posttoday

‘REBORN’ วาร์ปไปอนาคต! มนุษย์จะดูแลสุขภาพอย่างไรในปี 2050 ที่โอซาก้า

17 ตุลาคม 2568

‘REBORN’ โพสต์ทูเดย์ พาวาร์ปไปอนาคต! เพื่อดูว่ามนุษย์จะดูแลสุขภาพอย่างไรในปี 2050 ส่งท้ายร่ำลา Expo 2025 โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น!

ทุกวันนี้หลายคนดูแลสุขภาพกันอย่างไร?

 

แต่ในปี 2050 หรืออีกเพียงแค่ 25 ปีข้างหน้า การดูแลสุขภาพของ ‘มนุษย์’ จะเปลี่ยนไปในรูปแบบที่ไม่เคยพบมาก่อน

 

 

นี่คือสิ่งที่ค้นพบจากการที่ โพสต์ทูเดย์ เดินทางไปชม Osaka Healthcare Pavillion หนึ่งในโซนนิทรรศการ ซึ่งจัดแสดงในงาน Expo 2025 Osaka, Kansai, Japan ซึ่งมาในธีมหลักอย่าง ‘REBORN’ หรือ การเกิดใหม่ ในมุมของสุขภาพและชีวิต!

 

และนี่คือหน้าตาของ ‘การดูแลสุขภาพ’ ในอีก 25 ปีข้างหน้า

 

‘REBORN’ วาร์ปไปอนาคต! มนุษย์จะดูแลสุขภาพอย่างไรในปี 2050 ที่โอซาก้า

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

01  ข้อมูลสุขภาพคือ ‘ต้นทาง’ ของไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิต

 

 

เมื่อทุกคนเข้าสู่ Osaka Healthcare Pavillion  จะถูกสแกนและเก็บข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล เช่น สภาพผิว เส้นผม กล้ามเนื้อ กระดูก ความคิดอ่าน ฯลฯ แล้วระบบของนิทรรศการนี้จะสร้าง Avata หรือ ‘ตัวตนในอนาคตของคุณในปี 2050’  ขึ้นมา เพื่อให้เห็นว่าถ้าดูแลสุขภาพตนเองต่อไปแบบเดิม ชีวิตจะเป็นอย่างไร

 

โดยจะมีการประเมินเกรดของสุขภาพในแต่ละส่วน เราจะได้เห็นว่าสุขภาพส่วนไหนที่ต้องปรับปรุงและแก้ไข

 

‘REBORN’ วาร์ปไปอนาคต! มนุษย์จะดูแลสุขภาพอย่างไรในปี 2050 ที่โอซาก้า

 

สาระสำคัญของการร่วมสนุก ณ จุดนี้ คือ แนวคิดที่ว่า ข้อมูลสุขภาพควรจะเป็น ‘ต้นทาง’ ของการใช้ชีวิตและพฤติกรรมใช้ชีวิตในรูปแบบต่างๆ

 

ยกตัวอย่างเช่น การกินอาหาร เมื่อข้อมูลสุขภาพเชื่อมโยงกับ ‘ตู้คีออส’ ที่จะแนะนำวิตามินเสริมให้กับเราอัตโนมัติ มันจะใช้ข้อมูลที่เราเก็บไว้ตั้งแต่เริ่มต้น มาประมวล ..

 

ผลลัพธ์ที่ได้คือ อาหาร หรือขนม ในรูปแบบที่มีวิตามินสอดแทรกเข้าไป ให้เราได้ทานเพื่อเพิ่ม ‘สุขภาพที่ดี’ ในแต่ละวันได้ (นอกจากความอร่อย) ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละคนจะได้สิ่งที่แตกต่างกันไปตามความต้องการ

 

 

นอกจากนี้ การรับประทาน ‘เนื้อ’ ของเราก็สามารถออกแบบได้เช่นกัน

 

Osaka Healthcare Pavilion ได้โชว์นวัตกรรมการผลิต ‘เนื้อสด’ ในรูปแบบใหม่ โดยเครื่อง Meat Maker ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและบริษัทชั้นนำในญี่ปุ่น

 

 

Meat Maker เจ๋งตรงที่ มันเกิดขึ้นจากแนวคิดที่ว่า อนาคตจะมีเครื่องผลิตเนื้อแบบปรับแต่งได้ไว้ใช้ที่บ้าน โดยจะใช้เทคโนโลยี 3D bioprinting (เครื่องพิมพ์ชีวภาพ)  เพื่อสร้างโครงสร้างของเนื้อ  มันสร้างได้แม้กระทั่งลายในเนื้อวากิว!

 

แต่ข้อที่เกี่ยวโยงกับข้อมูลสุขภาพของเราก็คือ เครื่องตัวนี้จะปรับสัดส่วนระหว่างกล้ามเนื้อกับไขมันจากข้อมูลสุขภาพของเรา และเลือกว่าจะใช้ไขมันเท่าไหร่ ความมันเท่าไหร่ เนื้อแน่นหรือนุ่มดี ได้ด้วย!

...

