เฟดเอ็กซ์อัปเกรดโซลูชันขนส่ง“สินค้าอันตราย”ตอบโจทย์SMEเชียงใหม่-ลำพูน

เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส (FedEx Express) บริษัทในเครือเฟดเอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น (FedEx Corp.) (NYSE: FDX) หนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการขนส่งสินค้าด่วนที่ใหญ่ที่สุดของโลก ได้ขยายโซลูชันโลจิสติกส์แบบครบวงจรสำหรับบริการขนส่งสินค้าอันตรายให้กับธุรกิจท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน ขณะนี้ลูกค้าสามารถจัดส่งสินค้าอันตราย* ได้อย่างสะดวกและปลอดภัย เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กาว สารฟอกขาว และสี ไปยังต่างประเทศหรือรับจากต่างประเทศผ่านบริการ FedEx International Priority®

สำหรับสินค้าอันตรายหมายถึงสิ่งของหรือสารที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ความปลอดภัย หรือสิ่งแวดล้อม หากไม่ได้รับการจัดการอย่างระมัดระวัง แต่ด้วยความเชี่ยวชาญของเฟดเอ็กซ์ สินค้าอันตรายจึงได้รับการบรรจุ ทำเครื่องหมาย ติดฉลากอย่างปลอดภัย และจัดทำเอกสารอย่างเหมาะสม รวมถึงจัดส่งอย่างพิถีพิถันโดยบุคลากรที่ได้รับการฝึกอบรมเป็นอย่างดีเพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าจะถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย

นางสาวออดรี เฉิง รองประธานฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า เฟดเอ็กซ์เห็นถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการส่งออกสินค้าอันตราย จากภาคเหนือของประเทศไทยซึ่งเป็นที่ตั้งของผู้ผลิตและห้องปฏิบัติการจำนวนมาก

ดังนั้นการขยายบริการด้านโลจิสติกส์ในครั้งนี้ จึงได้เตรียมเครื่องมือที่จำเป็นต่าง ๆ ให้กับธุรกิจในท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอิเล็กทรอนิกส์ การบินและอวกาศ การแพทย์ และเคมี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับภาคธุรกิจเหล่านี้ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้า โดยมุ่งหวังที่จะปลดล็อกศักยภาพสำหรับธุรกิจไทยให้สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสทางการค้าข้ามพรมแดนได้อย่างเต็มที่

ทั้งนี้ด้วยโจทย์ที่ต้องการสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจท้องถิ่น เฟดเอ็กซ์ยังคงนำเสนอนวัตกรรมด้านการบริการขนส่งที่ตอบสนองความต้องการของธุรกิจไทยทุกขนาด และทุกประเภท ซึ่งรวมถึงโซลูชัน Application Programming Interface ที่ช่วยให้ผู้ค้าปลีกอิเล็กทรอนิกส์ สามารถรวมบริการจัดส่งของเฟดเอ็กซ์เข้ากับหน้าร้านของตนได้ FedEx Ship Manager® Lite ที่ให้ลูกค้าสะดวกขึ้นกับลูกค้าในการจัดส่งพัสดุโดยไม่ต้องพิมพ์เอกสารใด ๆ รวมถึงบริการ FedEx International Economy® ที่สามารถกำหนดวันเวลาขนส่งสำหรับการจัดส่งที่เร่งด่วนน้อย ช่วยเชื่อมต่อธุรกิจอย่างยืดหยุ่นมากขึ้นไปยังตลาดใน 170 ประเทศทั่วโลก