หามาให้! เกิดก่อน 2535 ฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี สิทธิไหนทำอะไรได้?
โพสต์ทูเดย์หามาให้! ผู้ที่เกิดก่อนปี 2535 อยากฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี สิทธิไหนทำอะไรได้บ้าง? และมีขั้นตอนอย่างไร?
KEY
POINTS
- ผู้ที่เกิดก่อนปี พ.ศ. 2535 เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่ควรตรวจและฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี เนื่องจากยังไม่ได้รับวัคซีนในวัยเด็ก และเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งตับ
- ประชาชนไทยทุกสิทธิที่เกิดก่อนปี 2535 สามารถใช้สิทธิตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg) ได้ฟรี 1 ครั้งตลอดชีวิต
- หากตรวจคัดกรองแล้วไม่พบเชื้อและไม่มีภูมิคุ้มกัน แนะนำให้ฉีดวัคซีน 3 เข็ม (มีค่าใช้จ่าย) แต่หากตรวจพบว่าติดเชื้อ จะเข้าสู่กระบวนการรักษาฟรีตามสิทธิหลักประกันสุขภาพ
จากข่าวเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ออกโรงเตือนผู้ที่เกิดก่อนปี พ.ศ.2535 ให้ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งพบว่าประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อราว 2-3 ล้านคน
นพ.ดำรงค์ สุกิจปัญญาโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ กล่าวว่า ไวรัสตับอักเสบมิได้เพียงเป็นโรคติดเชื้อธรรมดา แต่เป็นสะพานนำไปสู่มะเร็งตับ อย่างไรก็ตามโรคนี้ป้องกันได้ด้วยวัคซีน ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงถึง 95% ในการป้องกันการติดเชื้อ
ทั้งนี้ คนไทยทุกคนควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีอย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต โดยเฉพาะผู้ที่เกิดก่อนปี 2535 เพราะก่อนหน้ายังไม่มีการฉีดวัคซีนไวรัสตับบีในเด็กแรกเกิดอย่างทั่วถึง และยังไม่มีวัคซีนในวัยเด็ก โดยเฉพาะกลุ่มคนดังต่อไปนี้ อาทิ
- คนในครอบครัวเป็นพาหะไวรัสตับบี
- กลุ่มคู่สมรสหรือคู่นอนของผู้ติดเชื้อ
- กลุ่มผู้ติดเชื้อ HIV หรือไวรัสตับซี
- หญิงตั้งครรภ์ควรตรวจทุกคน ในช่วงฝากครรภ์ เพื่อป้องกันการถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ลูก
- กลุ่มที่อาชีพเสี่ยงสัมผัสเลือด อาทิ บุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ ผู้ดูแลผู้ป่วย
- คนที่เคยได้รับเลือด หรือทำหัตถการ เช่น สัก เจาะ ในที่ไม่ได้มาตรฐาน
สำหรับการฉีดวัคซีน 3 เข็มจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ 95% โดยย้ำว่าวัคซีนนั้นมีความปลอดภัยสูงไม่ก่อโรค และหากมีภูมิต้านทานแล้วจะคงอยู่ไปตลอดชีวิต
ป้องกันไวรัสตับอักเสบบี สำคัญอย่างไร
องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาเปิดเผยว่า ไวรัสตับอักเสบบีเป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งตับ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความชุกของ HBV สูง เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแอฟริกา และราว 50-80% ของผู้ป่วยมะเร็งตับเกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง นอกจากนี้ ผู้ติดเชื้อแบบเรื้อรัง มีความเสี่ยงเกิดมะเร็งตับเพิ่มขึ้นประมาณ 15-25 เท่าเมื่อเทียบกับผู้ไม่ติดเชื้อ และสำหรับประเทศไทย มะเร็งตับเป็นสาเหตุการเสียชีวิตจากมะเร็งอันดับต้น ๆ ของประเทศ
สิทธิไหนทำอะไรได้บ้าง
สำหรับการ ‘ฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี’ ในประชาชนทั่วไปที่เกิดก่อนปี 2535 อ้างอิงจากข้อมูลของ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 6 ระยอง ระบุว่ามี 3 ขั้นตอนสำคัญดังนี้
1. ตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบบี
วัตถุประสงค์ เพื่อค้นหาผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B virus หรือ HBV) เข้าสู่กระบวนการรักษาและป้องกันการแพร่เชื้อได้อย่างทันท่วงที รวมถึงการป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น เช่น โรคตับแข็งและมะเร็งตับ
สิทธิที่ทำได้ ประชากรไทย 'ทุกสิทธิ' ที่เกิดก่อนปี พ.ศ.2535 สามารถตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบบีได้ ฟรี จำนวน 1 ครั้งต่อชีวิต
2. หากตรวจคัดกรองแล้วพบว่า Negative ( ไม่พบการติดเชื้อ)
แนะนำขั้นตอนต่อไป คือ
- ตรวจ Anti-HBsAg เพื่อหาว่าในร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสตับอักเสบบีในร่างกายหรือไม่ ซึ่งสามารถบ่งบอกได้ว่า ‘เคยฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี’ หรือ ‘เคยติดเชื้อมาก่อนแล้วหาย’ ซึ่งไม่จำเป็นต้องฉีดไวรัสตับอักเสบบีเพิ่มเติม .. แต่..
- ฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี หากพบว่าร่างกายไม่มีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
3. หากตรวจคัดกรองแล้วพบว่า Positive (ติดเชื้อ)
จะเข้าสู่กระบวนการตรวจยืนยัน ประเมินและรักษาต่อไป และมีการแนะนำคนในครอบครัวให้มาตรวจคัดกรองด้วย ซึ่งการรักษาดังกล่าวจะจะอยู่ในสิทธิ UC คือเป็นการรักษาได้ฟรี ตามสิทธิการรักษา
ราคาค่าบริการเกี่ยวกับ ‘ไวรัสตับอักเสบบี’
1.การตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบบี ด้วย HBsAg ฟรี 1 ครั้งต่อชีวิต
2.การตรวจ Anti-HBsAg ราคาราว 300 บาท
3.ฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี
- เด็กไทยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติอายุ 0-5 ปี ค่าบริการฉีดวัคซีน 20 บาท/ครั้ง
- บุคคลทั่วไป ราว 200-600 บาทต่อเข็ม แล้วแต่สถานบริการที่ไปรับบริการ ซึ่งต้องฉีดทั้งหมด 3 เข็ม
ที่มา


