posttoday

แฮกกาธอน AI เสริมทักษะ SME 1 ใน 7 นโยบายดีอี ยกเครื่องเศรษฐกิจดิจิทัล

13 กุมภาพันธ์ 2567

“ประเสริฐ” ยก AI เป็น 1 ใน 7 แผนเศรษฐกิจดิจิทัลปี 67 กระทรวงดีอี ย้ำการเสริมทักษะ-สร้างความรู้ด้าน AI แก่ SME ช่วยสร้างแต้มต่อการแข่งขันในตลาดไทยและต่างประเทศ

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า การดำเนินงานของกระทรวงดีอีปี 2567 ประกอบด้วย 7 ด้าน ได้แก่ 1. Cloud First Policy,2. AI Agenda,3. 1 อำเภอ 1 IT Man,4. พัฒนากำลังคนดิจิทัล (Digital Manpower),5. Cell Broadcast,6. แก้ปัญหาภัยออนไลน์ และ 7. ยกระดับ Thailand Digital Competitiveness Ranking

สำหรับสิ่งที่สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศและพัฒนาศักยภาพ SME คือนโยบายด้าน AI ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI ผ่าน National AI Service Platform แพลตฟอร์มรวมบริการด้าน AI บน GDCC การพัฒนา Thai Large Language Model (Thai LLM) เป็น “โครงสร้างพื้นฐานปัญญาประดิษฐ์สำหรับภาษาไทย” การเตรียมพร้อมด้านจริยธรรม/กฎหมาย/สังคม (AI Ethics, Governance, Regulation) พัฒนาทักษะ AI และโครงการHackathon เสริมสร้างความรู้/ทักษะ AI สำหรับ SME และ ประชาชน รวมถึงการ Upskill/Reskill/Newskill ด้าน AI สำหรับบุคลากรทุกภาคส่วน และการเร่ง AI use case รัฐและเอกชน เช่น AI use case การพยากรณ์อากาศระยะปัจจุบันอัจฉริยะ ข้อมูลพยากรณ์กลุ่มฝนเชิงพื้นที่ระดับอำเภอ (ระยะ 3 ชั่วโมงข้างหน้า) บริเวณ 22 ลุ่มน้ำทั่วประเทศ และแผนที่เสี่ยงภัยสภาวะฝนตกหนักถึงหนักมาก

นอกจากนี้ต้องทำนโยบายอื่นๆควบคู่เพื่อเป็นการยกเครื่องเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยด้วยโดยแผนงาน Cloud First Policy นั้น ดีอีต้องการผลักดันการใช้ระบบคลาวด์เป็นหลัก มุ่งสู่การเป็น Cloud Hub ของภูมิภาคที่มีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลประเทศ ที่ทันสมัย มั่นคงปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ยกระดับการทำงานภาครัฐ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล โดยมีเป้าหมาย ให้บริการระบบคลาวด์เพื่อพัฒนาการบริการประชาชน ไม่น้อยกว่า 220 กรม 75,000 VM ต้องสามารถประหยัดงบประมาณด้านโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลของประเทศ 30 – 50% มีการส่งเสริมการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูล และการใช้ประโยชน์ Big Data และสนับสนุนท้องถิ่นประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในกระบวนการทำงาน นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมและดึงดูดการลงทุนด้านคลาวด์ของประเทศ ส่งเสริมผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการต่างประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อีกด้วย 

ขณะที่โครงการ 1 อำเภอ 1 IT Man เร่งขับเคลื่อนดิจิทัลระดับภูมิภาค มีเป้าหมายสร้าง IT Man 878 อำเภอ โดยดีอีมีศูนย์ดิจิทัลชุมชน 2,222 แห่ง มีศูนย์มีอินเทอร์เน็ตสาธารณะเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต 24,654 หมู่บ้าน มีสภาเยาวชนดิจิทัล และโครงการชุมชนโดรนใจ 500ชุมชน เพื่อส่งเสริมการใช้ดิจิทัลยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ สนับสนุนการเชื่อมโยงข้อมูลดิจิทัลในจังหวัดดำเนินงานครอบคลุมระดับพื้นที่อำเภอ

นายประเสริฐ กล่าวว่า Digital Manpower หรือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนากำลังคนดิจิทัล แพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลผู้กำลังคนดิจิทัล ผ่าน Digital ID (Credit bank) นั้น ดีอีตั้งเป้าดึงดูดกำลังคนดิจิทัล Global Digital Talent Visa (GDT Visa) เข้ามาทำงานในประเทศ และทำงานร่วมกับเอกชน ในการเพิ่มกำลังคนดิจิทัล 50,000 คน นอกจากนี้ยังมีการเปิดรับอาสาสมัครดิจิทัลกับสภาเยาวชนดิจิทัล ขยายผลให้ความรู้ดิจิทัลประชาชน อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม กระทรวงดีอียังมีบทบาทในการทำ Cell Broadcast ระบบแจ้งเตือนภัยแบบเจาะจง ทันสมัย สำหรับคนไทยทั้งประเทศ ข้อความแจ้งเตือนภัยทุกประเภท ส่งแบบเจาะจง ในบริเวณพื้นที่ ที่กำหนด ลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ขณะที่การแก้ปัญหาภัยออนไลน์ นั้น ดีอีจะมีการยกระดับ ศูนย์ AOC 1441 ในการใช้ AI ช่วยตรวจจับ วิเคราะห์ ประมวลผล ขยายผลกวาดล้าง บัญชีม้า และบัญชีของม้า มีการทำระบบ Call alert แอปพลิเคชันแจ้งเตือนหมายเลขโทรศัพท์เสี่ยง ภัยออนไลน์ และมีศูนย์ PDPC Eagle Eye ตรวจ ป้องปราม ข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล และซื้อขายข้อมูล รวมถึงการทำนโยบายเปิดก่อนจ่าย แก้ปัญหาซื้อของออนไลน์ เก็บเงินปลายทาง (COD) ได้ของไม่ตรงปก และโครงการไซเบอร์วัคซีน รู้เท่าทันภัยออนไลน์

ท้ายที่สุดกระทรวงดีอีต้องการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัล Thailand Digital Competitiveness สู่ อันดับที่ 30 ในปี 2569 จากอันดับ 40 ในปี 2565 โดยปี 2567 ดีขึ้น 2 อันดับ อยู่อันดับที่ 33 ในปี 2567 จากอันดับที่ 35 ในปี