ไทยคว้าเจ้าภาพงานใหญ่ 'Global Wellness Summit 2026' ดึงเม็ดเงินเข้าประเทศ!
ประเทศไทยคว้าเจ้าภาพงานใหญ่ 'Global Wellness Summit 2026' ด้านกรมการแพทย์แผนไทยฯ ชี้โอกาสทองขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามของไทย!
นายสมศักดิ์ กรีชัย รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน Global Wellness Summit 2026 (GWS 2026) ณ จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย ซึ่งถือเป็นเวทีสำคัญระดับโลกที่จะช่วยย้ำบทบาทของไทยในฐานะผู้นำด้านสุขภาพและความงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแพทย์แผนไทยและภูมิปัญญาดั้งเดิม
การที่ประเทศไทยได้รับเลือกในครั้งนี้จึงสะท้อนถึงศักยภาพและความเชื่อมั่นจากประชาคมโลก เพราะงาน GWS เป็นการประชุมประจำปีที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญ นักธุรกิจ นักลงทุน และผู้กำหนดนโยบายด้านสุขภาพจากทั่วโลก เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมในอนาคต
ประเทศที่เคยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดงานนี้ล้วนเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการลงทุน เช่น สหรัฐอเมริกา อิตาลี สำหรับในปี 2025 ปีนี้งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18–21 พฤศจิกายน 2568 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ภายใต้ธีมการจัดงาน “Longevity Through a Wellness Lens” การมองสุขภาพผ่านเลนส์แห่งความยั่งยืนของอายุขัย
ในฐานะเจ้าภาพ ประเทศไทยจะมีโอกาสสำคัญในการเสนอรายชื่อวิทยากรชั้นนำและร่วมกำหนดเนื้อหาทางวิชาการของงาน ซึ่งเป็นช่องทางสำคัญในการนำเสนอภูมิปัญญาไทยสู่สายตานานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น การแพทย์แผนไทย สมุนไพรไทย และการนวดไทย ซึ่งจะช่วยสร้างการรับรู้และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพในระดับภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม
อีกทั้งการเป็นเจ้าภาพ GWS 2026 คาดว่าจะช่วยสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยทางตรงจะสร้างรายได้ภายในงานมากกว่า 100 ล้านบาท ส่วนทางอ้อมรายได้จะมาจากผลพวงของการกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในวงกว้าง เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และบริการอื่นๆ
นอกจากนี้ การจัดงานยังเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power ของรัฐบาล และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมสุขภาพของไทยในระยะยาว โดยจะเปิดโอกาสให้เกิดการสร้างเครือข่ายธุรกิจ การลงทุน และความร่วมมือด้านนโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาโครงการใหม่ๆ และยกระดับบุคลากรไทยในอุตสาหกรรมนี้อย่างเป็นระบบ
นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า บทบาทของกระทรวงสาธารณสุขในปัจจุบันไม่ได้จำกัดอยู่แค่การรักษาพยาบาล แต่ยังรวมถึงการเป็นกลไกสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศผ่านอุตสาหกรรมสุขภาพที่มีศักยภาพ เช่น การท่องเที่ยว เชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ซึ่งกรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้เข้ามามีบทบาทเชิงรุกในการเชื่อมโยงระบบสุขภาพเข้ากับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยได้มุ่งส่งเสริมให้การแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทยมีมาตรฐานสากล พร้อมทั้งผลักดันบริการสุขภาพของไทยให้เป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยว เพื่อยกระดับศักยภาพและสร้างมูลค่าเพิ่มจากภูมิปัญญาของไทยในเวทีโลกอย่างแท้จริง.


