สมาคมโลหิตวิทยาฯ เตือน! ฟอกพลาสม่าชะลอวัย เสี่ยงสูง อาจตายได้!
สมาคมโลหิตวิยาแห่งประเทศไทย ออกโรงเตือน พลาสมาเฟเรซิสเพื่อชะลอวัย เสี่ยงสูงถึงตายได้! จากกรณีคลินิกหลายแห่งให้บริการ จนมีการรีวิวจากอินฟลูฯ ชื่อดัง
KEY
POINTS
- สมาคมโลหิตวิทยาแห่งประเทศไทยเตือนว่าการฟอกพลาสมาเพื่อชะลอวัยไม่มีหลักฐานทางการแพทย์รองรับ และมีความเสี่ยงสูงอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
- การฟอกพลาสมาเป็นหัตถการทางการแพทย์ที่มีข้อบ่งชี้สำหรับรักษาโรคบางชนิดเท่านั้น เช่น โรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน ระบบประสาท หรือโรคเลือด ไม่ใช่เพื่อความงาม
- มีความเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้หลายอย่าง เช่น ภาวะเลือดออกรุนแรง หัวใจเต้นผิดจังหวะ การติดเชื้อ และภาวะช็อค
- การทำหัตถการนี้ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
จากกรณีที่มีคลินิกหลายแห่งเปิดให้บริการ พลาสมาเฟเรซิส หรือการฟอกพลาสมาเพื่อหวังผลชะลอวัย และนำไปสู่การที่มีอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังออกมารีวิว
ล่าสุด ทางสมาคมโลหิตวิทยาแห่งประเทศไทย ได้ออกมาให้ความรู้กับประชาชน ยืนยันหัตถการดังกล่าวมีความเสี่ยงสูง และไม่มีหลักฐานรองรับว่าช่วยชะลอวัย
พญ.รัตตพร วิชิตรัชนีกร ภาควิชาเวชศาสตร์ชันสูตร คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ให้ข้อมูลว่า
การฟอกเลือดด้วยพลาสมา เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาเพื่อกำจัดสารผิดปกติที่ก่อให้เกิดโรคจากกระแสเลือด
โดยแยกส่วนพลาสมาหรือน้ำเหลืองออกจากเลือด เพื่อกำจัดสารที่เป็นตัวก่อโรคซึ่งหมุนเวียนอยู่ในพลาสมาออกจากร่างกาย
เมื่อแยกพลาสมาออกจากเลือดแล้ว ส่วนประกอบอื่นในเลือด ได้แก่ เม็ดเลือแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือดจะถูกส่งคืนกลับร่างกาย พร้อมกับชดเชยส่วนของพลาสมาด้วยสารอัลบูมินหรือพลาสมาแช่แข็ง
สำหรับข้อบ่งชี้ว่าเมื่อไหร่ที่ต้องทำพลาสมาเฟเรซิส?
คือต้องป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน หรือมีแอนติบอดีผิดปกติเท่านั้น ได้แก่
- โรคทางระบบประสาท เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง กิลแลง-บาร์เร
- โรคเลือด เช่น ภาควะเม็ดเลือดแดงแตกจากหลอดเลือดขนาดเล็ก ภาวะเลือดหนืดที่พบร่วมกับมะเร็งต่อมน้ำเหลืองหรือมะเร็งเม็ดเลือดมมัยอิโลมาโรคไตอักเสบ จากภูมิต้านทานทำลายเนื้อเยื่อไต
ทางสมาคมโลหิตวิทยาแห่งประเทศไทย ยังกล่าวว่า ไม่มีหลักฐานยืนยันว่า การฟอกเลือดด้วยเครื่องแยกพลาสมา ช่วยในการชะลอวัยหรือเพื่อความงาม
นอกจากนี้ ยังพบความเสี่ยงและอาการข้างเคียงที่ต้องระวังได้แก่
- ภาวะเลือดออกรุนแรงจากเกล็ดเลือดต่ำหลังฟอกเลือด ยิ่งถ้าเป็นโรคเลือดออกง่ายกว่าเดิม หรือกินยาต้านการแข็งตัวของเลือดอยู่จะเพิ่มความเสี่ยงเลือดออกในอวัยวะสำคัญได้
- หัวใจเต้นผิดจังหวะจากที่ได้รับสารป้องกันการแข็งตัวของเลือด คือ ซิเตรต ส่งผลให้แคลเซียมต่ำ ควบคุมการเต้นของหัวใจไม่ได้
- เกิดการติดเชื้อ หากได้รับพลาสมาหรือน้ำเหลือจากผู้อื่นและมีเชื้อโรคปนเปื้อน เช่น HIV ไวรัสตับอักเสบ เป็นต้น
- ปฏิกิริยาแพ้ จากการได้รับพลาสมา หรือน้ำเหลืองที่มาจากผู้อื่น
- ภาวะช็อค ความดันโลหิตต่ำ จากการที่เครื่องคัดแยกพลาสมามีการดึบเลือดออกจากร่างกายเพื่อทำการคัดแยก มักเกิดในผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคไต หรือผู้ที่ทานยาลดลดความดัน
ทั้งนี้ พลาสมาเฟเรซิส เป็นหัตถการทางการแพทย์ที่ซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูง อาจตายได้ ต้องทำเมื่อมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ และควรทำในสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน
กล่าวคือมีทีมแพทย์ พยาบาลและบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ได้แก่ โลหิตแพทย์ หรือแพทย์เวชศาสตร์การธนาคารเลือด เท่านั้น เพื่อเฝ้าระวัง ติดตามอาการ และแก้ไขภาวะแทรกซ้อนได้ทันท่วงที
การเข้ารับการรักษานอกสถานพยาบาลที่ขาดแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแลอย่างใกล้ชิดอาจนำไปสู่อันตรายถึงชีวิตได้!


