posttoday

"สวรรค์บนดิน" จากช่างภาพสู่นักปรุงชา ปักหมุดขยายตลาดสู่สากล

13 มีนาคม 2568

"สวรรค์บนดิน" ร้านชาเล็กๆ ในเชียงรายที่ไม่ได้มีแค่ชื่อสวยหรู แต่ซ่อนปรัชญาในการสร้าง "รสชา" ให้แตกต่าง การันตีด้วยรางวัลระดับสากลมากมาย และกำลังก้าวสู่ตลาดโลก

"เป้าหมายในวันหนึ่ง เราอยากให้คนทั่วโลกได้รับรู้ถึงความละเอียดอ่อน หรือความดีงามของวัตถุดิบในเมืองไทย อยากให้วัฒนธรรมของไทยในรูปแบบอาหาร ในรูปแบบชาสมุนไพรไปได้ทั่วโลก" คุณโต-ชูเกียรติ ผู้ก่อตั้งร้านสวรรค์บนดิน

 

"สวรรค์บนดิน" ร้านชาเล็กๆ ในจังหวัดเชียงรายที่ไม่ได้มีแค่ชื่อสวยหรู แต่ซ่อนปรัชญาและความตั้งใจในการสร้างสรรค์รสชาที่ไม่เหมือนใคร

 

ควบคู่กับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน สู่การเป็นแบรนด์ชาที่ได้รับรางวัลระดับสากล และกำลังก้าวสู่ตลาดโลก

 

\"สวรรค์บนดิน\" จากช่างภาพสู่นักปรุงชา ปักหมุดขยายตลาดสู่สากล
 

จากช่างภาพเมืองกรุง มุ่งหน้าสู่ "สวรรค์บนดิน" 

 

จุดเริ่มต้นของ "สวรรค์บนดิน" มาจากโฮมสเตย์เล็กๆ ในจังหวัดเชียงราย เดิมที คุณโต-ชูเกียรติ ผู้ก่อตั้งร้าน เคยเป็นช่างภาพที่ใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพมหานคร แต่อยากดูแลสุขภาพของคุณพ่อด้วยวิถีธรรมชาติ

 

ทำให้เขาตัดสินใจทิ้งชีวิตในเมืองหลวง กลับคืนสู่บ้านเกิด และเริ่มต้นชีวิตใหม่ในบ้านสวน

 

สวรรค์บนดิน ในระยะแรกเริ่มจากการปลูกพืชผักหมุนเวียนเพียงไม่กี่ชนิดในสวนหลังบ้าน ก่อนที่คุณโตจะมองเห็นโอกาสในการเพิ่มมูลค่าผลผลิต โดยการแปรรูปชาสมุนไพรต่างๆ 

 

ด้วยใจรักในการเรียนรู้ เขาศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ด้วยตนเอง ทดลอง และพัฒนาสูตรชาสมุนไพรต่างๆ อย่างไม่ย่อท้อ

 

จากร้านชาเล็กๆ ในโฮมสเตย์ สวรรค์บนดิน ค่อยๆ เติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบัน กลายเป็นแบรนด์ชาสมุนไพรที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ และได้จดทะเบียนพาณิชย์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2558

 

และจดทะเบียนนิติบุคคลในวันที่ 7 กันยายน 2561 นับเป็นก้าวสำคัญในการเติบโตอย่างมั่นคงของ "สวรรค์บนดิน"

 

คุณโต-ชูเกียรติ ผู้ก่อตั้งร้าน

จากความชอบ สู่ความหลงใหลใน "รสชา" 

 

แม้จะเริ่มต้นจากร้านชาสมุนไพรและกาแฟ แต่สิ่งที่จุดประกายให้ "สวรรค์บนดิน" โดดเด่นและแตกต่าง คือ "ความหลงใหลในชา" ที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในใจของคุณโต-ชูเกียรติ

 

"พอมาตอนหลัง เราเริ่มมีแพชชั่นกับการทำชามากขึ้น เพราะว่าตอนเป็นนักศึกษา ผมชอบทำงานอาสาสมัครบนดอยทางภาคเหนือ โดยเฉพาะเชียงราย"

 

ประสบการณ์อาสาสมัครบนดอยเชียงราย จุดประกายให้คุณโตได้สัมผัสกับ "ต้นชาอัสสัม" หรือที่คนเหนือเรียกว่า "เมี่ยง" ต้นชาขนาดใหญ่ที่เติบโตในป่าชุมชน และสามารถนำมาแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มได้

 

"ทุกที่ที่มีชาเสิร์ฟ มันจะเป็นที่ที่ป่าชุมชนสมบูรณ์ เราก็เลยรู้ว่า อ๋อ ทางเหนือมีต้นชาอัสสัม... มันทำให้สิ่งแวดล้อมดี อยู่กับต้นไม้ใหญ่ได้ เราก็เลยโฟกัสที่ชาตัวนี้"

 

เมื่อพูดถึงเอกลักษณ์ของชา "สวรรค์บนดิน" ผู้ก่อตั้งร้านมองว่า ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ชาแบบดั้งเดิม แต่เป็นการสร้างสรรค์ "รสนิยมชาไทย" ที่ผสมผสานวัฒนธรรมดั้งเดิมเข้ากับความร่วมสมัย

 

เมื่อทีมข่าว Posttoday ถามถึง "ชาที่เป็นสัญลักษณ์" ของร้าน คุณโตอธิบายว่า ไม่ได้มีชาสูตรเดียวที่เป็นสัญลักษณ์ แต่เป็น "รสชาติที่เป็นสัญลักษณ์" ของ "สวรรค์บนดิน" ต่างหาก

 

"Signature ของสวรรค์บนดิน คือ กลิ่นและรสชาติที่ออกมาจากพื้นที่ตรงนั้น ที่ผ่านกระบวนการคิด ผ่านความรู้สึกในแบบของคนพื้นที่ เทสต์ที่เป็นสัญลักษณ์ของผม คือ เทสต์แบบคนไทย ซึ่งดึงเอาความรู้สึกที่แฝงอยู่ในวัตถุดิบของบ้านเราออกมา"

 

\"สวรรค์บนดิน\" จากช่างภาพสู่นักปรุงชา ปักหมุดขยายตลาดสู่สากล

 จากโฮมสเตย์ สู่แบรนด์ชาคุณภาพ บนเส้นทางธุรกิจ 10 ปี 

 

"สวรรค์บนดิน" นำเสนอชาที่เป็น signature นี้ใน 2 รูปแบบ คือ ชาที่มาจากแหล่งผลิตเดียว (single origin) ไม่ปรุงแต่งรสชาติ เพื่อดึงเอารสและกลิ่นเอกลักษณ์ของพื้นที่นั้นๆ ออกมาอย่างเต็มที่ 

 

และชาที่ผ่านการผสมผสาน (blend) วัตถุดิบต่างๆ อย่างพิถีพิถัน เพื่อสร้างสรรค์รสชาติให้ซับซ้อนแต่ลงตัว

 

ชื่อสูตรชาของ "สวรรค์บนดิน" ก็สะท้อนถึงความตั้งใจในการสื่อสาร "ความรู้สึก" ผ่านรสชาติของชา โดยชื่อชาแต่ละสูตรมักจะสื่อถึงอารมณ์ ความทรงจำ หรือวัฒนธรรมไทย

 

"สูตรชาชื่อ 'สวรรค์บนดิน' ตรงๆ ไม่มี แต่เราถือว่า 'สวรรค์บนดิน' คือ เรื่องราวที่เราสร้าง ว่าอยากให้ทุกที่บนโลกเป็นสวรรค์บนดิน... ดังนั้น ชื่อสูตรชาส่วนใหญ่ของเราจะเป็นชื่อที่สื่อถึงความไทย"

 

ตัวอย่างเช่น ชา "ขนมไทย" ที่ไม่ได้ลอกเลียนรสชาติขนมไทยชนิดใดชนิดหนึ่ง แต่ต้องการสื่อถึง "ความรู้สึก" อบอุ่นแบบครอบครัว ที่คุณโตเคยสัมผัสในวัยเด็กเมื่อได้ทำขนมไทยกับคุณยาย

 

อาจกล่าวได้ว่า จุดเด่นของ "สวรรค์บนดิน" คือ ชาที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องดื่มดับกระหาย แต่เป็นชาที่ "ดื่มแล้วรู้สึก" สื่อถึงอารมณ์และความรู้สึกที่แตกต่างกันไปในแต่ละชนิด 

 

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา "สวรรค์บนดิน" เติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ย 60-70% ต่อปี แม้จะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก

 

แต่การเติบโตนี้สะท้อนถึงความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และการตอบรับที่ดีจากลูกค้า

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญกว่าตัวเลข คุณโตมองว่า คือ "คุณภาพชีวิต" ที่ดีขึ้นของ ทีมงาน ชุมชน และลูกค้า ที่ได้ร่วมเดินทางไปบนเส้นทาง "สวรรค์บนดิน" แห่งนี้

\"สวรรค์บนดิน\" จากช่างภาพสู่นักปรุงชา ปักหมุดขยายตลาดสู่สากล

 

วิทยาศาสตร์ ผสาน ความรู้สึก "วิถีออร์แกนิค" ในหลักการทำชา

 

หัวใจสำคัญของ "สวรรค์บนดิน" คือการผสมผสาน "ความรู้วิทยาศาสตร์" เข้ากับ "อารมณ์ความรู้สึก" ในการรังสรรค์ชาแต่ละชนิด

 

คุณโตอธิบายถึงหลักการทำชา โดยยกตัวอย่างกระบวนการผลิตชาขาว ชาเขียว ชาดำ และชาอู่หลง ซึ่งล้วนมีหลักการทางวิทยาศาสตร์เบื้องหลัง

 

คุณโตอธิบายว่า หลักการต่างๆ ในการทำชา ไม่ว่าจะเป็นการบังแดด การผึ่ง หรือการออกซิเดชั่น สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับพืชชนิดอื่นๆ ได้เช่นกัน เพื่อสร้างสรรค์รสชาติและกลิ่นที่แตกต่าง

 

ในด้านวัตถุดิบ "สวรรค์บนดิน" ให้ความสำคัญกับ "วิถีออร์แกนิค" โดยเน้นการใช้วัตถุดิบจากแหล่งผลิตที่ไม่ใช้สารเคมี และใส่ใจในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม

 

"คำว่า 'ออร์แกนิค' ถ้าในแง่มุมของผม คือ ใช้จากพื้นที่ที่ไม่มีสารเคมี  ที่ไหนมีการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม และตรวจสอบแล้วว่าไม่มีสารเคมี เราจะนำวัตถุดิบจากชุมชนนั้นมาใช้"

 

คุณโตอธิบายว่า การให้ความสำคัญกับ "วิถีออร์แกนิค" ไม่ได้หมายถึงการยึดติดกับใบรับรอง แต่เป็นการสนับสนุนชุมชนเกษตรกรที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และสร้างความยั่งยืนให้กับระบบนิเวศโดยรวม

 

"นมัสการ" ชาขายดีอันดับหนึ่ง

 

ในบรรดาผลิตภัณฑ์ชามากมายของ "สวรรค์บนดิน" ชาที่ขายดีที่สุดกลับกลายเป็นชาที่ช่วยเรื่องการนอนหลับ ชื่อว่า "นมัสการ"

 

"โปรดักส์ที่ขายดีที่สุดในร้าน กลายเป็นโปรดักส์ช่วยเรื่องการนอน ซึ่งผมมองว่าเป็นปัญหาของคนทำงานในปัจจุบัน'"

 

ชา "นมัสการ" เป็นชาคาโมมายล์จากเชียงราย ปลูกแบบไม่ใช้สารเคมี ผสมผสานกับมะตูม ชะเอม ดอกคำฝอย ใบเตย และสารสกัดแอล-ธีอะนีน ที่ช่วยเรื่องความจำและหลับสบาย

 

"แอล-ธีอะนีน ช่วยเรื่องความทรงจำดี หลับสบาย... ยิ่งเจอกับคาโมมายล์ ยิ่งบวกกันเข้าไปเลย... คนทานแล้วหลับสบาย ผ่อนคลาย ก็เลยเป็นตัวขายดีมาก"

 

นอกจาก "นมัสการ" ชาขายดีอันดับ 2 และ3 ของร้านคือ ชา "สวนดอกไม้" และชา "ขนมไทย" ซึ่งเป็นชา "สเปเชียลเบลนด์" ที่พิถีพิถันในการคัดสรรวัตถุดิบและปรุงแต่งรสชาติ

 

ชา "สวนดอกไม้" สื่อถึงความสบายใจ ความปลอดโปร่ง เหมือนเดินอยู่ในสวนดอกไม้ ส่วนชา "ขนมไทย" สื่อถึงบรรยากาศครอบครัว ความอบอุ่น จากความทรงจำวัยเด็กที่ได้ทำขนมไทยกับคุณยาย

ชานมัสการ

 

"หงฉา" รางวัลระดับสากล เอกลักษณ์ชาไทยสู่สายตาโลก

 

อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นและสร้างชื่อเสียงให้กับ "สวรรค์บนดิน" คือ "ชาแบล็คที" หรือ "หงฉา" ที่ได้รับรางวัลระดับสากลจากลอนดอน

 

"ชาแบล็คที คนจีนเรียกหงฉา หรือ ชาแดง เป็นตัวที่เราได้รางวัลจากลอนดอน เป็นรางวัลประกวดชาระดับสากล... เป็นชาจากอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ได้อันดับ 4 ที่ Taste of London โดดเด่นด้วยกลิ่นและรสชาติที่นุ่มละมุน หอมกลิ่นข้าวคั่ว"

 

แม้การส่งชาเข้าประกวด หรือการลงทุนในงานวิจัยและพัฒนา จะมีค่าใช้จ่ายสูง แต่ "สวรรค์บนดิน" มองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นการลงทุนเพื่อพัฒนาคุณภาพ และสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์เป็น "วิถี" ที่ทุกคนสามารถสัมผัสและร่วมสร้างให้เกิดขึ้นได้จริงบนโลกใบนี้

 

ปัจจุบัน "สวรรค์บนดิน" มุ่งเน้นการจำหน่ายชาในประเทศเป็นหลัก โดยคุณโตเผยว่า กำลังการผลิตขณะนี้ อาจจะยังไม่พอที่จะส่งออก

 

อย่างไรก็ตาม ผู้ก่อตั้งร้านมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น คือการนำพาชาไทยไปสู่ตลาดโลก

 

"เป้าหมายในวันหนึ่ง เราก็อยากให้ผู้คนทั่วโลกได้รับรู้ถึงความละเอียดอ่อน หรือความดีงามของวัตถุดิบที่อยู่ในเมืองไทย... อยากให้วัฒนธรรมของไทยในรูปแบบของอาหาร ในรูปแบบของชาสมุนไพรไปได้ทั่วโลก" คุณโต กล่าวทิ้งท้าย

 

\"สวรรค์บนดิน\" จากช่างภาพสู่นักปรุงชา ปักหมุดขยายตลาดสู่สากล