Tian Tian ชื่อคล้ายจีนแต่เป็นแบรนด์ไทย เปิดไม่ถึงปีมีสาขาเพียบ
Tian Tian แบรนด์ไอศกรีม-ชานม คู่แข่ง Mixue และแบรนด์สัญชาติอื่น แม้ชื่อคล้ายจีนแต่เป็นแบรนด์ไทย 100% เพราะเจ้าของคือ “เสถียร เสถียรธรรมะ” เปิดไม่ถึงปีมีสาขากว่า 81 แห่ง
ท่ามกลางกระแสร้านไอศกรีม และชานมแบรนด์จีนราคาประหยัดที่รุกตลาดไทยอย่างต่อเนื่อง นำโดย "มี่เสวี่ย" (Mixue) ที่เข้ามาเปิดตลาดตั้งแต่ปี 2565 ตามมาด้วยแบรนด์ที่มีแนวทางคล้ายคลึงกันอย่าง "ไอชา" (Ai-CHA) แฟรนไชส์ร้านไอศกรีมและชาจากอินโดนีเซีย เข้ามาเปิดตลาดในไทยช่วงกลางปี 2566 และ "วีดริ๊งค์" (WEDRINK) แฟรนไชส์ไอศกรีมและชาจากจีน ภายใต้บริษัท ซินเจิ้ง เมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) เข้ามาเมื่อปี 2567 หรือแม้แต่ “ปิงฉุน” (Bing Chun) ที่เข้ามาปักหมุดในไทยได้ไม่นาน
ขณะที่แบรนด์ต่างชาติทยอยเปิดในไทย แบรนด์ “เถียนเถียน” (Tian Tian) เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าจับตา ซึ่งแม้ชื่อจะฟังดูเป็นภาษาจีน นำมาซึ่งความสับสนว่าแบรนด์นี้เป็นแบรนด์จีนหรือไม่
แต่แท้จริงแล้ว เถียนเถียน เป็นแบรนด์ไทย 100% ที่อยู่ในเครือ CJ ของ “คุณเสถียร เสถียรธรรมะ” ซึ่งเรียกว่าเป็นแบรนด์ไทยที่น่าจะขยายสาขาได้เร็ว
ชื่อ “เถียนเถียน” แปลว่า “หวาน” ในภาษาจีน ซึ่งเป็นชื่อที่สอดคล้องกับชื่อ “คุณเสถียร” ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกผ่านเฟซบุ๊กเพจเมื่อ 25 กรกฎาคม 2567 ขายไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟและชานมไข่มุก ในราคาประหยัด เริ่มต้นเพียง 15 บาท พร้อมโลโก้แมวสามสีเป็นมาสคอต
โดยมีเมนูหลัก ได้แก่ ไอศกรีมโคน 3 รส (วานิลลา, ช็อกโกแลต, ทูโทน) เริ่มต้น 15 บาท น้ำมะนาว เริ่มต้น 20 บาท ชานมไต้หวัน เริ่มต้น 40 บาท (เพิ่มท็อปปิงได้) ซึ่งจะเห็นว่า เมนูและราคา คล้ายกับโมเดลของแบรนด์คู่แข่งแถมยังสร้างภาพจำผ่านมาสคอสคล้าย ๆ กัน อย่างเช่น MIXUE ใช้ตุ๊กตาหิมะ ส่วน Ai-CHA ใช้เพนกวิน ส่วน WEDRINK ใช้น้องชาช่า
กลยุทธ์ “ป่าล้อมเมือง” สไตล์ CJ
จุดที่ทำให้เถียนเถียน แตกต่างจากแบรนด์คู่แข่งอย่างชัดเจน คือทำเลที่ตั้ง โดยเน้นขยายสาขานอกเมืองเป็นหลัก ผ่านเครือร้านสะดวกซื้อของซีเจ ไม่ว่าจะเป็นซีเจ เอ็กซ์เพรส , ซีเจมอร์ หรือซีเจ ซุเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งมักตั้งอยู่ใกล้ชุมชนหรือตลาดนัด
จะเห็นว่า การขยายสาขาของเถียนเถียนเป็นกลยุทธ์แบบป่าล้อมเมือง คือสร้างฐานลูกค้าในต่างจังหวัดก่อน แล้วค่อยขยายเข้าสู่เมืองหลวง ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับที่ CJ เคยใช้ผลักดันธุรกิจร้านสะดวกซื้อจนเติบโตมาแล้ว
ปัจจุบันเถียนเถียน มีมากกว่า 81 สาขา เช่น นนทบุรี, ชลบุรี, ราชบุรี, เพชรบุรี และกาญจนบุรี ขณะที่ในกรุงเทพฯ มีเพียง 2-3 สาขาเท่านั้น
ข้อได้เปรียบอีกอย่างคือสามารถขยายสาขาได้รวดเร็ว โดยอาศัยโครงสร้างพื้นฐานของร้านซีจี ที่มีอยู่แล้ว ทั้งหน้าร้าน พนักงาน ระบบหลังบ้าน และระบบขนส่ง ช่วยลดต้นทุนและระยะเวลาในการเปิดสาขาใหม่
