สินค้าจีนล้นไทย ตั้งแต่ของใช้ ยันผักผลไม้ ขายราคาถูก จน SME ไทยอาจสู้ไม่ไหว

ทุกวันนี้สินค้าจากจีนไม่ว่าจะเป็นชิ้นใหญ่ หรือชิ้นเล็ก เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เครื่องใช้ไฟฟ้า ของใช้จิปาถะ ตลอดจนอาหาร ผักและผลไม้ หาซื้อได้ตามท้องตลาด หรือแม้แต่ช่องทางออนไลน์

 

หากมองในมุมทั่วไปอาจเป็นข้อดีที่ผู้บริโภคมีทางเลือกหลากหลาย แต่หากมองในแง่ของเศรษฐกิจนั้นถือว่ากระทบต่อผู้ประกอบการไทยแบบเต็ม ๆ เนื่องจากสินค้าจีนราคาสบายกระเป๋า บางอย่างนำเข้าแบบหลีกเลี่ยงภาษี กลายเป็นได้เปรียบทางการค้าขาย

 

นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ผู้คร่ำหวอดในวงการดิจิทัล อีคอมเมิร์ซ ผู้ก่อตั้งตลาดดอตคอม กล่าวกับโพสต์ทูเดย์ว่า นับตั้งแต่หลังวิกฤตโควิดเป็นต้นมา สินค้าจีนหลั่งใหลเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมาก แต่สินค้าบางอย่างก็ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน เช่น ไม่มีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.)ไม่มีการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

เพราะถูกนำเข้ามาผ่านพรมแดน อาจมีการจ่ายค่าส่วย ทำให้สินค้าเหล่านี้สามารถเล็ดรอดเข้ามา มีการปลอมแปลงเลขทะเบียนมาตรฐาน มอก. และ อย.และเมื่อเข้ามาแล้ว จึงนำไปขายผ่านทางออนไลน์ 

“ไม่เฉพาะสินค้าทั่วไป แต่ยังรวมถึงอาหาร ผัก ผลไม้ ซึ่งตอนนี้สินค้าจากประเทศจีนทะลักเข้ามาในไทยเยอะมาก หากไปดูตามตลาดไท แหล่งกระจายสินค้ากรุงเทพฯ วันนี้ต่างเต็มไปด้วยสินค้าจีน พ่อค้าคนจีนนำเอาสินค้าพืชผักต่าง ๆ เข้ามาขาย 

อย่างเช่น องุ่นไซมัสคัส ที่มาจากจีนนั้น ไม่แน่ใจว่าผ่านการตรวจสารเคมีหรือไม่ ทำให้ประชาชนไม่รู้แหล่งที่มาว่ามาจากไหน นับเป็นสิ่งที่น่ากังวลหากมียาฆ่าแมลง มีสารปนเปื้อน แต่ไทยไม่ได้กั้นสินค้าเหล่านี้เอาไว้เลย” 
 

นายภาวุธ กล่าวต่อว่า กรมศุลกากร เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการอนุญาตให้สินค้าเข้ามาในประเทศ แม้ว่าวันนี้จะมีการตรวจสอบสินค้ามากขึ้น แต่ต้องยอมรับว่ายังมีสินค้าบางอย่างที่ไม่ได้มาตรฐานเล็ดรอดเข้ามาอยู่ดี

ไม่เพียงเท่านั้น ยังพบด้วยว่า มีบริษัทออนไลน์ชิปปิ้ง บริการ "เดินพิธีการศุลกากร" รับเคลียร์สินค้า เคลียร์ศุลากากร โดยเจ้าของสินค้าไม่ต้องไปเคลียร์เอง บริษัทจะดำเนินการให้ ปัญหาเหล่านี้คือช่องว่าง

 

วันนี้รัฐบาลมีการปรับตัว ดึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดการ แต่ส่วนตัวยังเห็นสินค้าเหล่านี้เล็ดรอดเข้ามา จึงอยากแนะว่าการป้องกันหรือปราบปรามเรื่องนี้ เราไม่ต้องทำอะไรใหม่ เพียงแต่ให้เอาจริงเอาจังกับกฎหมายเดิมที่มีอยู่แล้ว ไม่ใช่ปราบปรามระยะสั้น แต่อยากเห็นระยะยาว เป็นกรอบระเบียบ มีการจัดการอย่างเป็นระบบมากขึ้น 
 

