posttoday

ACSC เผย 1 สัปดาห์ "คดีออนไลน์" ลดลง 786 เคส สกัดทัน 11 เคส ก่อนสูญ 5.6 ล้าน

24 พฤศจิกายน 2568

ACSC ระงับการโอนเงินของผู้เสียหายทัน 11 ราย มูลค่ากว่า 5.6 ล้านบาท พบรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาสถิติคดีออนไลน์ลดลงกว่า 786 เคส

ศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (ACSC) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. และ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปอส.ตร. เปิดเผยข้อมูลสถิติคดีออนไลน์ระหว่างวันที่ 16–22 พฤศจิกายน 2568

 

โดยมีผู้เสียหายแจ้งผ่านระบบ Thaipoliceonline รวม 6,936 เคส มูลค่าความเสียหาย 620,419,457 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงวันที่ 9–15 พฤศจิกายน 2568 พบว่าจำนวนคดีลดลง 786 เคส แต่มีมูลค่าความเสียหายเพิ่มขึ้น 183,728,651 บาท

 

ข้อมูลสะท้อนว่า คดีหลอกลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ยังคงเป็นคดีที่มีมูลค่าความเสียหายสูงที่สุด ตามด้วยการหลอกให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล การหลอกให้โอนเงินโดยข่มขู่ และการหลอกให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ

 

ในเชิงปริมาณคดี “การหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ” เป็นคดีที่มีจำนวนผู้เสียหายมากที่สุด คิดเป็นสัดส่วน 62.4% ของคดีทั้งหมด โดยยังคงเป็นคดีที่ประชาชนถูกหลอกมากที่สุดในรอบสัปดาห์นี้

 

สถิติรูปแบบการถูกหลอก แบ่งตามช่วงอายุ

ต่ำกว่า 18 ปี

1. หลอกขายสินค้าและบริการ


2. หลอกทำงานหารายได้พิเศษ


3. ข่มขู่ทางโทรศัพท์ให้โอนเงิน

 

อายุ 18–25 ปี

1. หลอกขายสินค้าและบริการ


2. หลอกโอนเงินเพื่อรับรางวัล


3. ข่มขู่ทางโทรศัพท์ให้โอนเงิน

 

อายุ 26–50 ปี

1. หลอกขายสินค้าและบริการ


2. หลอกโอนเงินเพื่อรับรางวัล


3. หลอกทำงานหารายได้พิเศษ

 

อายุ 51–60 ปีขึ้นไป

1. หลอกขายสินค้าและบริการ


2. หลอกโอนเงินเพื่อรับรางวัล


3. หลอกลวงให้ลงทุนในระบบคอมพิวเตอร์

ระงับโอนเงินทัน 11 ราย รวมกว่า 5.6 ล้านบาท

ในรอบสัปดาห์เดียวกัน ศูนย์ ACSC ประสานงานตำรวจพื้นที่เข้าช่วยเหลือผู้เสียหาย และสามารถหยุดการโอนเงินได้ทันก่อนถึงบัญชีมิจฉาชีพ 11 เคส รวมมูลค่า 5,652,947 บาท

 

เคสที่ 1 – ผู้เสียหายหญิงอายุ 76 ปี จ.ปราจีนบุรี

ถูกหลอกให้ลงทุนซื้อหุ้นกว่า 1,572,755.81 บาท และถูกหลอกซ้ำด้วยเอกสารราชการปลอมเพื่อเรียก “ค่าดำเนินการ” ก่อนตำรวจ สภ.ระเบาะไผ่ เข้าระงับการโอนทันเวลา และพาไปแจ้งความ พร้อมประสานอายัดบัญชี

เคสที่ 1

เคสที่ 2 – หญิงอายุ 54 ปี จ.เชียงราย

ผู้เสียหายประกาศขายที่ดินเพื่อเตรียมไปทำงานต่างประเทศ ต่อมาถูกหลอกผ่านเพจจัดหางาน “SHB BAH” ให้โอนเงินหลายครั้ง รวมมูลค่า ประมาณ 1,400,000 บาท เจ้าหน้าที่ ศปอส.ภ.5 และตำรวจพื้นที่เข้าระงับธุรกรรมได้ทัน

