“เกียรติสิน” ค้าปลีกบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ปรับโฉมใหญ่ครบรอบ 65 ปี
”เกียรติสิน“ ค้าปลีกท้องถิ่นคู่อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ปรับใหญ่ในรอบ 65 ปี ฝ่าคลื่นทุนใหญ่-อีคอมเมิร์ซ ยืนหยัดในฐานะ "เชลฟ์ของชุมชน"
ในวันที่ธุรกิจค้าปลีกขนาดเล็กต้องเผชิญความเปลี่ยนแปลงรอบด้าน ทั้งการแข่งขันจากทุนใหญ่ การเติบโตของอีคอมเมิร์ซ และต้นทุนดำเนินงานที่พุ่งสูงขึ้น ร้านค้าท้องถิ่นอย่าง “เกียรติสินโฮลเซล” ที่อยู่คู่กับอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่นมากว่า 65 ปี เลือกจะไม่ยอมแพ้
จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ในปี 2503 ในฐานะร้านขายของชำในตลาดสดเทศบาล "เกียรติสิน" ได้รับการสานต่อโดยทายาทรุ่นสาม คุณนริศร จรรยานิทัศน์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เฮียต้อม” ผู้ที่นำร้านค้าของครอบครัวมาปรับโฉมครั้งสำคัญในโอกาสครบรอบ 65 ปี เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา
นริศร กล่าวว่า เกียรติสินเริ่มต้นในปี 2503 โดยคุณพ่อและคุณแม่ของตนเอง ได้ช่วยงานกับคุณตามาก่อนในชื่อร้าน "โค้ว เตี่ย เคี้ยว" หลังจากแต่งงานแล้วก็เลยขออนุญาตคุณตาตั้งร้าน "แต้เกี่ยงซิง" ซึ่งแปลว่า เริ่มต้นใหม่ หรือก้าวใหม่ โดยได้ชื่อไทยคือ ‘เกียรติสิน’ ซึ่งแปลว่าผู้อุดมด้วยเกียรติและทรัพย์สิน ตั้งแต่นั้นมาคุณพ่อก็ได้มาค้าขายในตลาดสดเทศบาล หลังจากนั้นจนถึง 2509 ก็ย้ายมาอีกหลังนึง จากนั้นขายปลีก 2537 ต่อมาจดทะเบียนเป็น หจก.บ้านไผ่เกียรติสิน
พอ 2540 ย้ายจากตลาดสดมาอยู่ บขส.อีก 7 ปีต่อมา ก็มาอยู่บ้านไผ่ เกียรติสินโฮลเซล ถือว่าเป็นยุคที่เกียรติสินได้เรียนรู้ระบบการทำธุรกิจ ยุคใหม่อย่างแท้จริง จากนั้นผ่านมา 10 ปีเราก็ได้มาก่อตั้งคลังสินค้า เพื่อซัพพอร์ตซัพพลายเชน
จนถึงปี 2566 วางแผนแล้วว่าต้องปรับปรุงร้านค้าใหม่ ปี 2567 ก็ได้ก่อสร้าง ปรับปรุง ด้วยความพึงพอใจของผู้บริหารทุกคนที่มองว่าถึงเวลาที่เราต้องปรับตัว เพื่อจะดูแลคนรุ่นใหม่ ตามพฤติกรรมคนยุคใหม่
"การค้าคู่คุณธรรม" ปรัชญาที่ฝังรากลึกจากรุ่นสู่รุ่น
หนึ่งในหัวใจของการดำเนินธุรกิจเกียรติสินคือปรัชญาที่ได้จากคุณยาย “เราทำดีต่อเขา เราก็จะได้รับสิ่งดีตอบแทน” นริศรและครอบครัวจึงเชื่อมั่นว่า การค้าขายไม่ใช่แค่เรื่องของกำไร แต่คือการอยู่ร่วมกับชุมชนด้วยความจริงใจ เคารพ และซื่อสัตย์ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า คู่ค้า หรือพนักงาน ต่างได้รับการปฏิบัติด้วยความเป็นธรรมเสมอมา
ปรับใหญ่ รับปีที่ 66 – ทั้งกายภาพและหัวใจบริการ