นักสืบทุนเทาตรวจสินค้าไม่ได้มาตรฐาน-หนีภาษี 

นายภาวุธ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เปิดโครงการ “นักสืบทุนเทา.com” ใช้แพลตฟอร์ม TraffyFondue ที่สามารถให้ประชาชนแจ้งปัญหาเกี่ยวกับสินค้า หรือธุรกิจที่เข้าข่ายผิดกฏหมาย เป็นการปิดช่องว่างระหว่างประชาชนกับราชการ

 

ประชาชนสามารถแจ้งปัญหาที่พบเข้ามาในระบบ เพราะคนที่เห็นปัญหาที่แท้จริงคือประชาชน เพื่อให้ราชการได้ดำเนินการตรวจสอบ และสามารถดูความเคลื่อนไหวผ่านแพลตฟอร์มได้ว่าแต่ละเรื่องได้รับการตรวจสอบหรือไม่ อย่างไร 

โดยหลังจากเปิดมาได้ 2 เดือนกว่า พบเรื่องร้องเรียนมากกว่า 1,194 เคส คนต่างชาติเข้ามาสวมสิทธิทำธุรกิจในไทย เช่น พบทุนจีน เปิดร้านนวด, ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน แถวห้วยขวาง-รัชดา และในหลาย ๆ แห่ง โดยในซุปเปอร์มาร์เก็ตยังพบสินค้ากว่า 90% ในร้านเป็นสินค้าจีนที่ไม่ได้เสียภาษี หลายชิ้นเป็นภาษาจีนล้วน แต่โดยปกติแล้วสินค้านำเข้าจะต้องมีสติ๊กเกอร์ติดระบุว่าเป็นสินค้านำเข้า

 

และในนักสืบทุนเทาไม่ได้มีเฉพาะคนจีน แต่รวมถึงคนรัสเซีย และชาติอื่น ๆ เข้ามาทำธุรกิจต้องห้ามสำหรับคนต่างชาติในพื้นที่ภูเก็ต พัทยา 

 

การรุกคืบทุนจีน กระทบผู้ประกอบการไทยเต็ม ๆ 

อย่างไรก็ตามจากปัญหาดังกล่าว แน่นอนว่ากระทบกับผู้ประกอบการไทยแน่นอน เพราะนักธุรกิจจีนเข้ามาแข่งขันธุรกิจในราคาที่ถูกกว่า บางรายหิ้วเข้ามาขายโดยไม่เสียภาษี ซึ่งได้เปรียบกว่าผู้ประกอบการที่ทำอย่างถูกต้อง ขณะที่ ผู้บริโภค ณ วันนี้กำลังบริโภคสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพเพราะขาดการตรวจสอบ ฉะนั้นวันนี้กระทบเป็นวงกว้างมาก 

 

ถามว่าทางออกคืออะไร? 

นายภาวุธ กล่าวว่า ผู้ประกอบการต้องไปทำอย่างอื่นเท่านั้น โดยเฉพาะ SME ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับนำเข้าสินค้าจีน อยู่ยาก

คำแนะนำอย่างแรกเลยคือ ให้ไปทำอย่างอื่น เพราะเราคงสู้เขาลำบาก หากภาครัฐยังปล่อยให้สินค้าเหล่านี้เข้ามา

 

สิ่งที่ SME ควรจะทำคือปรับประสิทธิภาพตนเองให้มากขึ้น วันนี้การทำธุรกิจต้องใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมต่าง ๆ การขายของออนไลน์กลายเป็นช่องทางหลัก แต่การขายออนไลน์ไม่ได้มีช่องทางเดียว สามารถขายผ่านทางมาร์เก็ตเพลส ช่องทางโซเชียลมีเดียได้หลายทาง ผู้ประกอบการต้องปรับตัวเยอะมาก เอาเทคโนโลยีเข้าม่วยบริหารธุรกิจ ใช้ซอฟต์แวร์บริหารคน บริหารสต็อก บริหารบัญชี 

 

“ผมเชื่อว่าการทำธุรกิจใช้คนเท่าเดิม แต่ต้องเพิ่มประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการขายและการบริหารจัดการ เพื่อให้ธุรกิจดำเนินได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถแข่งขันได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ"