รู้จัก 'คุกกี' ญาติห่างๆ ของบรรพบุรุษ 'มนุษย์'
โพสต์ทูเดย์ พาไปรู้จัก 'คุกกี' ญาติห่างๆ ของบรรพบุรุษ 'มนุษย์' ที่ทำให้ได้แต่นึกทึ่งในวิวิฒนาการของสิ่งมีชีวิตเสียนี่กระไร!
ขณะที่กำลังเดินดูโครงกระดูกไดโนเสาร์จำลองอันสุดแสนจะน่าทึ่ง ในพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ฟุคุอิ (Fukui Prefectural Dinosaur Museum) ที่จังหวัดฟุกุอิ ประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดที่ติดอันดับท็อป 2 ของเอเชียและไม่เกินท็อป 5 ของโลก
ก็ค้นพบมุมเล็กๆ แห่งหนึ่ง ผนังขนาดใหญ่จัดแสดงวิวัฒนาการของมนุษย์!
เมื่อไล่ๆ ดูแผนผังชาร์ต ก็พบกับจุดต้นตออันแสนจะน่าทึ่งและน่าสนใจ
เพราะนอกจากภาพจำลองวิวัฒนาการของมนุษย์ที่เราก็พอจะเห็นและจำกันได้ ก็คือต้นตอบรรพบุรุษของเรามาจากบรรพบุรุษเดียวกันกับ ‘วานร (เรียกกันว่าลิงไม่มีหาง หรือ ape )’ ก่อนที่จะพัฒนาจนกลายเป็น ‘โฮโมเซเปียนส์’ แล้ว
ผนังอันนี้ยังย้อนไปไกลกว่านั้นถึงจุดเริ่มต้นของ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกลุ่มไพรเมต (Order Primates) ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่รวมถึง ลิง วานร และมนุษย์ แต่ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด เพราะสุนัข แมว ช้าง หรือวาฬ ก็เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเช่นกัน แต่ไม่ใช่ไพรเมต จุดที่ไพรเมตแยกออกจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกลุ่มอื่น ๆ เกิดขึ้นราว 85 ล้านปีก่อน
พบกับ 'ญาติห่างๆ' ของบรรพบุรุษมนุษย์
ภาพของสัตว์ชนิดหนึ่งที่เกาะอยู่บนผนัง จึงทำให้ 'ฉงน' อย่างที่สุด
นี่คือ Carpolestes simpsoni (คาร์โปเลสเตส ในที่นี้ขอเรียกว่า 'คุกกี') เป็นญาติใกล้ชิดของบรรพบุรุษไพรเมตยุคแรก เป็นญาติของทวด ของทวด และของทวดของเรา!
ถ้าพูดแบบนี้แล้วก็ได้แต่ร้อง 'ฮะ' แล้วก็ได้แต่ทึ่งกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตเสียจริง
คาร์โปเลสเตสมีชีวิตอยู่ในช่วงราว 58 ล้านปีที่แล้ว ในยุคพาลีโอซีน ซึ่งเป็นยุคที่เกิดหลังจากไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไปราว 66 ล้านปี
คุกกีไม่ใช่ไพรเมตแท้ แต่เป็นสมาชิกของกลุ่ม Plesiadapiformes ซึ่งเป็นกลุ่มสัตว์ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับไพรเมตยุคแรกมาก จึงถือว่าเป็น 'ญาติใกล้ชิด' ของบรรพบุรุษไพรเมต
ลำดับวิวัฒนาการสู่มนุษย์
ถ้าจะย้อนถึงวิวัฒนาการของมนุษย์ ก็ต้องเริ่มจากกลุ่ม Plesiadapiformes ซึ่ง Plesiadapis (เพลเซีดาปิส) เป็นตัวแทนที่สำคัญ พวกมันเป็นจุดเริ่มต้นใกล้กับสายวิวัฒนาการของไพรเมต เกิดในยุคพาลีโอซีนในช่วง 65 ล้านปีที่แล้ว มีลักษณะตัวเล็ก มีนิ้วที่ยังจับไม่คล่อง และสายตายังไม่สามารถมองแบบสามมิติได้