นริศร กล่าวว่า เกียรติสินล้มลุกคลุกคลานมาหลายครั้ง ต่อไปนี้คือก้าวที่ 66 เป็นก้าวสำคัญ แม้ 65 ปีที่ผ่านมา จะมากด้วยประสบการณ์ ความรู้ แต่ก้าวต่อไปนี้ต้องยอมรับว่าเป็นก้าวที่ท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงในสังคม ทั้งพฤติกรรมผู้บริโภค การเข้าถึงการให้การบริการ ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์
โลกทุกวันนี้มันขยับรวดเร็ว ใกล้ชิดกันมาก ฉะนั้นก้าวที่ 66 เราก็จะปรับปรุงตัวเพื่อให้สอดคล้องพฤติกรรมลูกค้า และให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าในตัวสินค้าและราคา
การปรับปรุงครั้งล่าสุดของเกียรติสินถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบทศวรรษ โดยมีทั้งการรีโนเวตพื้นที่ร้านทั้งหมดให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่
- พื้นที่ภายในร้านปรับระดับพื้นให้เสมอกันทั้งหมด
- ติดตั้งระบบปรับอากาศทั่วพื้นที่
- เพิ่มบริการสะสมคะแนน และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ
- ขยายโซนอาหารสด ด้วยการร่วมมือกับร้านท้องถิ่น “มั่งมีมาร์ท”
โมเดลใหม่ของเกียรติสินจึงไม่ใช่แค่การ “ขายของ” อย่างเดียวแต่เป็นการออกแบบประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกด้าน ตั้งแต่ของใช้ประจำวัน ไปจนถึงสินค้าเฉพาะกลุ่ม เช่น เครื่องสำอาง เครื่องเขียน และสินค้าองค์กร
“เชลฟ์ของชุมชน” ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
ทั้งนี้ นริศร นิยามร้านของตัวเองว่าเป็น “เชลฟ์ของชุมชน” ไม่ใช่เพียงชั้นวางสินค้าของเจ้าของร้าน แต่มาจากข้อมูลและความต้องการของผู้บริโภคในพื้นที่ เกียรติสินจึงใช้ Data เป็นหัวใจสำคัญของการบริหาร ตั้งแต่การวางสินค้า การตั้งราคา การโปรโมชัน จนถึงการวิเคราะห์พฤติกรรมเพื่อออกแบบบริการที่ตอบโจทย์ได้จริงตามหลัก 4P – Product, Price, Place, Promotion
ค้าปลีก-โชห่วยไทย มีกว่า 2 หมื่นรายทั่วไทย รัฐเตรียมผลักดันสู่ "สมาร์ทโชห่วย"
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า ปัจจุบันมีนิติบุคคลค้าปลีก-ค้าส่งกว่า 22,900 รายทั่วประเทศ โดยในปี 2568 รัฐมีแผนผลักดันให้ร้านค้ารายย่อยพัฒนาสู่ “สมาร์ทโชห่วย” ผ่านการใช้เทคโนโลยี ระบบ POS การบริหารจัดการ และการเชื่อมโยงเครือข่าย พร้อมตั้งเป้ายกระดับสู่ “ห้างท้องถิ่นต้นแบบ” ไม่ต่ำกว่า 30 ราย
อย่างไรก็ตามเกียรติสินโฮลเซลจึงกลายเป็นภาพแทนของความหวังเล็ก ๆ ว่าร้านโชห่วยที่ปรับตัวได้ ยังมีพื้นที่ยืนในยุคที่ทุนใหญ่ครองตลาด และเทคโนโลยีกลายเป็นหัวใจ
ที่มาข้อมูลและภาพ : เกียรติสินโฮลเซล kiatsinwholesale