ในขณะที่คู่แข่งส่วนใหญ่พึ่งพาระบบแฟรนไชส์ซึ่งนิยมตั้งร้านในเมืองหรือย่านคนพลุกพล่าน กลยุทธ์ของเถียนเถียน กลับช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ชุมชนได้ลึกและกว้างกว่า
จับตาอนาคตกับการขยายสาขา
โดยคุณวีรธรรม เสถียรธรรมะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเจ มอร์ จำกัด เคยกล่าวในงานสัมมนาการตลาด ที่จัดโดยสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย(MAT) เมื่อไม่นานผ่านมา ว่า ปัจจุบันบริษัทมีร้านค้าปลีกกว่า 1,500 สาขา แบ่งเป็น กรุงเทพฯ และปริมณฑลกว่า 500 สาขา และต่างจังหวัดกว่า 1,000 สาขา
ส่วนแผนธุรกิจปี 2568 CJ Mall จะใช้งบลงทุนรวม 4,000 ล้านบาท สำหรับการเปิดสาขาใหม่ของซีเจประมาณ 300 สาขา ใช้งบลงทุนประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนใกล้เคียงกับปีก่อน รวมถึงใช้สร้างคลังสินค้าใหม่ประมาณ 1,000 ล้านบาท ในจังหวัดบุรีรัมย์ พื้นที่ 80,000 ตารางเมตรที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างการตกแต่ง นับเป็นคลังสินค้าแห่งที่ 5 ของบริษัท สำหรับทำเลที่สนใจรุกขยายสาขามากขึ้นในปีนี้ มองพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจะใช้โมเดลร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่น
ซึ่งก็ต้องจับตาดูว่าหากอนาคตแบรนด์เถียนเถียน ตัดสินใจขยายจนครบทุกแห่งที่มีทั่วประเทศก็เท่ากับว่าอาจได้เห็นไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟน้องใหม่มาแรงรวมทั้งสิ้น 1,500 จุดทั่วไทย
ตลาดร้านเครื่องดื่ม-เบเกอรี่-ไอศกรีมมูลค่า 8.5 หมื่นล้าน
อย่างไรก็ตาม เมื่อวิเคราะห์ภาพรวมตลาดร้านเครื่องดื่ม ที่รวมร้านเบเกอรี่ และไอศกรีม จากการรายงานของ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ประเมิน ตลาดรวมในปี 2568 มีมูลค่าประมาณ 85,320 ล้านบาท คาดว่าจะมีการเติบโตประมาณ 3.2% เมื่อเทียบกับปี 2567 มาจากทั้งการขยายสาขา ทั้งผู้ประกอบรายใหญ่และรายเล็ก รวมถึงการขยายแฟรนไชส์ของเครื่องดื่มจากต่างชาติในไทยเพิ่มขึ้น จึงทำให้ผู้บริโภคสนใจเครื่องดื่มและไอศกรีมแบรนด์ต่างๆ
ในช่วง 1–2 ปีที่ผ่านมา บรรดายักษ์ใหญ่ค้าปลีกของไทยต่างกระโดดเข้าร่วมศึกตลาดไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟอย่างคึกคัก หลังจากเครือซีเจเปิดตัวแบรนด์เถียนเถียน กลุ่มซีพีโดยบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ซึ่งบริหารแม็คโครและโลตัสกว่า 2,600 สาขาทั่วประเทศ ก็เดินเกมรุกโดยร่วมกับ ซีพี เมจิ เปิดช็อปไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟขนาดเล็กตั้งแต่ปลายปี 2567 ปัจจุบันมีแล้วกว่า 50 สาขา ชูจุดขายราคาถูกเพียง 8 บาท ใช้นมจากซีพี เมจิเป็นส่วนผสมหลัก
ด้านกลุ่มเซ็นทรัล โดยร้านท็อปส์ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ก็เปิดตัวซอฟต์เสิร์ฟอย่างเป็นทางการ ราคา 12 บาท มีให้เลือกทั้งรสออริจินอล วานิลลา และมัทฉะจากอูจิ ประเทศญี่ปุ่น เริ่มให้บริการแล้วในสาขาท็อปส์ เดลี่ 84 แห่งทั่วประเทศ ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และหัวเมืองสำคัญ เช่น ภูเก็ต ชลบุรี สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่