 

Meat Maker

 

ตอนที่เห็นในงานนี้ คิดว่าเจ้าเครื่องนี้เจ๋งซะไม่มี แต่เมื่อไหร่จะได้ใช้คงต้องรออีก 25 ปี!

 

แต่เมื่อกลับมาไทยได้ไม่เกิน 2 สัปดาห์ ล่าสุดได้มีข่าวว่าบริษัทแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ประกาศที่จะเอาจริงเอาจังด้านนี้ ซึ่งผลิตจากเซลล์ 100% และตั้งเป้าจะเปลี่ยนจากเนื้อเพาะเลี้ยงในห้องทดลองออกมาใช้งานจริงในสังคมได้ภายในปี 2027 หรืออีกแค่ 2 ปีข้างหน้าเท่านั้นเอง

 

 

 

เมื่อสัมผัสกับบรรยากาศของนิทรรศการไปเรื่อยๆ จะพบว่า สิ่งที่ญี่ปุ่นคิดคือ

 

การดูแลสุขภาพดี แน่นอนว่าต้องเริ่มจากพฤติกรรม แต่การกินของดีไม่พอ! 

 

การกินที่แม่นยำต่อร่างกายของบุคคล ว่าบุคคลต้องการสิ่งไหนกันแน่นั้นสำคัญกว่า และเรื่องนี้จำเป็นต้องอาศัยนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ .. ซึ่งนี่จะเป็นแนวทางสำคัญของนวัตกรรมการดูแลสุขภาพในปัจจุบันและอนาคต!

 

 

02  การดูแล-รักษาที่ ‘เจาะจง’ และ ‘แม่นยำ’ มากขึ้น

 

ห้องโถงของนิทรรศการ Osaka Healthcare Pavilion ถูกออกแบบให้มีสัญลักษณ์ของเจ้าตัว DNA เกลียวคลื่นจากพื้นสูงจรดเพดาน

 

ในวงการแพทย์และการรักษาโรค การรักษาที่แม่นยำ เจาะลึกไปในระดับเซลล์ และ DNA คือสิ่งที่เกิดขึ้น และเป็นเรื่องของ ‘วันนี้’  ที่เป็นการแพทย์ยุคใหม่ ซึ่งเปลี่ยนจากฐานความคิดการแพทย์ยุคเดิมไปเสียสิ้น

 

‘REBORN’ วาร์ปไปอนาคต! มนุษย์จะดูแลสุขภาพอย่างไรในปี 2050 ที่โอซาก้า

 

สาเหตุเพราะโรคสำคัญส่วนใหญ่ที่เกิดกับมนุษย์ เกิดจากความผิดปรกติในระดับเซลล์และยีนจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง เบาหวาน โรคหัวใจ ภูมิคุ้มกันผิดปกติ หรือแม้แต่ภาวะชรา!

 

การรักษาแค่ภายนอก อย่างการลดน้ำตาลในเลือด ลดไขมัน ฆ่าเชื้อ จึงไม่สามารถแก้สาเหตุที่แท้จริงได้ เพราะต้นตอของมันอยู่ที่ DNA และเซลล์

 

อีกทั้งทุกวันนี้ Biotech ก้าวหน้ามากจนสามารถเข้าไปแก้ไขได้จริงๆแล้วเสียด้วย ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยี Gene Sequencing หรือการถอดรหัส DNA  หรือว่าจะเป็นเครื่อมือตัดต่อยีนอย่าง CRISPR หรือการสร้างอวัยวะจำลองในห้องทดลองจากเซลล์จริง เพื่อทดลองยาเฉพาะบุคคล  รวมไปถึงการรักษาแบบ CAR-T Cell Therapy หรือ Gene Therapy ที่เข้าไปปรับแต่งเซลล์เพื่อรักษาโรคก็ตาม

 

ที่สำคัญ ซึ่งสะดุดหูอยู่มาก ก็คือว่าความเข้าใจต่อ ‘เซลล์’ และ ‘DNA’ ในวงการแพทย์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ ‘ความชรา’ ถูกมองว่าเป็นโรคที่รักษาได้ด้วย เพราะความชราคือ ความเสื่อมระดับเซลล์

 

 

หนึ่งในส่วนที่น่าสนใจใน Osaka Healthcare Pavilion คือ การค้นพบของ บริษัท Glico หรือ ‘กูลิโกะ’ ที่คนไทยคุ้นเคยโดยกูลิโกะแสดงให้เห็นว่าต้น Persian Silk Tree มีฤทธิ์ในการกำจัดเซลล์ชรา หรือที่เรียกว่า Senescent Cells  และได้มีการจดสิทธิบัติไปเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2025 ที่ผ่านมา

 

‘REBORN’ วาร์ปไปอนาคต! มนุษย์จะดูแลสุขภาพอย่างไรในปี 2050 ที่โอซาก้า

 

 

ทำไมต้องกำจัดเซลล์ชรา?

