เช็ค! รพ. 5 แห่ง ลดบริการเหลือเฉพาะฉุกเฉินจากเหตุไทย-กัมพูชา
เช็ค! สธ.เผยรายชื่อโรงพยาบาลเพิ่มอีก 5 แห่ง ที่ลดบริการเหลือเฉพาะแผนกฉุกเฉิน จากเหตุการณ์ปะทะกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
KEY
POINTS
- เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาส่งผลกระทบต่อสถานบริการสาธารณสุขใน 6 จังหวัด โดยมีโรงพยาบาล 7 แห่งต้องปิดบริการ และอีก 10 แห่งลดการบริการเหลือเฉพาะกรณีฉุกเฉิน
- มีการอพยพเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในออกจากโรงพยาบาลในพื้นที่เสี่ยงไปยังที่ปลอดภัยแล้วรวม 583 ราย
- ยอดผู้บาดเจ็บสะสมจากเหตุการณ์อยู่ที่ 35 ราย และมีผู้เสียชีวิตคงที่ 13 ราย
- กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งรถพยาบาลเฉพาะทางเคลื่อนที่ เช่น รถล้างไตและรถโรคหลอดเลือดสมอง ไปยังพื้นที่เพื่อสนับสนุนการดูแลผู้ป่วย
ศูนย์ปฏิบัติการฯ กระทรวงสาธารณสุข รายงานเหตุปะทะชายแดนกัมพูชาส่งผลกระทบ
สถานบริการสาธารณสุขเพิ่มเป็น 6 จังหวัด ต้องปิดบริการ 7 แห่ง ลดการบริการเหลือเฉพาะฉุกเฉิน 10 แห่ง เคลื่อนย้ายผู้ป่วยในออกไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่ปลอดภัย 583 ราย
ประชาชนได้รับบาดเจ็บเพิ่ม 2 ราย รวมบาดเจ็บ สะสม 35 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตคงเดิม 13 ราย
ขณะที่ศูนย์พักพิง 315 แห่ง มีประชาชนเข้าพักรวม 93,006 คน เป็นกลุ่มเปราะบาง 10,586 ราย
ด้านกรมการแพทย์ส่งรถล้างไตเคลื่อนที่และรถโรคหลอดเลือดสมองเคลื่อนที่ประจำการที่รพร.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี คาดจะเดินทางถึงเย็นนี้
สำหรับรายชื่อโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบ วันนี้ (26 กรกฎาคม 2568) ที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์และการดูแลด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า
ข้อมูล ณ เวลา 09.00 น. มีสถานบริการสาธารณสุขใน จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ตราดและสระแก้ว ได้รับผลกระทบเพิ่มเป็น 17 แห่ง โดยโรงพยาบาลปิดให้บริการคงเดิม 7 แห่ง ได้แก่
- รพ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี
- รพ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี,
- รพ.กันทรลักษณ์ จ.ศรสะเกษ
- รพ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ,
- รพ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์
- รพ.กาบเชิง จ.สุรินทร์,
- รพ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์
และเปิดให้บริการเฉพาะฉุกเฉิน 10 แห่ง ได้แก่
- รพ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี,
- รพ.บัวเชด รพ.สังขะ รพ.ปราสาท จ.สุรินทร์,
- รพ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์,
- รพ.คลองใหญ่ รพ.บ่อไร่ จ.ตราด,
- รพ.ตาพระยา รพ.โคกสูง รพ.คลองหาด จ.สระแก้ว
โดยมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่ปลอดภัยรวมทั้งสิ้น 583 ราย
ขณะที่ประชาชนได้รับบาดเจ็บเพิ่ม 2 ราย อาการปานกลาง รวมบาดเจ็บสะสม 35 ราย ยังรักษาในโรงพยาบาล 16 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตคงเดิม 13 ราย
นพ.วีรวุฒิ กล่าวต่อว่า สำหรับประชาชนที่อพยพมายังศูนย์พักพิง ขณะนี้มีทั้งหมด 315 แห่ง ผู้เข้าพักรวม 93,006 คน
ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มเปราะบาง 10,586 ราย ประกอบด้วย
- ผู้พิการ 304 ราย
- ผู้สูงอายุ 8,114 ราย
- ผู้ป่วยติดเตียง 238 ราย
- หญิงตั้งครรภ์ 99 ราย
- เด็กเล็ก 0-5 ปี 1,591 ราย
- ผู้ป่วยฟอกไต 93 ราย
- ผู้ป่วยจิตเวช 147 ราย
จะมีเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์และสาธารณสุขประจำศูนย์ดูแล และมีทีมปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์ 45 ทีม ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม 165 ทีม ทีมเยียวยาจิตใจในภาวะวิกฤติ 59 ทีม พร้อมรถฉุกเฉินขั้นสูง 171 คัน ออกปฏิบัติงานในพื้นที่
และเช้าวันนี้ รพ.นพรัตราชธานี กรมการแพทย์ ยังได้ส่งรถฟอกไตเคลื่อนที่ 1 คัน และรถโรคหลอดเลือดสมองเคลื่อนที่ 1 คัน ออกเดินทางไปประจำการที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชเดชอุดม จ.อุบลราชธานี เพื่อสนับสนุนการบริการ รวมทั้งมีการประสานบุคลากรจิตอาสาเพื่อเตรียมพร้อมให้การสนับสนุนเพิ่มเติมหากได้รับการร้องขอด้วย