เคสที่ 2

เคสที่ 3 – หญิงอายุ 60 ปี จ.แม่ฮ่องสอน

ถูกหลอกให้เข้ากลุ่มไลน์ปลอมอ้างว่าเป็นกลุ่มลงทุน มีหน้าม้ากดดันให้โอนเงินรวม 17,672,839 บาท เจ้าหน้าที่เข้าหยุดการโอนทัน 3 ครั้ง

เคสที่ 3

ปฏิบัติการจับกุมขบวนการสแกมเมอร์ในหลายพื้นที่

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ดำเนินปฏิบัติการหลายคดี ได้แก่

- คดี Hybrid Scam ลวงชายวัยเกษียณ

ชายผู้เสียหายซึ่งเป็นอดีตคณบดี มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกหลอกให้โอนเงินเกือบ 2 ล้านบาท ผ่านเว็บไซต์ลงทุนปลอม จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา 12 ราย และออกหมายจับรวม 23 ราย ตรวจค้น 12 จุด พบเงินหมุนเวียนในรอบ 3 เดือนเกือบ 20 ล้านบาท พร้อมเชื่อมโยงคดีอื่นอีก 13 คดี รวมความเสียหายกว่า 6 ล้านบาท

 

- จับกุมม้ากดเงินคาตู้ ATM จ.ชลบุรี

จับผู้ต้องหา 4 ราย ระหว่างกดเงินให้แก๊งสแกมเมอร์ ยึดเงินสด 2,025,400 บาท พร้อมของกลางหลายรายการ หลังพบเกี่ยวข้องคดีหลอกซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมผ่านเฟซบุ๊กและหลอกให้ทำกิจกรรมโอนเงินต่อเนื่อง

ACSC เผย 1 สัปดาห์ "คดีออนไลน์" ลดลง 786 เคส สกัดทัน 11 เคส ก่อนสูญ 5.6 ล้าน

เตือนภัยอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ – เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ศูนย์ ACSC ระบุว่า ขณะนี้มิจฉาชีพอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์ข่มขู่ผู้เสียหายว่าพัวพันกับคดีที่ผิดกฎหมายยังคงระบาดและมีเพิ่มขึ้น

 

โดยคนร้ายมักจะลวงให้นำทรัพย์สินมีค่าพร้อมโอนเงินไปให้ตรวจสอบ อย่างล่าสุด กรณีที่ชายหนุ่ม อายุ19 ปี ถูกคนร้ายโทรศัพท์ข่มขู่ในลักษณะดังกล่าว หลอกให้แสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการโอนเงินทุกบัญชีไปให้ตรวจสอบ มิหนำซ้ำยังข่มขู่ให้นำทรัพย์สินมีค่าไปวางไว้ตามจุดต่างๆที่คนร้ายกำหนด อ้างว่าเป็นขั้นตอนการตรวจสอบทางคดี ทำให้ผู้เสียหายสูญเสียทั้งเงินสดและทรัพย์สินมีค่า จำนวนมาก ทั้งทองคำ พระเครื่อง และเครื่องประดับต่างๆ มูลค่าร่วม 10 ล้านบาท

 

​ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐ จะไม่ทำ 3 สิ่งนี้เป็นอันขาด

1.จะไม่มีการโทรศัพท์หาผู้เสียหายและขอแอดไลน์

2.เจ้าหน้าที่จะไม่ส่งเอกสารราชการใดๆ รวมถึงหมายเรียก หมายจับ ทางไลน์ 

3.สำคัญที่สุด เจ้าหน้าที่จะไม่มีการให้โอนเงินหรือนำทรัพย์สินมาส่งให้ตรวจสอบเป็นอันขาด หากพบการกระทำในลักษณะดังกล่าว นั่นเป็นมิจฉาชีพ!!!

ข่าวล่าสุด

TOA บริจาค 10 ล้าน! เร่งฟื้นฟู รพ.หาดใหญ่ พร้อมส่งอาสาผนึกกำลังทหาร