รัฐ ชู EXIM BANK-ibank หนุนสินเชื่อ SME บุกตลาดฮาลาลหมื่นล้าน
รัฐบาลเดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมฮาลาลไทยต่อเนื่อง ผสาน EXIM BANK และ ธนาคารอิสลาม หนุน SME เข้าถึงแหล่งทุน เพิ่มศักยภาพแข่งในตลาดส่งออกหมื่นล้าน ยกระดับไทยสู่การเป็น ASEAN Halal Hub ในปี 2571
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มุ่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมฮาลาลไทยเพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางฮาลาลของอาเซียน (ASEAN Halal Hub) ภายในปี 2571 ด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการสินค้าฮาลาลไทยให้สามารถขยายตลาดการส่งออกสินค้าฮาลาลไปยังตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมผลักดันโครงการยกระดับระบบนิเวศอุตสาหกรรมฮาลาลทุกมิติ โดยเฉพาะสนับสนุนมาตรการด้านการเงิน เพิ่มโอกาสผลักดันให้ผู้ประกอบการพัฒนาศักยภาพมาตรฐานสินค้าฮาลาลไทยระดับสากล พร้อมขยายการส่งออกสินค้าฮาลาลไทยในตลาดโลก
รัฐบาล โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ibank) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการสินค้าฮาลาลสู่การส่งออก” ซึ่งเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises: SME) ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนและเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ อาทิ
การให้บริการด้านสินเชื่อเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือขยายการลงทุน การให้บริการประกันส่งออก Exim for Small Biz เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อในต่างประเทศ
การให้บริการด้านสินเชื่อและประกันความเสี่ยงในปี 2567 จะสร้างมูลค่าเศรษฐกิจการส่งออกได้เกือบ 10,000 ล้านบาท
รวมทั้งสร้างโอกาสการเป็นผู้ส่งออก และผู้ผลิตเพื่อผู้ส่งออกสินค้าฮาลาลของผู้ประกอบการ SME ไปยังตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น และยังสนับสนุนการขยายโอกาสทางการค้าผ่านกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ และการออกงานแสดงสินค้าในประเทศและต่างประเทศ และการส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ทางวิชาการด้านฮาลาลเพื่อสร้างความเข้าใจถึงทิศทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศในโลกยุคใหม่ และการขอเครื่องหมายรับรองมาตรฐานฮาลาล
ขณะเดียวกัน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยยังได้จัดทำโครงการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนทางการเงินให้กับผู้ประกอบการ SME หรือเป็นผู้ที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทาน อาทิ ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ค้าปลีก ค้าส่ง และร้านค้าใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร และกลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพ หรือสินเชื่อ IGNITE HALAL เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการ SME ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และต้องการแหล่งเงินทุนฮาลาลเพื่อนำไปลงทุนในการขยายกิจการในรูปแบบวงเงินสินเชื่อแบบมีระยะเวลาและเพื่อเสริมสภาพคล่องในรูปแบบวงเงินเบิกถอนเงินสด
ประเทศไทยมีศักยภาพในฐานะผู้ส่งออกอาหารฮาลาลรายใหญ่อันดับที่ 15 ของโลก และโอกาสจากการขยายตัวของตลาดฮาลาลโลก ทำให้นายกรัฐมนตรีสนับสนุนการดำเนินนโยบายด้านอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลมาอย่างต่อเนื่อง และได้สนับสนุนมาตรการทางการเงินเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ SME ฮาลาลของไทย
นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมฮาลาลไทยจะสามารถบรรลุเป้าหมายในการขยายส่วนการตลาดของสินค้าฮาลาลไทยในตลาดโลกได้ ทำให้ไทยสามารถก้าวสู่การเป็น ASEAN Halal Hub ในปี 2571 ได้อย่างแข็งแกร่ง
เปิดรายละเอียดสินเชื่อฮาลาล EXIM BANK-ธนาคารอิสลาม
EXIM BANK มีสินเชื่อสำหรับ SME ฮาลาล ได้แก่ สินเชื่อเอ็กซิมเริ่มต้นส่งออก อัตราพิเศษเริ่มต้น 5.35% ต่อปี (Prime Rate - 1%) วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาท ผู้เข้าร่วมโครงการนี้จะได้รับส่วนลดปีแรก 0.25% ต่อปี สินเชื่อ EXIM Green Start อัตราพิเศษเริ่มต้น 4.10% ต่อปี (Prime Rate - 2.25%) วงเงินสูงสุด 200 ล้านบาท ผู้เข้าร่วมโครงการนี้จะได้รับส่วนลด 6 เดือนแรก 0.25% ต่อปี และสินเชื่อเอ็กซิมเติมทุนส่งออก อัตราพิเศษเริ่มต้น 4% ต่อปี วงเงินสูงสุด
สำหรับ SME 20 ล้านบาท ผู้เข้าร่วมโครงการนี้จะได้รับส่วนลด 6 เดือนแรก 0.25% ต่อปี รวมถึงยกเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้า สินเชื่อเพื่อธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อัตราพิเศษเริ่มต้น 3.85% ต่อปี วงเงินสูงสุด 200 ล้านบาท และกรมธรรม์ประกันส่งออก EXIM for Small Biz เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อในต่างประเทศ ฟรี ค่าเบี้ยประกัน 1 ราย มูลค่า 1,800 บาท สำหรับการรับประกันวงเงินผู้ซื้อ 0.30 ล้านบาท ด้วยเทอมการชำระเงิน 90 วัน หรือรับส่วนลดค่าประเมินความเสี่ยงผู้ซื้อตามเงื่อนไขของธนาคาร
ขณะที่ธนาคารอิสลาม ให้วงเงินสินเชื่อขั้นต่ำ 1 ล้านบาท สูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุด 7 ปี ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยมี บสย.ค้ำประกันวงเงินสินเชื่อ รัฐบาลสนับสนุนค่าธรรมเนียมค้ำประกันให้นานถึง 3 ปี ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของ บสย. และสำหรับลูกค้าที่มีสถานประกอบการในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไอแบงก์มอบส่วนลดค่างวดผ่อนชำระ 50% ในระยะเวลา 3 เดือนแรก


