บสย. ปลดล็อก SMEs ซื้อรถกระบะใหม่ อัดค้ำประกันสินเชื่อ 1.1 แสนล้าน เริ่มทันสงกรานต์
บสย. เปิดมาตรการใหม่ "SMEs PICK-UP" ค้ำประกันสินเชื่อรถกระบะใหม่ให้ SME วงเงินกว่า 1,000 ล้านบาท คาดช่วยผู้ประกอบการ 12,500 ราย พร้อมเดินหน้าค้ำประกันสินเชื่อรวม 110,000 ล้าน ช่วยเข้าถึงเงินทุนกว่า 1.6 แสนราย กระตุ้นเศรษฐกิจไทยตลอดปี 2568
ปี 2568 กำลังจะเป็นอีกหนึ่งปีสำคัญที่ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เดินหน้า ช่วยเหลือ SMEs ไทยให้เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ด้วยการจัดสรรวงเงินค้ำประกันสินเชื่อกว่า 110,000 ล้านบาท คาดว่าจะช่วยสร้างสินเชื่อในระบบได้ถึง 142,000 ล้านบาท และสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 165,000 ราย ทั่วประเทศ เกิดการจ้างงาน 940,000 ตำแหน่ง สร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้ 454,300 ล้านบาท
ล่าสุด บสย. เตรียมออกมาตรการใหม่ ภายใต้โครงการ "บสย. SMEs PICK-UP" ซึ่งเป็นการปลดล็อกการค้ำประกันสินเชื่อรถกระบะใหม่ วงเงิน 10,000 ล้านบาท เพื่อช่วยผู้ประกอบการที่ต้องการซื้อรถกระบะสำหรับใช้ในธุรกิจ
นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. เปิดเผยว่า มาตรการนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการที่มีความจำเป็นต้องใช้รถกระบะในกิจการของตน เช่น ธุรกิจขนส่ง การค้าขาย และอาชีพอิสระ สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น โดยคาดว่ามาตรการนี้จะสามารถช่วยเหลือ 12,500 ราย สร้างการจ้างงานกว่า 37,500 ตำแหน่ง และกระตุ้นเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่า 41,300 ล้านบาท
รถกระบะใหม่เพื่อ SMEs คาดเริ่มทันก่อนสงกรานต์
บสย. อยู่ระหว่างหารือกับบริษัทลีสซิ่งและค่ายรถยนต์ เพื่อตรวจสอบว่ามาตรการนี้สามารถตอบโจทย์ตลาดได้มากน้อยเพียงใด และคาดว่าจะสามารถเริ่มใช้งานได้จริง ก่อนช่วงสงกรานต์ปีนี้ ซึ่งตรงกับช่วงจัดงาน "บางกอก มอเตอร์โชว์" พอดี
คุณสมบัติของโครงการ
- เป็น รถกระบะป้ายแดง เท่านั้น
- ไม่จำกัดจำนวนรถที่ผู้ประกอบการเคยมีมาก่อน
- อายุสัญญากู้สูงสุด 7 ปี
- วงเงินค้ำประกันต่อคัน ไม่เกิน 800,000 – 1,000,000 บาท
- ต้องใช้เพื่อ เชิงพาณิชย์ เท่านั้น
"เราต้องการช่วยให้ SMEs ที่ต้องใช้รถกระบะในการประกอบอาชีพ มีโอกาสเป็นเจ้าของรถได้ง่ายขึ้น และลดภาระหลักประกันที่อาจเป็นอุปสรรคในการเข้าถึงสินเชื่อ"
อย่างไรก็ตาม หากความต้องการสูงเกินกว่าที่คาดไว้ บสย. ก็พร้อมพิจารณาขยายวงเงินค้ำประกันเพิ่มเติม
ไม่ใช่แค่รถกระบะ บสย. ยังช่วย SMEs ทุกกลุ่ม
นอกจากโครงการ "บสย. SMEs PICK-UP" แล้ว ปีนี้ บสย. ยังเตรียมมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการในกลุ่มต่างๆ อย่างครอบคลุม ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อภายใต้ "PGS11" ได้แก่
1. โครงการ "บสย. SMEs สร้างโอกาส"
- วงเงิน 2,000 ล้านบาท
- ค้ำประกันสินเชื่อไม่เกิน 20,000 บาทต่อราย
- เน้นช่วย SMEs ที่ไม่เคยเข้าถึงสินเชื่อในระบบ
2. โครงการ "บสย. SMEs มีทุน"
- วงเงิน 2,000 ล้านบาท
- ค้ำประกันสินเชื่อไม่เกิน 50,000 บาทต่อราย
- มุ่งเป้าหมายไปที่ SMEs รายย่อย และอาชีพอิสระ
ทั้งนี้ เมื่อรวมสองโครงการนี้แล้ว คาดว่าจะช่วยให้ SMEs ไม่ต่ำกว่า 200,000 ราย สามารถเข้าถึงแหล่งทุนในระบบได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีโครงการอื่นๆ ที่รองรับผู้ประกอบการเฉพาะกลุ่ม เช่น
- PGS11 บสย. SMEs Small Biz สำหรับ SMEs ที่ต้องการขยายธุรกิจ
- PGS11 บสย. SMEs Smart Gen สำหรับธุรกิจที่ต้องการปรับตัวสู่ดิจิทัล
- PGS11 บสย. SMEs No One Left Behind ช่วยเหลือ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่ปกติ เช่น ภัยพิบัติ
- PGS11 บสย. SMEs Smart Build สนับสนุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ผลการดำเนินงานปี 2567
ปี 2568 – บสย. มุ่งยกระดับ 4 ด้าน เพิ่มศักยภาพช่วยเหลือ SMEs
นอกจากมาตรการสนับสนุนสินเชื่อ บสย. ยังเตรียมยกระดับองค์กรใน 4 มิติ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ได้แก่
"เป้าหมายของ บสย. ในปี 2568 คือการเป็น "SMEs’ Gateway" ที่แท้จริง เป็นสะพานเชื่อม SMEs กับแหล่งทุน และช่วยให้พวกเขามีโอกาสเติบโตได้อย่างยั่งยืน"
โดย ในปี 2568 บสย. พร้อมเดินหน้าปลดล็อกสินเชื่อให้กับ SMEs ทุกกลุ่ม โดยเฉพาะโครงการค้ำประกันรถกระบะใหม่ "บสย. SMEs PICK-UP" ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ บสย.เปิดโครงการช่วยเหลือด้านนี้ นอกจากนี้ ยังมีโครงการค้ำประกันสินเชื่อหลากหลายที่มุ่งช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็ก อาชีพอิสระ และ SMEs ที่ต้องการขยายกิจการ
หากมาตรการนี้สามารถช่วยเหลือ SMEs ได้ตามเป้าหมาย บสย. ก็พร้อมขยายความช่วยเหลือเพิ่มเติม เพื่อให้ปี 2568 เป็นปีที่ SMEs ไทยเติบโตได้อย่างมั่นคง และมีโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนได้มากกว่าที่เคย