จากนั้นประมาณ 7 ล้านปีต่อมา ก็พัฒนามาเป็น Carpolestes simpsoni หรือคุกกีนั่นเอง ซึ่งมีชีวิตอยู่ราว 58-55 ล้านปีที่แล้ว คุกกีมีนิ้วหัวแม่มือที่สามารถจับตรงข้ามได้ และเริ่มจับกิ่งไม้ได้ แม้นิ้วเท้าจะยังจับได้ไม่สมบูรณ์ก็ตาม เจ้าคุกกีมีความสำคัญอย่างมากเพราะเป็นสัตว์ที่แสดงลักษณะเฉพาะหลายอย่างที่จะพบในไพรเมตแท้ต่อมา
แล้วอีกประมาณ 3 ล้านปีถัดมา ราว 55 ล้านปีที่แล้ว จึงเกิด ไพรเมตแท้ ขึ้นมา ซึ่งเรานับว่านี่คือต้นสายวิวัฒนาการที่แท้จริงของลิงและมนุษย์ ไพรเมตแท้มีนิ้วมือนิ้วเท้าจับได้ดี มีเล็บแทนกรงเล็บ ตาสามารถมองสามมิติได้และอยู่ด้านหน้า ส่วนสมองก็โตขึ้นและเริ่มเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาได้ดีขึ้น
หลังจากไพรเมตแท้ราว 15-20 ล้านปี ก็พัฒนาเป็น กลุ่มลิง ในช่วง 40-35 ล้านปีที่แล้ว มีสมองที่ใหญ่ขึ้นและพฤติกรรมที่ซับซ้อนขึ้น จากนั้นลิงบางสายพันธุ์ก็พัฒนาเป็นลิงใหญ่หรือวานร (apes) ราว 25-20 ล้านปีที่แล้ว ซึ่งมีลักษณะเด่นคือสมองใหญ่ขึ้นอีก ไม่มีหาง และมีพฤติกรรมสังคมที่ซับซ้อน
จุดสำคัญเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 7-6 ล้านปีที่แล้ว เมื่อมนุษย์และวานรสมัยปัจจุบัน เช่น ชิมแปนซี กอริลลา แยกสายจากบรรพบุรุษร่วมกัน สายวิวัฒนาการของมนุษย์เริ่มมีการเดินสองขา สมองโตขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มใช้เครื่องมือ จนกระทั่งมนุษย์สมัยใหม่หรือ 'โฮโมเซเปียนส์' เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 300,000 ปีที่แล้ว มีลักษณะเด่นคือเดินสองขาอย่างสมบูรณ์ มีสมองใหญ่และซับซ้อนที่สุด มีภาษา วัฒนธรรม และเทคโนโลยี
'คุกกี' เป็นญาติแค่ไหน?
คำว่า 'ไพรเมตแท้' สำคัญมากเพราะถ้าพูดถึงบรรพบุรุษสายตรงของมนุษยชาติ จะนับที่คำว่าไพรเมตแท้เท่านั้น คุกกี แม้จะไม่ใช่ไพรเมตแท้ แต่เป็นญาติใกล้ชิดมากของบรรพบุรุษไพรเมตยุคแรก เป็นสัตว์ที่แสดงให้เห็นว่าลักษณะสำคัญของไพรเมต เช่น นิ้วจับตรงข้าม ตามองสามมิติ เริ่มพัฒนาขึ้นอย่างไรในยุคพาลีโอซีน
เมื่อพัฒนาเป็นไพรเมตแท้แล้ว สายวิวัฒนาการก็แยกออกเป็นหลายทาง บางสายกลายเป็นลิงสมัยปัจจุบัน บางสายกลายเป็นวานร และบางสายกลายเป็นมนุษย์ คุกกีจึงไม่นับว่าเป็นบรรพบุรุษสายตรง แต่ถ้านับว่าเป็นญาติใกล้ชิดของบรรพบุรุษไพรเมตยุคแรก ที่ช่วยให้เราเข้าใจวิวัฒนาการของไพรเมต รวมถึงมนุษย์ได้ดีขึ้น
การได้พบเจ้า 'คุกกี' ตัวเล็กๆ บนผนังในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จึงเป็นเหมือนการได้เปิดหน้าต่างมองย้อนกลับไปเห็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางวิวัฒนาการที่ยาวนานนับล้านปี ซึ่งนำพาเราทุกคนมาสู่จุดที่เป็นอยู่ในวันนี้
… แม้จะรู้แบบนี้แต่เมื่อเห้นรูปร่างของ ‘คุกกี’ และมองมาที่ตัวเองก็น่าทึ่งไม่น้อย
ก่อนที่จะบอกลาผนังความรู้นั้นและกล่าวในใจว่า ‘สวัสดีและยินดีที่ได้รู้จักญาติห่างๆ ของฉัน’