 

เซลล์ชรา คือ เซลล์ที่เสื่อมและไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง เป็นผลจากปัจจัยทางอายุ และปัจจัยภายนอก เช่น พฤติกรรมสุขภาพที่ไม่ดี ฯลฯ พอมีมากขึ้นเซลล์เหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อเซลล์รอบข้าง เนื้อเยื่อก็เสื่อมลง กระบวนการชราก็เกิดขึ้น โรคที่เกิดจากอายุ อย่างโรคหลอดเลือดและหัวใจ โรคสมองและระบบประสาท มะเร็ง เบาหวานชนิดที่ 2 โรคข้อและกระดูกเสื่อม หรือโรคตา ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากเซลล์ชราแทบทั้งสิ้น!

 

นอกจากนี้ ประสิทธิผลของต้น Persian Silk Tree ในห้องทดลอง แสดงให้เห็นว่าสารนี้มันเข้าไปกำจัดเซลล์ชราโดยตรง โดยไม่ส่งผลต่อเซลล์ดีๆ รอบข้างด้วย!

 

‘REBORN’ วาร์ปไปอนาคต! มนุษย์จะดูแลสุขภาพอย่างไรในปี 2050 ที่โอซาก้า

 

 

กูลิโกะเผยผลจากการวิจัยโดยใช้ Persian Silk Tree พบว่า เมื่อผ่านระยะเวลา 47 ชั่วโมงเซลล์ชรายังคงอยู่ แต่กลับหายไปภายในเวลาเพียง 51.5 ชั่วโมงหลังจากใส่สารสกัด ในขณะที่เซลล์ปกติไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

โดยพบว่าจำนวนเซลล์ชราลดลงเหลือประมาณ 40% จากจุดเริ่มต้น แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการกำจัดเซลล์ชราอย่างจำเพาะเจาะจง ในขณะที่เซลล์ปกติไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

 

จุดภายในสี่เหลี่ยมซึ่งแสดงถึงผลลัพธ์ว่าเซลล์ชราหายไป

 

งานวิจัยของกูลิโกะชิ้นนี้ จึงเป็นตัวอย่างสำคัญที่ทำให้เห็นได้ว่า ในอนาคตการดูแลร่างกาย จะเข้าไปลึกถึงระดับเซลล์โดยตรง

ทั้งนี้ ทางกูลิโกะกำลังพิจารณาทดลองงานวิจัยนี้กับมนุษย์ในเฟสถัดไป

 

‘REBORN’ วาร์ปไปอนาคต! มนุษย์จะดูแลสุขภาพอย่างไรในปี 2050 ที่โอซาก้า

 

….

 

 

03 อนาคตของการดูแลสุขภาพ ด้วย ‘นวัตกรรม’

 

นอกจากที่ว่าเราจะดูแลสุขภาพลงลึกไปในระดับเซลล์ ในห้องจัดแสดงอื่นๆ ยังมีนวัตกรรมการดูและสุขภาพแบบใหม่ๆ ที่บางอย่างอาจจะไม่มีในไทยมาก่อน

 

เช่น iPS Cell ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดเทียม ที่คาดการณ์ว่าจะสามารถพัฒนาเป็นเซลล์ชนิดต่างๆ ของร่างกายได้ เช่น หัวใจ ตับ หรือเซลล์ประสาท ซึ่งจุดเด่นคือ สามารถสร้างเซลล์ที่เฉพาะบุคคลจากผู้ป่วยเอง ทำให้หมดปัญหาการปฏิเสธอวัยวะที่สร้างขึ้น

 

เทคโนโลยี Exoskeleton ที่ช่วยเพิ่มสมรรถภาพด้านการเคลื่อนไหวให้แก่ผู้สวมใส่

 

เครื่องซัก-อบมนุษย์  หรือเครื่องทำความสะอาดร่างกายแบบอัตโนมัติ ที่ทำให้การอาบน้ำผ่อนคลายได้แบบทะลุขีดจำกัด เพราะเป็นเครื่องทำความสะอาดร่างกายที่เน้นการส่งเสริมการพักผ่อนทั้งร่างกายและจิตใจอย่างเต็มที่ เป็นต้น

 

…..

 

 

มีคนพูดว่า ‘สุขภาพ’ กลายเป็น ‘ความร่ำรวย’ ใหม่ของมนุษย์ หรือ ‘Health is the new wealth’

 

ในปี 2050 เราจะได้เห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นและได้ใช้งานจริงหรือไม่ (เพราะตอนนี้ยังคงอยู่ในกระบวนการทดลองวิจัย)  คงไม่มีใครตอบได้ ณ ตอนนี้

 

อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องน่ายินดี ที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ได้เห็นใน Osaka Healthcare Pavillion แห่งนี้ ผ่านการวิจัยอย่างมีระบบ และเห็นว่าทางญี่ปุ่น เอาจริงเอาจังแค่ไหน กับนวัตกรรมของพวกเขา เพราะบริษัทต่างๆ ได้ทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ และเม็ดเงินมหาศาล เพื่อทำให้เกิดขึ้นได้จริง เพื่อให้มนุษย์มีสุขภาพที่ดี และสามารถใช้ชีวิตได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต.

 

ข่าวล่าสุด

ตำรวจไซเบอร์-ทหาร ถกเข้มชายแดนสระแก้ว เตรียมรับคนไทยจากกัมพูชากลับบ้าน!