikTok และ IG ด้วยตัวเอง ทั้งเป็นพรีเซนเตอร์ รีวิวสินค้า ไลฟ์ขายของ และผลิตคอนเทนต์เองแบบไม่พึ่งดารา
ช่องทางการขายของ LA GLACE เติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้ง Shopee, Lazada, TikTok Shop และ Line Shop ขณะเดียวกันก็สร้างฐานลูกค้า Gen Z อย่างเหนียวแน่น ปัจจุบันมียอดผู้ติดตามรวมทุกช่องทางกว่า 150,000 คน และมีเครือข่าย Affiliate มากกว่า 140,000 ราย
- บลัชดำ-โทนเนอร์แพด ฮีโร่โปรดักต์
โดยจากข้อมูลย้อนหลัง
- ปี 2561 บริษัทมี รายได้ 6.64 แสนบาท มีกำไรสุทธิ 1.45 แสนบาท
- ปี 2562 มีรายได้ 6.39 ล้านบาท กำไร 5.12 แสนบาท
- ปี 2563 รายได้ 16.90 ล้านบาท มีกำไร 3.19 ล้านบาท
- ปี 2564 รายได้ 13.21ล้านบาท กำไร 1.1 ล้านบาท
- ปี 2565 รายได้ 39.9ล้าน กำไร 1.65 ล้านบาท
- ปี 2566 รายได้ 401.2 ล้านบาท กำไร 108.1ล้านบาท เติบโตอย่างก้าวกระโดดร่วม 1,000%
- ปี 2567 มีรายได้ 420 ล้านบาท กำไรสุทธิ 37.7 ล้านบาท
ปี 2566 ถือเป็นปีทองของ LA GLACE เมื่อเปิดตัว “บลัชดำ” หรือ Black Magic Lip & Cheek PH Blush ที่สามารถขายได้กว่า 1.5 ล้านชิ้น สร้างรายได้รวมทะลุ 401 ล้านบาท และมีกำไรมากถึง 108 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้ากว่า 1,000%
ขณะที่เป้าหมายปีนี้ มี Product hero ตัวใหม่คือ LA GLACE DAILY TONER PADS แผ่นบำรุงผิวหน้าก่อนแต่งหน้า ที่ได้สร้างกระแสฟีเวอร์ ทันทีที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ และเปิดขายวันแรก จากการ Live เพียง 4 ชั่วโมง สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 31 ล้านบาท
โดยคาดว่าตลอดทั้งปีนี้จะสามารถทำยอดขาย LA GLACE DAILY TONER PADS ได้ถึง 600-700 ล้านบาท เมื่อรวมกับยอดขาย "บลัชดำ" และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ทำยอดขายโดยรวมมากกว่าปีละ 300-400 ล้านบาท โดยสาเหตุที่ LA GLACE DAILY TONER PADS ได้การตอบรับอย่างดี เพราะด้วยนวัตกรรมล่าสุด คือแผ่นผ้าสำลีที่อุ้มน้ำบำรุงผิวหน้าได้ถึง 20 เท่าของน้ำหนัก ที่เราถือลิขสิทธิ์จากเกาหลีใต้ แต่เพียงผู้เดียวในไทย
- เป้าหมายใหญ่: รายได้แตะพันล้านบาท – บุกตลาดโลก
ปี 2568 LA GLACE ตั้งเป้ารายได้รวมทะลุ 1,000 ล้านบาท พร้อมเตรียมขยายสู่ตลาดต่างประเทศในช่วงปี 2569–2571 โดยเริ่มจาก ฮ่องกง ซึ่งเป็น Gateway สู่ตลาดจีน ก่อนขยายไปยัง เอเชีย ตะวันออกกลาง ยุโรป และสหรัฐฯ
โดยตั้งเป้าว่าภายในปี 2571 ยอดขายทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัท จะมียอดขายรวม 2,000 ล้านบาท จากทั้งในและต่างประเทศ โดยต้องการสร้างการเติบโตทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ อย่างมั่นคงและยั่งยืน
พร้อมกันนี้ยังเตรียมความพร้อมในการจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยวางระบบบัญชีและการเงินให้เป็นมาตรฐาน เพื่อดึงนักลงทุนและบุคลากรคุณภาพเข้ามาเสริมทัพ
- จุดแข็งไม่ใช่แค่โปรดักต์ แต่คือระบบและคอนเทนต์
เบื้องหลังความสำเร็จของ LA GLACE ไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์นวัตกรรม แต่คือ “ระบบ” ที่แข็งแกร่ง ทั้งทีมงานวัยเฉลี่ยเพียง 25 ปี ที่คล่องตัวกับโลกออนไลน์ มีทีม Live และทีมคอนเทนต์ที่ทำงานอย่างมีระบบ รวมถึงการใช้ Data วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าแบบเจาะลึก
นอกจากนี้ยังสร้าง LA GLACE Club คอมมูนิตี้สาวๆ ที่มีไลฟ์สไตล์เดียวกัน มาแลกเปลี่ยนแรงบันดาลใจด้านความงาม ล่าสุดมีผู้สมัครร่วมทีมจากคอมมูนิตี้นี้หลักพันคน
ตลาดบิวตี้ยังโตได้อีก
ข้อมูลระบุว่า ปี 2568 ตลาดบิวตี้ไทยมีมูลค่ากว่า 340,000 ล้านบาท และยังเติบโตต่อเนื่อง จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่สนใจผลิตภัณฑ์เฉพาะบุคคลมากขึ้น และกระแสการใช้โซเชียลมีเดียในการตัดสินใจซื้อสินค้าก็มีบทบาทมากขึ้น
นอกจากการเติบโตของแบรนด์รายใหญ่ ยังมีโอกาสมหาศาลสำหรับผู้ประกอบการไทยที่เข้าใจอินไซต์ลูกค้า และนำเสนอสินค้าที่แตกต่างอย่าง LA GLACE ที่ใช้กลยุทธ์แบบ “คนธรรมดาทำของดี” เป็นหัวใจในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย


