posttoday

คนจ่ายได้อะไร? เมื่อครม. เห็นชอบปรับ 'เพดานจ่ายเงินประกันสังคม' เริ่มปีหน้า!

03 ธันวาคม 2568

ครม.เห็นชอบฯ การปรับเพดานค่าจ้าง ซึ่งมีผลต่อการจ่ายเงินประกันสังคมต่อเดือนของประชาชน ซึ่งจะเริ่มปีหน้า! คำถามคือแล้วประชาชนได้สิทธิอะไรเพิ่มบ้าง

นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ในวันที่ 2 ธันวาคม 2568 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำและขั้นสูงที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. .... ซึ่งการปรับเพดานค่าจ้างในครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามแนวทางการพัฒนาระบบประกันสังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางรายได้และเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกันตนในทุกมิติ

ทั้งในกรณีเจ็บป่วย ว่างงาน ทุพพลภาพ คลอดบุตร ตลอดจนกรณีชราภาพ โดยการปรับขึ้นเพดานค่าจ้างจะดำเนินการเป็น 3 ระยะ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมและลดผลกระทบต่อผู้ประกันตนและนายจ้าง โดยแบ่งดังนี้

 

 

  • ระยะที่ 1 (ปี พ.ศ.2569–2571) เพดานค่าจ้างสูงสุด 17,500 บาท  เงินสมทบสูงสุด 875 บาทต่อเดือน
  • ระยะที่ 2 (ปี พ.ศ.2572–2574) เพดานค่าจ้างสูงสุด 20,000 บาท  เงินสมทบสูงสุด 1,000 บาทต่อเดือน
  • ระยะที่ 3 (ปี พ.ศ.2575 เป็นต้นไป) เพดานค่าจ้างสูงสุด 23,000 บาท เงินสมทบสูงสุด 1,150 บาทต่อเดือน

 

ทั้งนี้ จากการปรับเพดานค่าจ้างระยะที่ 1 จะทำให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นในหลายกรณี ได้แก่

 

  • เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย สูงสุด 7,500 บาทต่อเดือน เพิ่มเป็น 8,750 บาทต่อเดือน
  • เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ สูงสุด 7,500 บาทต่อเดือน เพิ่มเป็น 8,750 บาทต่อเดือน
  • เงินทดแทนกรณีว่างงาน สูงสุด 7,500 บาทต่อเดือน เพิ่มเป็น 8,750 บาทต่อเดือน
  • เงินสงเคราะห์กรณีคลอดบุตร 22,500 บาทต่อครั้ง เพิ่มเป็น 26,250 บาทต่อครั้ง
  • เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 90,000 บาท เพิ่มเป็น 105,000 บาท
  • เงินบำนาญในกรณีส่งเงินสมทบครบ 15 ปี สูงสุด 3,000 บาทต่อเดือน เพิ่มเป็น 3,500 บาทต่อเดือน
  • เงินบำนาญในกรณีส่งเงินสมทบครบ 25 ปี สูงสุด 5,250 บาทต่อเดือน เพิ่มเป็น 6,125 บาทต่อเดือน

 

โดยสำนักงานประกันสังคมจะดำเนินการเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

 

 

สิทธิประโยชน์ในการปรับเพดานค่าจ้างระยะที่ 2-3

 

สำหรับสิทธิประโยชน์ในการปรับเพดานค่าจ้างระยะที่ 2-3 โพสต์ทูเดย์ รวบรวมมาให้ดู ว่าจะผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง ดังนี้

 

ปี 2572-2574  เพดานค่าจ้างสูงสุด 20,000 บาท สูงสุด 1,000 บาทต่อเดือน เพิ่ม(จากปี 2571)  125 บาทต่อเดือน

  • เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย 10,000 บาทต่อเดือน (333 บาทต่อวัน สูงสุด 180 วัน รวม 60,000 บาท)
  • เงินสงเคราะห์คลอดบุตร 30,000 บาทต่อครั้ง
  • เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ 10,000 บาทต่อเดือน
  • เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 120,000 บาท
  • เงินทดแทนกรณีว่างงาน 10,000 บาทต่อเดือน
  • เงินบำนาญ กรณีส่งเงินสมทบ 15 ปี 4,000 บาทต่อเดือน ส่วนกรณีส่งเงินสมทบ 25 ปี 7,000 บาทต่อเดือน

 

ปี 2575 สูงสุด เพดานค่าจ้างสูงสุด 23,000 บาท 1,150 บาทต่อเดิม เพิ่ม(จากปี 2574) 150 บาทต่อเดือน

  • เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย 11,500 บาทต่อเดือน (383 บาทต่อวัน สูงสุด 180 วัน รวม 69,000 บาท)
  • เงินสงเคราะห์คลอดบุตร 34,500 บาทต่อครั้ง 3. เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ 11,500 บาทต่อเดือน
  • เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ 11,500 บาทต่อเดือน
  • เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 138,000 บาท
  • เงินทดแทนกรณีว่างงาน 11,500 บาทต่อเดือน
  • เงินบำนาญ กรณีส่งเงินสมทบ 15 ปี 4,600 บาทต่อเดือน ส่วนกรณีส่งเงินสมทบ 25 ปี 8,050 บาทต่อเดือน

 

 

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด ลีดส์ พบ ลิเวอร์พูล พรีเมียร์ลีก วันนี้ 6 ธ.ค.68