เข้าถึงสินเชื่อ! ขอประวัติจ่ายค่าน้ำ-ไฟประกอบ ผ่าน 'แอปทางรัฐ'

วันนี้ (13 กรกฎาคม 2568) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค เปิดตัว “บริการขอประวัติการใช้และชำระค่าน้ำ - ค่าไฟ” ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เพื่อประกอบการสมัครขอสินเชื่อ ภายใต้โครงการ “Your Data” ซึ่งช่วยให้ประชาชนใช้ข้อมูลของตนเองในการเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

บริการดังกล่าว ช่วยให้ประชาชนที่มีชื่อเป็นเจ้าของบัญชีค่าน้ำหรือค่าไฟ สามารถเรียกดูและดาวน์โหลดประวัติการชำระย้อนหลัง 6 เดือนของตนเองผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และสามารถนำไปใช้เป็นเอกสารประกอบการสมัครขอสินเชื่อกับผู้ให้บริการทางการเงินที่เข้าร่วมโครงการ ถือเป็นช่องทางใหม่ ที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ที่ที่ไม่มีรายได้ประจำสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น 

นอกจากนี้ ผู้ให้บริการสินเชื่อที่ได้รับข้อมูลดังกล่าว สามารถนำข้อมูลไปประมวลผลได้โดยอัตโนมัติ (machine - readable) มีการรับรองด้วยลายมือชื่อดิจิทัล (digital signature) และตรวจสอบได้ว่าข้อมูลไม่ถูกปลอมแปลงแก้ไข ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการให้บริการทางการเงินแก่ประชาชนโดยรวม

ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนและยืนยันตัวตนในแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” จากนั้นเลือกเมนู “การเงิน/ประกัน” และเข้าสู่ “ขอเอกสารประกอบการสมัครบริการทางการเงิน” เลือกหน่วยงานที่ต้องการ ระบุหมายเลขมิเตอร์ ตรวจสอบข้อมูล และยืนยันคำขอ ระบบจะจัดเก็บเอกสารไว้ในโทรศัพท์มือถือโดยอัตโนมัติ เพื่อนำไปยื่นขอสินเชื่อต่อไป

ทั้งนี้ การขอประวัติการใช้และชำระค่าน้ำ - ค่าไฟผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ถือเป็นทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์มาก เพราะสะดวก รวดเร็ว ไม่มีค่าใช้จ่าย และเพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อให้กับผู้มีวินัยในการจ่ายค่าน้ำ - ค่าไฟ เพราะข้อมูลที่แสดงพฤติกรรมการจ่ายที่ดี จะส่งผลต่อการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อในทางบวก

“โครงการนี้นับเป็นก้าวสำคัญของรัฐในการส่งเสริมให้ประชาชนใช้ประโยชน์จาก “ข้อมูลของตนเอง” เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงิน โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มที่เคยขาดหลักฐานทางรายได้ในรูปแบบเดิม" นางสาวศศิกานต์กล่าว

รายละเอียดเพิ่มเติม

สำหรับผู้ที่สามารถใช้บริการนี้ได้ คือประชาชนที่มีชื่อในทะเบียนผู้ใช้น้ำ-ไฟ (คู่สัญญา) และยืนยันตัวตนการใช้งานแอปพลิเคชันทางรัฐแล้ว โดยทางธนาคารแห่งประเทศไทย  ระบุว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งประชาชนและผู้ให้บริการสินเชื่อ เพราะเป็นการใช้ข้อมูลของตนเองในการเข้าถึงบริการทางการเงินที่ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันที่เป็นประโยชน์กับประชาชนมากขึ้น

โดยประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ คือ

• สะดวก  : ขอประวัติค่าน้ำ-ค่าไฟ ย้อนหลัง 6 เดือน ในที่เดียว ด้วยรูปแบบดิจิทัล
• ใช้งานง่าย และไม่มีค่าใช้จ่าย  : ขอเอกสารประวัติฯ ได้ง่าย ได้รับไว นำไปใช้ได้เลย
• เพิ่มโอกาสได้สินเชื่อ : พฤติกรรมการจ่ายที่มีวินัย ช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อ 

ส่วนประโยชน์ที่ผู้ให้บริการสินเชื่อจะได้รับ คือ

• ผู้ให้บริการทางการเงินหรือสถาบันการเงิน จะสามารถนำข้อมูลประวัติทางการเงินที่ได้รับจากประชาชนไปใช้วิเคราะห์ต่อได้ทันทีด้วยระบบอัตโนมัติ
• ข้อมูลเหล่านี้มีลายมือชื่อดิจิทัลรับรอง และตรวจสอบได้ว่าไม่ถูกแก้ไข ทำให้ข้อมูลมีความน่าเชื่อถือ ประหยัดเวลาในการตรวจสอบ และให้บริการได้รวดเร็วขึ้น
• ลดต้นทุนในการดำเนินงาน

ขั้นตอนการขอประวัติการชำระค่าน้ำ - ค่าไฟ

1. สมัครใช้งานแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” และยืนยันตัวตน
2. เข้าหมวดหมู่ “การเงิน/ประกัน” และเลือก “ขอเอกสารประกอบการสมัครบริการทางการเงิน”
3. เลือกหน่วยงานและมิเตอร์ที่ต้องการขอประวัติ
4. ตรวจสอบข้อมูล และกด “ขอเอกสาร” โดยเอกสารจะถูกเก็บในมือถือของเราเอง
5. นำเอกสารที่เป็นไฟล์ในมือถือไปยื่นสมัครสินเชื่อตามช่องทางที่ผู้บริการสินเชื่อกำหนดฃ

เอกสารประวัติ จะสะท้อนให้ผู้บริการสินเชื่อเห็นถึงพฤติกรรมการชำระเงินผ่านการใช้และชำระค่าน้ำ - ค่าไฟ ที่เป็นข้อมูลด้านการเงินของตัวเราเอง โดยผู้บริการสินเชื่อจะพิจารณาการปล่อยกู้จาก

• ข้อมูลส่วนบุคคล : เพื่อยืนยันความมีตัวตนและการมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งของผู้ยื่นกู้
• ข้อมูลประวัติการใช้และชำระค่าน้ำ - ค่าไฟ ย้อนหลัง 6 เดือน

สำหรับรายชื่อผู้ให้บริการสินเชื่อที่พร้อมรับเอกสารประวัติการใช้น้ำ-ไฟ จะมีมากถึง 30 ราย ซึ่งกลุ่มผู้บริการสินเชื่อที่ให้เปิดบริการในปี 2568 เริ่มรับเอกสารแล้ว นับตั้งแต่ 30 มิ.ย. เป็นต้นไป ปัจจุบันมี 3 รายได้แก่

• เงินดีดี
• เธียรสุรัตน์ ลีสซิ่ง
• พี.ซี.ทาวเวอร์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้

ในขณะที่ผู้ให้บริการสินเชื่ออีก 27 รายนั้น จะเริ่มรับเอกสารภายในสิ้นปีนี้ และในปี 2569 ตามรายละเอียดที่ทาง ธปท. ระบุไว้ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ www.bot.or.th  

ทั้งนี้ ข้อมูลประวัติการชำระค่าน้ำ-ค่าไฟ เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขอยื่นกู้สินเชื่อ การอนุมัติหรือไม่นั้นต้องขึ้นอยู่กับการดุลพินิจของผู้ให้บริการสินเชื่อแต่ละรายต่อไป