ผ่าน FDA แล้ว! Apple พัฒนา AirPods Pro 2 เป็น 'เครื่องช่วยฟัง'
Apple พัฒนา AirPods Pro 2 เป็นเครื่องช่วยฟัง ทำให้อุปกรณ์เข้าใกล้ความเป็นเครื่องมือแพทย์และผ่าน FDA แล้ว หลังจากออกฟีเจอร์ตรวจจับการหยุดหายใจขณะหลับก่อนหน้านี้
KEY
POINTS
- AirPods Pro 2 ได้รับการอนุมัติจาก FDA ให้ทำหน้าที่เป็นเครื่องช่วยฟังสำหรับผู้ใหญ่ที่มีการสูญเสียการได้ยินเล็กน้อยถึงปานกลาง
- สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ (OTC) ทำให้เข้าถึงง่ายและมีราคาถูกกว่าเครื่องช่วยฟังแบบดั้งเดิม
- หลังจากที่ก่อนหน้านี้ปล่อยฟีเจอร์ ตรวจจับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea Detection) สำหรับ Apple Watch มาแล้ว
พัฒนาการสำคัญของ Apple หลังจากที่พยายามพัฒนาอุปกรณ์ให้เข้าสู่หมวดเทคโนโลยีสุขภาพ และทำให้อุปกรณ์เข้าใกล้ความเป็น 'เครื่องมือแพทย์' มากขึ้น ล่าสุด! AirPods Pro 2 ได้รับการอนุมัติจาก FDA สหรัฐอเมริกา ให้ทำหน้าที่เป็นเครื่องช่วยฟัง ซึ่งสามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ สำหรับผู้ใหญ่ที่มีการสูญเสียการได้ยินเล็กน้อยถึงปานกลาง และถือเป็นครั้งแรกที่อุปกรณ์หูฟังทั่วไปได้รับการรับรองจาก FDA ในลักษณะนี้
ประโยชน์ของอุปกรณ์ชิ้นนี้ จะช่วยความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงอุปกรณ์ช่วยฟังเป็นอย่างมาก
เนื่องจากเครื่องช่วยฟังแบบเดิมมีราคาแพงและต้องติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ แต่สำหรับ AirPods Pro 2 เปิดให้ผู้ใช้เริ่มต้นใช้งานง่ายๆ ด้วยการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ เริ่มต้นด้วยการทดสอบการได้ยิน 5 นาที บน iPhone หรือ iPad จากนั้นระบบจะวิเคราะห์ความสามารถในการได้ยินของผู้ใช้ และสร้างโปรไฟล์เฉพาะบุคคล ข้อมูลของผู้ใช้งานจะถูกเก็บในแอป Health และเครื่องจะปรับเสียงอัตโนมัติทั้งการโทร เพลง และสื่ออื่นๆ ให้เข้ากับการได้ยินของผู้ใช้งาน นอกจากนี้ Apple ยังเพิ่มโหมด ป้องกันการได้ยิน (Hearing Protection) ลดเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อมแบบเรียลไทม์ โดยฟีเจอร์นี้จะทำงานตลอดเวลา
การอนุมัติของ FDA ในครั้งนี้สอดคล้องกับนโยบายตั้งแต่ปี 2022 ที่เปิดทางให้มีเครื่องช่วยฟังแบบซึ่งสามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ (OTC) เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มการเข้าถึง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใหญ่ที่มีการสูญเสียการได้ยินเล็กน้อยถึงปานกลาง ซึ่งมีมากกว่า 30 ล้านคนในสหรัฐฯ
ตามข้อมูลของ WHO ทั่วโลกมีประชาชนกว่า 1.5 พันล้านคน หรือเกือบ 20% ของประชากรโลก ที่มีปัญหาการได้ยิน แต่ส่วนใหญ่ไม่ใช้เครื่องช่วยฟัง สาเหตุหลักคือราคาแพง เข้าถึงยาก และความอาย
Apple จึงพยายามแก้ไขปัญหานี้ ด้วยการรวมฟีเจอร์ช่วยฟังไว้ในอุปกรณ์ที่คนใช้เป็นประจำ แม้ราคาของ AirPods จะสูง แต่สำหรับคนที่มีอุปกรณ์แล้ว ฟีเจอร์นี้จะเพิ่มเข้ามาได้โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่มแต่อย่างใด!
ตรวจจับหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea Detiction) อีกฟีเจอร์ที่ FDA รับรอง
ก่อนหน้านี้ Apple ยังปล่อยฟีเจอร์ ตรวจจับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea Detection) สำหรับ Apple Watch Series 9, Series 10 และ Ultra 2 ฟีเจอร์นี้ใช้ข้อมูลการเคลื่อนไหวของข้อมือเพื่อตรวจหาความผิดปกติของการหายใจ ซึ่งผลลัพธ์จะถูกบันทึกในแอป Health ที่สามารถนำไปแชร์กับแพทย์ได้ โดยฟีเจอร์นี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างตั้งแต่ปี 2024 และได้รับการอนุมัติจาก FDA ต้นปี 2025 ก่อนจะเริ่มปล่อยใช้งานในกว่า 150 ประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ ยุโรป และเอเชียในกลางปีเดียวกัน
ประโยชน์สำคัญของฟีเจอร์นี้คือ ช่วยให้การตรวจคัดกรองเข้าถึงง่ายขึ้น ลดความจำเป็นที่จะต้องไปตรวจที่โรงพยาบาล (ต้องไปนอนโรงพยาบาลเพื่อสังเกตการนอน) ซึ่งเดิมต้องใช้เครื่องมือซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นโรคที่พบมากแต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ตัว หากปล่อยไว้เสี่ยงต่อโรคหัวใจ ความดันสูง และอุบัติเหตุจากอาการง่วงนอน
พัฒนาการที่มุ่งไปสู่เครื่องมือทางการแพทย์ของ Apple มากขึ้นครั้งนี้ ทั้ง AirPods และ Apple Watch แม้จะไม่ได้ถูกระบบว่าเป็นเครื่องมือแพทย์ แต่ก็จะเป็นอุปกรณ์เสริมที่สำคัญซึ่งทำให้การคัดกรองและวินิจฉัยของแพทย์ง่ายขึ้น ในขณะเดียวกัน Apple เองก็จะประสบความสำเร็จจากการมุ่งไปสู่การเป็นอุปกรณ์และแพลทฟอร์มสุขภาพซึ่งเป็นตลาดที่สร้างมูลค่าขนาดใหญ่และไม่เคยที่จะลดลงเลยแม้แต่น้อย.


