กางรายละเอียด ‘บัตรทอง‘ ปรับระบบพื้นที่วิกฤตชายแดนกัมพูชา
กางรายละเอียด สปสช. จัดระบบแก้ปัญหาผู้ป่วยบัตรทองในพื้นที่วิกฤตชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยัน รพ.-ผู้ป่วย ใช้สิทธิรักษาได้ไม่ว่าอพยพยไปจังหวัดไหนฟรี!
นพ.ดุสิต ขำชัยภูมิ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา และสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดภาคเหนือที่ส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงการรักษาพยาบาลของประชาชนผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) นั้น
หลังจากนี้ สปสช. จะทำหนังสือถึงหน่วยบริการเพื่อให้หน่วยบริการสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างสะดวกภายใต้สถานการณ์จำเป็น ดังนี้
1. การยืนยันตัวตนและการปิดสิทธิให้หน่วยบริการที่ได้รับผลกระทบ
มอบ สปสช. แต่ละเขตพื้นที่ทำหนังสือแจ้งขอยกเว้นการปิดสิทธิของหน่วยบริการที่ได้รับผลกระทบ และบริการที่เข้าข่าย เป็นรายกรณีตามความจำเป็น
การให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมนอกเวลาทำการและที่ทำเกินศักยภาพ ให้ยกเว้นหลักเกณฑ์กำหนดมาตรฐานของหน่วยบริการในพื้นที่ได้รับผลกระทบก่อน เพื่อให้หน่วยบริการฟอกไตสามารถปรับเพิ่มรอบการล้างไต และจะมีประกาศเพื่อรองรับ
2. การบริการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง (LTC)
สำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่อพยพมาจากต่างพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ให้ สปสช. เขตประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อให้การดูแลกลุ่มผู้ป่วยที่อพยพ โดยใช้งบประมาณกองทุน LTC ในการดูแล
3. ในกรณีผู้ป่วยมีภาวะพึ่งพิงที่จำเป็นต้องเดินทางมารับบริการที่หน่วยบริการ
ที่ประชุมได้มอบให้ สายด่วน สปสช. 1330 หารือกับมูลนิธิเส้นด้าย หรือประสานกับทาง อปท. ในการจัดบริการรถรับส่งสำหรับผู้ป่วย
4. กรณีกลุ่มผู้ที่อพยพเข้ามายังกรุงเทพมหานคร
ได้ให้ สปสช. เขต 13 กรุงเทพมหานคร ประสานกับสายด่วน สปสช. 1330 ในการจัดระบบดูแลผู้อพยพมาพักในพื้นที่ กทม. และทำหนังสือแจ้งหน่วยบริการในพื้นที่ในการรักษาผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาและบริการสาธารณสุข โดยให้ถือเป็น “กรณีเหตุสมควร”
5. บ้านของผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์จนเกิดความเสียหาย ทั้งกรณีของบริการน้ำยาล้างไตและผ้าอ้อมผู้ใหญ่
จะประสานเพื่อจัดส่งทดแทน โดยบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด (ปณด.) จะจัดส่งน้ำยาล้างไตให้ ส่วนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ทาง อบต./เทศบาลในพื้นที่จะเป็นผู้ดูแล
6. การจ่ายยาให้กับผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ได้รับผลกระทบซึ่งต้องรับยาต่อเนื่องนั้น
โรงพยาบาลสามารถดำเนินการได้เลย ซึ่งเป็นระบบปกติอยู่แล้ว และไม่ได้กำหนดไว้ว่าต้องจ่ายยาสำหรับ 7 วัน ทั้งหมดขึ้นอยู่กับโรงพยาบาล
พร้อมกันนี้ สปสช. ได้ชี้แจงประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ สามารถไปใช้บริการ 30 บาทรักษาทุกที่ได้ที่ร้านยาคุณภาพ ปรึกษาเภสัชกรและรับยาตามอาการได้ โดยดูจากหน้าร้านยาจะมีสติกเกอร์ 30 บาทรักษาทุกที่ติดที่หน้าร้าน
หรือประชาชนท่านใดสะดวกในการใช้โทรศัพท์เพื่อพบหมอออนไลน์ ก็ใช้บริการได้กับ 3 แอปพลิเคชัน เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ป่วยได้เข้ารักษานอกเหนือจากไปที่หน่วยบริการ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 โทรฟรี 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ย้ำว่า ประชาชนที่อพยพชั่วคราวไปอยู่พื้นที่อื่น ยังสามารถใช้สิทธิบัตรทองในการเข้ารับบริการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
และขอความร่วมไปยังหน่วยบริการในพื้นที่ หากมีผู้ป่วยสิทธิบัตรทองได้รับผลกระทบขอให้บริการโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย และยืนยันว่าสามารถทำการเบิกชดเชยค่าบริการดังกล่าวกับ สปสช. ได้.


